บึงสีไฟ : สวรรค์คลายร้อน ท่ามกลางธรรมชาติ ร่มรื่น เย็นสบาย
นายโกมุท ปัญจมาภิรมย์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพิจิตร ระบุว่าด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้ โดยมีอุณหภูมิสูงถึง 40-44 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนหันมาหาแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเพื่อคลายร้อนกันมากขึ้น หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมคือ บึงสีไฟ บึงน้ำจืดขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ และเป็นที่ตั้งของรูปปั้น "พญาชาละวัน" ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นายโกมุท กล่าวว่า บึงสีไฟได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่มรื่นและเย็นสบาย ด้วยการปรับปรุงภูมิทัศน์ เพิ่มจุดนั่งพักผ่อน ศาลาริมน้ำ และสวนพันธุ์ไม้ที่สวยงาม มีทางเดินชมธรรมชาติ สะพานทอดยาวออกไปในบึง ให้นักท่องเที่ยวได้ชมพันธุ์ปลาและนกนานาชนิด ที่สำคัญคือ อากาศบริเวณบึงที่เย็นสบายตลอดทั้งวันจากลมธรรมชาติที่พัดจากผืนน้ำ ช่วยให้อุณหภูมิไม่ร้อนจัดจนเกินไป
ทั้งนี้ เทศบาลเมืองพิจิตรได้พัฒนาระบบน้ำพุลอยน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งรอบบึง เพื่อเพิ่มความสวยงาม ช่วยเพิ่มออกซิเจน ปรับคุณภาพน้ำ ลดอุณหภูมิ และเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ พร้อมติดตั้งระบบพ่นน้ำในบริเวณสวนเพิ่มความเย็นสบายแก่ผู้มาเยือน
นอกจากนี้ นายโกมุทยังเผยว่า ภายใต้ท้องพญาชาละวันมีห้องสมุดขนาดใหญ่ติดแอร์เย็นฉ่ำ และมีต้นไม้พระราชทานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปลูกไว้เมื่อครั้งเสด็จฯ ทรงเปิดโครงการพัฒนาบึงสีไฟ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2567
ด้วยเหตุนี้ บึงสีไฟจึงกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งหมู่คณะ ครอบครัว และคู่รัก ให้มาพักผ่อน ผ่อนคลาย หลบร้อน ท่ามกลางบรรยากาศแสนสดชื่นของธรรมชาติ ตามที่นายโกมุท ปัญจมาภิรมย์ ได้กล่าวไว้