ทุกวันนี้รถจักรยานยนต์ถือได้ว่าเป็นยานพาหนะที่มีแทบจะทุกครัวเรือนเลยก็ว่าได้ และด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัยทำให้รถจักรยานยนต์สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส หรือที่นิยมเรียกกันว่า สตาร์ทมือ นั่นเอง แต่สิ่งที่จะทำให้การสตาร์ทมือใช้งานได้นั้นก็ต้องอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่มาช่วยนั่นเอง หากพลังงานแบตเตอรี่มีไม่เพียงพอก็หมดสิทธิ์ที่จะใช้งานสตาร์ทมือได้นั่นเองครับ บทความนี้มีเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับวิธีฟื้นฟูแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ไม่ได้ให้กลับมาใหม่เหมือนเดิมกันครับ จะเป็นอย่างไรนั้นเราไปดูกันเลยในรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ไม่เพียงแค่สตาร์ทมือไม่ได้ อาจจะรวมไปถึงการสตาร์ทด้วยเท้าไม่ติดด้วยก็มีนะครับ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่เป็นระบบหัวฉีด เมื่อแรงดันและกระแสไฟไม่เพียงพอที่จะทำให้ปั๊มหัวฉีดทำงานเพื่อฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงมายังหัวฉีดได้ก็เป็นการยากที่จะสตาร์ทด้วยเท้าติดเช่นกันครับ ซึ่งปัญหานี้ยังมีในรถบางรุ่นที่ยังไม่ได้รับการอัพเกรดเพื่อแก้ปัญหานี้ เพราะฉะนั้นแล้วแบตเตอรี่จึงมีความสำคัญมากๆ สำหรับรถจักรยานยนต์ระบบหัวฉีดและระบบสตาร์ทมือ เราไปดูขั้นตอนและวิธีการทำกันเลยครับ1. ให้เราทำการถอดแบตเตอรี่ออกจากตัวรถก่อนเลยนะครับ โดยให้ปิดสวิตช์กุญแจและถอดขั้วลบออกก่อน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับระบบกล่องควบคุม2. นำแบตเตอรี่มาแกะฝาครอบด้านบนออก โดยใช้ปลายไขควงหรือปลายมีดค่อยๆ แงะตรงจุดตามภาพ3. เมื่อแกะฝาครอบออกแล้วให้ดึงจุกฝาปิดรูน้ำกลั่นออกให้หมดทุกรู ระวังอย่าสัมผัสโดนน้ำกรดจากแบตเตอรี่ควรสวมใส่ถุงมือยางและแว่นนิรภัย เพราะในแบตเตอรี่คือน้ำกรด4. จะสังเกตเห็นได้ว่าน้ำกรดในแต่ละรูแทบจะไม่มีหรือแห้งไปเลย โดยปกติแล้วจะมีน้ำกรดในแบตเตอรี่ให้เห็นขึ้นมาพอดีกับปากรูเติม แต่ไม่ถึงกับล้น5. ให้เราใช้กระบอกเข็มฉีดยาดูดน้ำกลั่น ย้ำนะครับว่าให้ใช้น้ำกลั่น แล้วเติมลงในแบตเตอรี่ให้เต็มทุกรู ระวังอย่าให้ล้นนะครับให้ได้ระดับตามภาพ6. เสร็จแล้วถ้าจะนำไปชาร์จไฟอย่าพึ่งปิดจุกเติม แต่ถ้าจะนำไปประกอบใส่รถจักรยานยนต์เลยเพื่อให้ระบบชาร์จของรถชาร์จเองก็สามารถปิดจุกเติมและปิดฝาครอบหยอดกาวไว้เล็กน้อยก็พอ และค่อยนำไปประกับติดตั้งกับรถจักรยานยนต์ของเรา7. ขั้นตอนการติดตั้งแบตเตอรี่ให้ใส่ขั้วบวกก่อนนะครับและอย่าเปิดสวิตช์กุญแจไว้เพียงเท่านี้เราก็ได้แบตเตอรี่เก่ากลับมาใช้งานได้เหมือนแบตเตอรี่ใหม่อีกครั้ง ด้วยงบประมาณไม่ถึง 30 บาท และยังสามารถนำไปใช้กับแบตเตอรี่รถยนต์ได้อีกด้วย เหตุผลที่ใช้น้ำกลั่นเติมลงไปในแบตเตอรี่ทำไมไม่ใช้น้ำกรด เพราะในแบตเตอรี่ที่มาจากผู้ผลิตเขาได้เติมน้ำกรดมาเต็มแล้ว เมื่อน้ำกรดแห้งลงค่าความเป็นกรดยังมีอยู่เราจึงเติมน้ำกลั่นลงไปเพื่อให้ค่าความเป็นกรดได้ค่าที่เหมาะสม ถ้าเราเติมน้ำกรดเข้าไปอีกก็จะเป็นการเพิ่มค่าความเป็นกรดหรือพูดง่ายๆ คือ ไม่ทำให้มีประจุ ไอออนบวก ไอออนลบ นั่นเองครับ เพื่อนๆ ลองนำไปทำตามกันดูนะครับ ภาพโดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !