สหรัฐฯ พบการห้ามทำแท้งอาจดัน 'อัตราคลอดก่อนกำหนด' พุ่งสูง

นิวยอร์ก, 18 มี.ค. (ซินหัว) -- รายงานจากองค์กรมาร์ช ออฟ ไดมส์ (March of Dimes) ของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อปลายปีที่แล้ว ระบุว่าประมาณ 1 ใน 10 ของการเกิดมีชีพในสหรัฐฯ เมื่อปี 2021 เกิดขึ้นก่อนกำหนดที่ช่วงก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์เมื่อวันพุธ (15 มี.ค.) สถานีวิทยุสาธารณะแห่งชาติของสหรัฐฯ (NPR) เผยว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นอัตราการคลอดก่อนกำหนดที่สูงกว่ากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ โดยงานวิจัยช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพบว่าอัตราการคลอดก่อนกำหนดในอังกฤษและเวลส์อยู่ที่ร้อยละ 7.4 ในฝรั่งเศสที่ร้อยละ 6 และในสวีเดนที่ร้อยละ 5.8คณะผู้เชี่ยวชาญด้านมารดาและทารกในครรภ์หลายคน ต่างแสดงความกังวลว่าอุบัติการณ์การคลอดก่อนกำหนดอาจเพิ่มสูงขึ้นในไม่ช้า เนื่องด้วยขณะนี้การทำแท้งถูกสั่งห้ามในอย่างน้อย 13 รัฐของประเทศ ขณะอีก 12 รัฐ จำกัดการทำแท้งอย่างเด็ดขาดรายงานดังกล่าวอ้างอิงผลวิเคราะห์ล่าสุดจากกองทุนคอมมอนเวลท์ ซึ่งชี้ว่ารัฐที่จำกัดการทำแท้งมีผู้ให้บริการดูแลสุขภาพมารดาน้อยกว่ารัฐที่สามารถเข้าถึงการทำแท้งได้ขณะเดียวกัน งานวิจัยใหม่ที่น่าตกใจแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงผิวดำและทารกของพวกเธอเผชิญผลการคลอดที่แย่กว่าผู้หญิงผิวขาวในทุกระดับรายได้ของสหรัฐฯสถานีฯ เผยความเห็นต่องานวิจัยข้างต้นว่าทรัพยากรทั้งหมดที่มาพร้อมกับความมั่งคั่งร่ำรวยไม่ได้ปกป้องผู้หญิงผิวดำหรือทารกของพวกเธอจากการคลอดก่อนกำหนด