เอกชนชี้ท่องเที่ยวยังฟื้นตัวน้อย-ต่างชาติมาแค่หยิบมือ เสียดายเปิดประเทศก่อนเพื่อน แต่สะดุดขาตัวเอง
นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า บรรยากาศภาพรวมการท่องเที่ยวในขณะนี้ยังค่อนข้างฟื้นตัวได้น้อย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในพื้นที่เฉลี่ย อยู่ที่ 200-300 คนต่อวันเท่านั้น ซึ่งยังถือว่าเข้ามาน้อยมาก เพราะปีปกติก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 เคยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในพื้นที่กว่า 1 ล้านคน แต่ตอนนี้จำนวน 1 หมื่นคนยังไม่เห็นด้วยซ้ำ ทำให้เป็นการฟื้นตัวที่ช้ามาก ซึ่งความจริงเสียดายโอกาสของภาคการท่องเที่ยวไทย เนื่องจากเราเป็นประเทศแรกที่เปิดการท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเชียงใต้ แต่เมื่อเปิดแล้วเรากลับสะดุดขาตัวเอง เพราะประเทศที่เป็นเมืองท่องเที่ยวอื่น หากกำหนดเปิดประเทศแล้ว เขาจะเปิดทั้งหมดทันที หากฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมง เมื่อมาถึงแสดงเอกสารครบถ้วน ก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แบบไม่จำกัดพื้นที่ ไม่กักตัว เป็นการเที่ยวได้แบบปกติ แต่ประเทศไทยกำหนดเงื่อนไขไว้สูงมาก อาทิ ต้องยื่นเอกสารผ่านระบบไทยแลนด์ พาส (Thailand Pass) เมื่อมาถึงแล้วต้องตรวจ RT-PCR อีก 1 ครั้ง รอผลตรวจออกจึงจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ ทั้งที่ประเทศกัมพูชาเปิดช้ากว่าเรามาก แต่เขาเปิดประเทศแบบไม่มีเงื่อนไขกำหนดมากมายนัก
“ตอนนี้แม้พูดว่า การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถือว่าประสบความสำเร็จ แต่จริงๆ แล้วเราดูตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละปี เข้ามาอยู่ที่เท่าใด แล้วตอนนี้เข้ามาแค่เท่าใด รวมถึงถามว่าหากเราเป็นนักท่องเที่ยว ต้องมาเจอเงื่อนไขแบบที่ประเทศไทยตั้งไว้ จะมาจริงหรือไม่ ซึ่งมองว่าหากเป็นนักท่องเที่ยวจริงๆ คงไม่มาแน่นอน เพราะเท่าที่ดูยอดจองโรงแรมที่พักในตอนนี้ มากกว่า 90% เป็นการจองเพียง 1 คืน เพื่อรอผลตรวจ RT-PCR ออกเท่านั้น และเมื่อผลตรวจออกแล้ว ก็เดินทางไปที่อื่นต่อทันที ซึ่งลักษณะแบบนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ใช่นักท่องเที่ยวจริงๆ แต่จะเป็นต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเพื่อจุดประสงค์อื่น อาทิ ทำธุระ มีบ้าน มีคอนโดมิเนี่ยม หรือว่ามีครอบครัวอยู่ในไทย ทำให้ความจริงแล้วนักท่องเที่ยวที่แท้จริงอาจยังไม่เข้ามเที่ยวไทย” นายธเนศ กล่าว
นายธเนศ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐปลดล็อกในตอนนี้ มองว่าหากตั้งใจที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว ก็ควรที่จะปลดล็อกเงื่อนไขที่เป็นข้อจำกัดต่างๆ รวมถึงเปิดกิจกรรมกิจการให้มีความพร้อมสูงสุดก่อน โดยหากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว มีการตรวจ RT-PCR ก่อนเข้ามาไม่เกิน 72 ชั่วโมง เมื่อเข้ามาแล้วก็ไม่ต้องตรวจซ้ำอีก สามารถท่องเที่ยวได้ปกติทันที รวมถึงไม่ต้องกรอกข้อมูลผ่านระบบไทยแลนด์ พาสแล้ว เพราะตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ระบบหลังบ้านของไทยแลนด์ พาส ที่เป็นตัวอ่านข้อมูลก็ยังมีปัญหาอยู่ เพราะว่าระบบยังล่มอยู่จนถึงปัจจุบัน กลายเป็นว่าเงื่อนไขที่รัฐบังคับให้นักท่องเที่ยวและโรงแรมทำตามนั้น ความเป็นจริงไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาในเรื่องเงื่อนไขการจอง ที่แรกเริ่มกำหนดให้จองโรงแรม บวกการตรวจ RT-PCR บวกรถโดยสารที่ต้องใช้เดินทางต่อพร้อมกัน แต่ขณะนี้พบว่า นักท่องเที่ยวสามารถจองเพียงโรงแรมในเว็บไซต์ออนไลน์ ก็สามารถเดินทางเข้ามาได้แล้ว เมื่อเดินทางเข้ามาก็จะมากองกันอยู่ที่สนามบิน เนื่องจากตอนแรกบอกว่า รถโดยสารที่จะสามารถให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ จะต้องเป็นรถยนต์ที่มีป้ายเหลืองหรือป้ายเขียวเท่านั้น ซึ่งก็หายากมาก พอเจอปัญหาจำนวนรถป้ายเขียวและเหลืองหายาก ก็ปลดล็อกให้แท็กซี่มิเตอร์สามารถวิ่งบริการนักท่องเที่ยวได้ ทำให้รถแท็กซี่เข้ามาตัดราคารถป้ายเขียวและเหลือง ทำให้ปัญหาตอนนี้ค่อนข้างมั่วในหลายด้าน จึงมองว่าหากตั้งใจที่จะเปิดประเทศแล้วก็อยากให้เปิดทั้งหมด
นายธเนศ กล่าวว่า แนวโน้มการจัดงานเคาต์ดาวน์ 2022 ขณะนี้ผู้ประกอบการมีความพร้อมมาก และพร้อมมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ช่วงการเปิดแซนด์บ็อกซ์แล้ว แต่เมื่อเลื่อนการเปิดมาเรื่อยๆ รวมถึงยังไม่อนุญาตให้บางธุรกิจหรือกิจกรรมสามารถทำได้ อาทิ สถานบันเทิงยังไม่สามารถเปิดได้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังไม่สามารถจำหน่ายและนั่งดื่มในร้านได้ ทำให้แม้มีความพร้อม แต่ความน่าสนใจก็ลดน้อยลง โดยช่วงเทศกาลเคาต์ดาวน์ ถือเป็นช่วงแห่งการเฉลิมฉลอง แต่ไม่อนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเปิดสถานบันเทิง ที่ได้เลื่อนไปในวันที่ 15 มกราคม 2565 แล้วถามว่าถือเป็นการเฉลิมฉลองอย่างไร เหมือนงานพัทยามิวสิค เฟสติวัล มีการจัดงานแบบกั้นรัวไว้ ซึ่งภายในรั้วกำหนดให้ใช้มาตรการเว้นระยะห่างระหว่างกัน ไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงไม่อนุญาตให้ลุกขึ้นเต้นได้ แต่นอกรั้วไม่สามารถควบคุม ได้คนในพื้นที่ก็เดินไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มานั่งดื่มตามชายหาด แล้วถามว่าถือเป็นการควบคุมตรงไหน จึงมองว่าเงื่อนไขที่ค่อนข้างยิบย่อยควรยกเลิกออกไปได้แล้ว เพราะที่ผ่านมาได้คุยกับผู้ประกอบการตลาดต่างชาติ ที่ทำตลาดนักท่องเที่ยวเยอรมันรายใหญ่ ปกติเคยมีนักท่องเที่ยวเดือนละ 3-4 พันคน แต่ขณะนี้มีเข้ามาเพียงวันละ 20 คนเท่านั้น และส่วนใหญ่เข้าไปท่องเที่ยวที่ภูเก็ต โดยผู้ประกอบการรายนั้นก็ถามกลับมาว่า ด้วยเงื่อนไขที่รัฐบาลไทยสร้างขึ้นมา ถามว่านักท่องเที่ยวจริงๆ ใครจะมา