“เมืองฟองน้ำ” คำตอบและทางออก แก้ปัญหาน้ำท่วมของโปรตุเกส

โครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำขนาดยักษ์ในซานตา อาโปโลเนีย กรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน โดยรัฐบาลโปตุเกสใช้เงินลงทุนไปมากกว่า 250 ล้านยูโร เชื่อมต่ออุโมงค์ระบายน้ำความยาว 5 กิโลเมตรกับพื้นที่ทางตอนเหนือและแม่น้ำเทกัส สามารถรองรับการระบายน้ำได้ถึง 175 ลูกบาศก์เมตร/วินาที นอกจากนี้ยังมีจุดรับน้ำอีกหลายแห่ง ทั้งหมดนี้เพื่อปกป้อง “กรุงลิสบอน” จากความเสี่ยงน้ำท่วมเมือง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการถกเถียงกันอย่างมากก็ตาม 

นอกจากอุโมงค์ระบายน้ำขนาดยักษ์แล้ว ภายในเมืองลิสบอนยังมีการสร้างบ่อรับน้ำและพื้นที่ดูดซับน้ำในสวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียวทั่วเมืองเพื่อกักเก็บน้ำฝนและสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้อีกครั้ง ช่วยประหยัดค่าน้ำในเมืองได้หลายล้านยูโรต่อปี ทำให้กรุงลิสบอนกลายเป็น “เมืองฟองน้ำ” ที่สามารถนำมาใช้ได้จริง แทนการปล่อยให้น้ำฝนไหลท่วมและสร้างความเสียหายให้กับเมือง

ข้อมูลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยลิสบอนระบุว่า เหตุการณ์ฝนตกหนักสุดขั้วที่มีฝนตกเกิน 120 มม.ใน 24 ชั่วโมง มีโอกาสเกิดบ่อยขึ้นถึง 5 เท่า ภายในระยะเวลาอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า และย้อนกลับไปเมื่อปี 2022 “กรุงลิสบอน” เผชิญกับ “ฝนร้อยปี” ถึง 2 ครั้งภายในระยะเวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์ เหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างหนักกับชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน ดังนั้นโครงการอุโมค์ยักษ์ระบายน้ำใต้ดินอาจเป็นโครงการที่มองไม่เห็น แต่จะช่วยให้ชาวเมืองลดผลกระทบจากน้ำท่วมเมืองได้อย่างแน่นอน 

แม้ว่าโมเดล “เมืองฟองน้ำ” จะเป็นคำตอบที่อาจช่วยปกป้องเมืองใหญ่ในยุโรปและทั่วโลกจากความเสี่ยงที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วม แต่โครงการนี้ก็ยังเป็นสิ่งท้าทาย ในการหาเงินลงทุนจำนวนมาก รวมถึงความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานของเมืองขนาดเล็กและเมืองขนาดกลางที่ยังมีข้อจำกัดบางประการ