9 แนวทางป้องกันควบคุม สัตว์และแมลงพาหะ หลังน้ำท่วม ทำยังไงดี อ่านต่อเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลังน้ำท่วมผ่านไป หลายคนอาจโล่งใจว่าวิกฤตสิ้นสุดแล้ว แต่ในความเป็นจริงปัญหาใหม่กำลังเกิดขึ้นค่ะ โดยเฉพาะเรื่องสัตว์และแมลงพาหะที่สามารถก่อความเจ็บป่วยในคนเราได้ เพราะการมีน้ำท่วมได้ไปทำลายที่อยู่เดิมของสัตว์เหล่านี้ ทำให้สิ่งมีชีวิตกุ่มนี้ต้องอพยพเข้ามาใกล้บ้านเรือนและพื้นที่อยู่อาศัยของคนแทน โดยอาจพบว่ามีหนูลอยมากับน้ำและหาที่หลบซ่อนในโรงเก็บของหรือครัว แมลงวันและแมลงสาบเพิ่มจำนวน เพราะมีเศษอาหารและขยะหมักหมมตามคราบโคลน แอ่งน้ำเล็กๆ หลังน้ำลดกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้มีส่วนทำให้เกิดความเสี่ยงด้านสุขอนามัยตามมาได้ค่ะ ซึ่งการรู้แนวทางจัดการสัตว์และแมลงพาหะหลังน้ำท่วมเป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพราะช่วยให้เราลดความเสี่ยงได้ตั้งแต่ต้นทาง แทนที่จะรอให้ปัญหาลุกลามจนควบคุมยาก การมีความรู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนและทำอะไรบ้าง จะช่วยให้การจัดการได้เป็นระบบมากขึ้น ไม่หลงลืมขั้นตอนสำคัญ และใช้แรง เวลา รวมถึงทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า อีกทั้งการรู้วิธีที่ถูกต้องยังช่วยลดความผิดพลาด เช่น การใช้สารเคมีเกินความจำเป็น หรือการทำความสะอาดไม่ตรงจุดที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์จริง นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสื่อสารกับคนในครอบครัวหรือชุมชนได้ชัดเจนอีกด้วย เมื่อทุกคนสามารถลงมือทำพร้อมกันและต่อเนื่อง จะทำให้การป้องกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดโอกาสเกิดการแพร่ระบาดของความเจ็บป่วยในระยะยาวได้ค่ะ และต่อไปนี้คือ 9 ตัวอย่างของแนวทางป้องกันและควบคุมค่ะ 1. เริ่มจากการกำจัดน้ำขังรอบบ้าน หลังน้ำท่วมแอ่งน้ำเล็กๆ มักกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงอย่างรวดเร็วได้ค่ะ จึงควรเดินสำรวจรอบบ้าน เทน้ำที่ค้างอยู่ในภาชนะหรือพื้นที่เป็นแอ่ง รวมถึงคว่ำถังหรือกระถางที่ไม่ได้ใช้ เพื่อไม่ให้น้ำฝนหรือความชื้นสะสมเพราะ ยุงลายสามารถวางไข่และฟักเป็นลูกน้ำภายในไม่กี่วัน การกำจัดแหล่งน้ำขังทุก 7 วัน จะช่วยตัดวงจรการแพร่พันธุ์ยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควรทำอย่างต่อเนื่องจนแน่ใจว่าไม่มีแหล่งน้ำหลงเหลืออยู่นะคะ 2. ให้ความสำคัญกับการปิดกั้นทางเข้าของสัตว์พาหะ น้ำที่ลดลงมักทำให้หนูและสัตว์เลื้อยคลานออกหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าจะเข้ามาในบ้านของเราได้ ดังนั้นควรตรวจสอบประตู หน้าต่าง ช่องระบายอากาศ และรูเล็กๆ ใช้ตะแกรงลวดหรือวัสดุปิดกันไม่ให้ลอดเข้ามาได้ โดยเฉพาะห้องครัวและพื้นที่เก็บอาหาร ซึ่งการติดตะแกรงที่ท่อระบายน้ำหรือฝาท่อ ก็ช่วยกันไม่ให้สัตว์และแมลงพาหะขึ้นจากท่อน้ำเสียเข้ามาภายในบ้านได้ค่ะ โดยการปิดกั้นนี้จะเป็นเหมือนสร้างเกราะป้องกันรอบตัวบ้านของเรานะคะ 3. จัดการขยะและเศษอาหารอย่างถูกวิธี รู้ไหมคะว่า เศษอาหารและขยะเปียกเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแมลงวัน หนู และแมลงสาบ หลังน้ำท่วมระบบจัดเก็บขยะอาจยังไม่เข้าที่เข้าทาง ดังนั้นควรแยกขยะเปียกใส่ถุง ปิดให้แน่น และเก็บในถังที่มีฝาปิดมิดชิด อย่าทิ้งเศษอาหารลงพื้นหรือหลังบ้าน เพราะจะดึงดูดพาหะเข้ามาอย่างรวดเร็ว การเก็บและกำจัดขยะให้ถูกวิธีเป็นการตัดเส้นทางหาอาหารของสัตว์และแมลงพาหะชนิดต่างๆ ได้ค่ะ 4. ใช้สารกำจัดแมลงอย่างปลอดภัยและเหมาะสม เมื่อพบแมลงวัน ยุง หรือแมลงสาบเพิ่มจำนวน เราควรเลือกใช้สเปรย์กำจัดแมลง เหยื่อล่อ หรือทรายอะเบทตามความเหมาะสมค่ะ แต่ให้อ่านฉลากและทำตามคำแนะนำทุกครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยง โดยให้หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นบริเวณมีอาหารหรือเครื่องครัว และต้องจัดเก็บสารเคมีในที่มิดชิด ไม่ให้เด็กหรือสัตว์เลี้ยงเข้าถึงได้ค่ะ 5. รักษาความสะอาดพื้นที่อยู่อาศัยสม่ำเสมอ เนื่องจากว่าโคลนและสิ่งสกปรกที่หลงเหลือจากน้ำท่วม มักเป็นที่ซ่อนตัวไข่สัตวและแมลงพาหะ รวมไปถึงจุลินทรีย์ด้วย ดังนั้นเราควรทำความสะอาดพื้น ผนัง และเฟอร์นิเจอร์ด้วยน้ำผสมผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาด โดยเฉพาะในครัว ห้องน้ำ และจุดอับชื้นต่างๆ ควรเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทและแสงแดดส่องถึง เพื่อลดความชื้นซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่แมลงพาหะชื่นชอบ 6. ดูแลแหล่งน้ำใช้ให้ปลอดภัย หลังน้ำท่วม แหล่งน้ำใช้ภายในบ้าน เช่น โอ่งน้ำ บ่อน้ำ หรือถังเก็บน้ำ สามารถกลายเป็นจุดเสี่ยงที่พาหะโดยเฉพาะยุงลายใช้วางไข่ได้ค่ะ หากเป็นไปได้ควรปิดฝาภาชนะให้สนิท เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงเข้ามาได้ แต่หากจำเป็นต้องเก็บน้ำในภาชนะเปิด ควรใส่ทรายอะเบทในปริมาณที่เหมาะสม หรือเลี้ยงปลากินลูกน้ำเพื่อช่วยลดการเพาะพันธุ์ของยุง ซึ่งการดูแลนี้ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันความเจ็บป่วยจากที่มียุงเป็นพาหะเท่านั้น แต่ยังลดความรำคาญจากยุงรำคาญได้ด้วย นอกจากนี้ควรตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพราะน้ำที่ปนเปื้อนสามารถส่งกลิ่นและดึงดูดสัตว์หรือแมลงอื่นๆ ให้เข้ามาได้ การทำความสะอาดภาชนะเก็บน้ำทุก 1–2 สัปดาห์ รวมถึงขัดคราบตะไคร่น้ำออก จะช่วยรักษาความสะอาดและป้องกันการเกิดแหล่งเพาะพันธุ์พาหะในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ 7. ใส่ใจการจัดเก็บอาหารและวัตถุดิบ หลังน้ำท่วมปริมาณหนูและแมลงสาบมักเพิ่มขึ้น เพราะออกมาหาแหล่งอาหารใหม่ ดังนั้นอาหารแห้งอย่างข้าวสาร แป้ง น้ำตาล ควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิทค่ะ เพื่อป้องกันการรุกล้ำของสัตว์พาหะ และยกสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 ซม. เพื่อหลีกเลี่ยงความชื้นและป้องกันการปีนขึ้นมาถึงได้ง่าย ควรตรวจสอบภาชนะบรรจุอย่างสม่ำเสมอว่ามีรอยเจาะหรือไม่ และหากพบควรเปลี่ยนทันที ซึ่งการจัดสต็อกอย่างเป็นระเบียบตามหมวดหมู่และระบุวันที่ซื้อ จะช่วยให้หยิบใช้ง่ายและป้องกันการลืมของเก่าไว้จนเสื่อมสภาพ ตลอดจนการใช้หลัก “มาก่อนใช้ก่อน” หรือ FIFO (First In, First Out) ยังช่วยลดโอกาสที่อาหารจะหมดอายุ หรือกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงในที่สุด 8. ร่วมมือกับชุมชนในการควบคุมพาหะ หลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า การป้องกันสัตว์และแมลงพาหะไม่สามารถทำได้เพียงบ้านเดียว เพราะพาหะสามารถเคลื่อนย้ายจากพื้นที่หนึ่งไปอีกพื้นที่ได้ง่าย การสร้างความร่วมมือในชุมชนจึงเป็นกุญแจสำคัญค่ะ เช่น การนัดหมายทำความสะอาดครั้งใหญ่พร้อมกันทุกบ้าน เพื่อกำจัดขยะและน้ำขังรอบพื้นที่ การแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขให้มาฉีดพ่นหมอกควันหรือวางเหยื่อกำจัดหนูในจุดเสี่ยง การแบ่งหน้าที่กันดูแลพื้นที่ เช่น ทีมดูแลถนนซอย ทีมเก็บขยะในพื้นที่รกร้าง จะช่วยให้มาตรการครอบคลุมทุกจุดากขึ้น เมื่อทุกคนร่วมมือกันลงมือพร้อมกัน ความชุกชุมของพาหะจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดและป้องกันการระบาดได้ดีกว่าการทำคนเดียวนะคะ 9. ใช้กับดักสัตว์พาหะในจุดเสี่ยง คุณผู้อ่านรู้ไหมะว่า ในกรณีที่เราพบร่องรอยของสัตว์พาหะ เช่น มูลหนู รอยกัดแทะ หรือรอยทางเดิน แบบนี้เราควรวางกับดักในจุดที่คาดว่าจะมีการผ่านบ่อยค่ะ เช่น ริมผนัง หลังตู้ หรือใกล้ถังขยะ อาจเลือกใช้กรงดักหนูหรือกับดักกาว โดยใช้เหยื่อที่ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง เช่น อาหารแห้งหรือถั่วลิสง การใช้กับดักเป็นวิธีควบคุมที่ลดการพึ่งพาสารเคมีนะคะ ที่ทำให้ปลอดภัยกับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น ตลอดจนควรตรวจสอบกับดักทุกวันและกำจัดสัตว์ที่จับได้อย่างถูกวิธี รวมถึงเปลี่ยนตำแหน่งกับดักเป็นระยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดักจับค่ะ ก็จบแล้วค่ะ กับทั้ง 9 แนวทาง พอจะมองเห็นภาพกันบ้างแล้วนะคะ โดยเมื่อเราเข้าใจแล้วว่าสัตว์และแมลงพาหะหลังน้ำท่วม มีความเสี่ยงต่อสุขอนามัยเพียงใด ขั้นตอนแรกในสถานการณ์จริง คือ การออกไปสำรวจรอบพื้นที่อยู่อาศัยทันทีหลังน้ำลดค่ะ ควรสังเกตแหล่งน้ำขัง เศษขยะ หรือคราบโคลน ที่อาจเป็นที่หลบซ่อนและเพาะพันธุ์ของพาหะ หากพบแอ่งน้ำควรเททิ้งหรือใส่ทรายอะเบท หากเจอเศษอาหารหรือขยะเปียกต้องรีบนำไปกำจัดในถังที่ปิดสนิท ซึ่งการเริ่มจากจุดที่เสี่ยงสูงที่สุดก่อน จะช่วยลดความเสี่ยงได้เร็วโดยไม่ทำให้รู้สึกว่าต้องจัดการทุกอย่างไปพร้อมกันนะคะ อย่างไรก็ตามเราไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างภายในวันเดียวค่ะ เพราะการป้องกันสัตว์และแมลงพาหะหลังน้ำท่วมเป็นกระบวนการต่อเนื่อง สิ่งที่ควรทำคือจัดลำดับความสำคัญ ให้เริ่มจากสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัยโดยตรงก่อน เช่น กำจัดน้ำขัง ปิดกั้นทางเข้าของสัตว์ และเก็บอาหารให้มิดชิด จากนั้นค่อยทำความสะอาดพื้นที่ให้หมดคราบโคลนและสิ่งสกปรก รวมถึงตรวจสอบแหล่งน้ำใช้ให้ปลอดภัย การค่อยๆ จัดการเป็นขั้นตอนจะช่วยให้ไม่เหนื่อยเกินไป และสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอนะคะ และเมื่อเราเริ่มต้นได้อย่างถูกลำดับขั้นตอนก่อนหลังแล้ว จากนั้นการติดตามและดูแลต่อเนื่องก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพราะสัตว์และแมลงพาหะสามารถกลับมาได้หากสภาพแวดล้อมเอื้ออีก ดังนั้นควรกำหนดเวลาตรวจสอบทุกสัปดาห์ เช่น ตรวจภาชนะเก็บน้ำ ดูว่ามีเศษอาหารตกค้างหรือไม่ และทำความสะอาดจุดอับชื้นอย่างสม่ำเสมอ หากพบปัญหาที่เกินกำลัง เช่น การระบาดของยุงหรือหนูจำนวนมาก แบบนี้ควรประสานกับหน่วยงานสาธารณสุขหรือชุมชนเพื่อจัดการร่วมกันนะคะ ซึ่งการดูแลแบบนี้จะช่วยให้บ้านปลอดภัย และลดโอกาสการเกิดความเจ็บป่วยหลังน้ำท่วมได้ค่ะ โดยจากประสบการณ์ของผู้เขียนนั้น เคยได้ให้คำแนะนำกับน้องสาวที่เคยเจอกับปัญหาเรื่องสัตว์และแมลงพาหะ หลังจากที่น้ำท่วมที่บ้านลดหายไปค่ะ ที่ในตอนนั้นเจอว่าแมลงสาบเยอะมาก ทั้งไข่และขี้ของแมลงสาบ กับมีเรื่องของยุงที่มาทางท่อระบายน้ำ โดยในตอนนั้นในส่วนของแมลงสาบ จัดการด้วยการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อค่ะ และในส่วนของยุงก็คือได้ติดตั้งที่ดักกลิ่นในส่วนของพื้นห้องน้ำเข้าไป และฉีดพ่นสารเคมีเพื่อกำจัดยุงลาย ซึ่งต่อการนั้นเรื่อยมาในการดูแลต่างๆ น้องสาวของผู้เขียนก็ยังได้ทำมาต่อเนื่องค่ะ ถึงแม้ว่าน้ำจะเลิกท่วมไปนานแล้วก็ตาม อ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะเห็นว่า การป้องกันและควบคุมสัตว์และแมลงพาหะ เป็นประเด็นที่เราต้องจัดการและสะสางตลอดนะคะ เพราะปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี ต่อให้น้ำท่วมจะลดลงไปแล้วก็ตาม ยังไงนั้นก็อย่าลืมนำแนวทางต่างๆ ไปปรับใช้กันค่ะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ #การควบคุมพาหะนำโรค #สัตว์และแมลงพาหะ #การปรับปรุงสิ่งแวดล้อม #VectorControl เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกออกแบบโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1-2,4 โดยผู้เขียน และภาพที่ 3 โดย Freepik จาก FREEPIK เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 8 วิธีจัดการสิ่งของปนเปื้อน หลังน้ำท่วม ที่ไม่สามารถใช้ได้ 9 วิธีดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล สำหรับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ทำไงดี 9 แนวทางรับมือการระบาดของยุง ช่วงหน้าฝน ภายในบ้าน ทำยังไงดี เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !