"พรีบิลท์" ลุยอสังหาฯ แนวราบ ตั้งเป้าเปิดใหม่ปีละ 4 โครงการ
นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จํากัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทจะโฟกัสไปที่โครงการ “พิมนารา ศรีนครินทร์ – บางนา” ภายใต้การพัฒนาของ บริษัท พรีบิลท์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทลูกของพรีบิลท์ ซึ่งเปิดให้ชมบ้านตัวอย่างปลายปี 2564 โดยโครงการได้รับการตอบรับจากลูกค้าจำนวนมาก ปัจจุบันสามารถขายบ้านได้แล้ว 20 % ของเฟสที่เปิดขาย และยังมียอดจองทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวระดับราคา 6.7 – 8 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้ารายได้ระดับปานกลาง ที่ต้องการเลือกซื้อโครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว มีความโปร่ง โล่งสบาย มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ทั้งห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวพร้อม Bathtub ในห้องน้ำ Master ห้องเอนกประสงค์ ห้อง Living Room พร้อมกับ LDK Function Design ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่ครบครัน พิเศษสุด ด้วยบ้านเลขที่ เริ่มต้นด้วย 999 และขนาดของโครงการที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เพียง 99 ยูนิต จึงสามารถตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
นายวิโรจน์กล่าวว่า นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการพรรณนา บ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทลงทุนเองเป็นโครงการแรก โดยเปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 ถือเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จากความต้องการของลูกค้าที่ล้นหลาม โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในไตรมาส 2 – 3 นี้ และจะสามารถโอนบ้านให้ลูกค้าทั้งหมดได้ภายในไตรมาส 3 ซึ่งจากการตอบรับดังกล่าว บริษัทจึงมีแผนที่จะพัฒนาโครงการพรรณนา 2 ในเร็วๆ นี้
นายวิโรจน์ กล่าวว่า สำหรับแผนงานในช่วงครึ่งหลังปี 2565 บริษัทเตรียมที่จะเปิดตัวโครงการ พิมนารา ธรรมศาสตร์ รังสิต บ้านเดี่ยว 2 ชั้น และพรี วิลเลจ ธรรมศาสตร์ รังสิต ทาวน์โฮม 2 ชั้น บนทำเล ติดทางด่วน เชียงราก และใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ในช่วงไตรมาส 2 – 3 ของปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนในการหาที่ดินเพื่อทำการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่วางแผนไว้ปีละ 4 โครงการ เบื้องต้น จะเน้นไปที่แนวราบ ส่วนอนาคตมีแผนจะขยายไปในทุกเซ็กเมนต์ทั้ง ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และโฮมออฟฟิศ
จากแผนงานตลอดปีนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน พรีบิลท์ ดีเวลลอปเมนท์ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) ทั้งงานรับเหมาก่อสร้างและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปี 2564-2566 โดยปี 2565 คาดว่า จะรับรู้รายได้ประมาณ 1,005 ล้านบาท จากส่วนงานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทฯ ลงทุนเอง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้จากโครงการพรรณนาในส่วนที่เหลือ 727 ล้านบาท และจากโครงการ “พิมนารา ศรีนครินทร์ – บางนา” อีกประมาณ 278 ล้านบาท