มือปืนสังหาร "ชินโซ อาเบะ" ขึ้นศาลครั้งแรกถูกตัดสินมีความผิด เตรียมแย้งบางข้อกล่าวหา

เทตสึยะ ยามากามิ ชายวัย 45 ปี ที่ถูกกล่าวหาว่าสังหารอดีตนายกรัฐมนตรี “ชินโซ อาเบะ” ของญี่ปุ่นขึ้นศาลวันนี้ (28 ตุลาคม) เป็นวันแรกและถูกพิจารณาว่า “มีความผิด” ฐานฆาตกรรม และครอบครองปืน ซึ่งระหว่างขึ้นศาลในกรุงโตเกียว ยามากามิ ยอมรับต่อหน้าศาลว่าข้อกล่าวหา “ทุกอย่างนั้นถูกต้อง” ด้านทนายความของ ยามากามิ  จำเลยอาจยื่นโต้แย้งข้อหาบางส่วน ซึ่งประกอบด้วย ข้อหามีปืนไว้ในครอบครองเนื่องจากอาวุธที่เขาใช้เป็นปืนที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง

ยามากามิ ใช้ปืนสั้นประดิษฐ์เองยิงไปที่อดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่กำลังขึ้นปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดนาราเมื่อปี 2022 และเป็นเหตุให้อาเบะในวัย 67 ปี เสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความตกใจไปทั่วโลกเมื่อเกิดเหตุลักษณะนี้ในประเทศที่มีกฎหมายควบคุมการครอบครองอาวุธปืนเข้มงวดที่สุดในโลก สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ยามากามิได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่สอบสวนว่าเขาจงเจาะล็อคเป้าหมายไปที่อาเบะ เพราะอาเบะเป็นผู้สนับสนุนองค์กรศาสนาลัทธิ “มูนนี” (Moonies) ที่เป็นเหตุให้คุณแม่และครอบครัวต้องล้มละลาย เขากล่าวด้วยว่าแม่ของเขาบริจาคเงิน 100 ล้านเยน หรือ ประมาณ 21 ล้านบาท เพื่อพิสูจน์ความศรัทธาของตัวเองต่อองค์กรศาสนานี้

เกิดการถกเถียงว่าในกรณีของยามากามิการบรรเทาโทษสามารถถูกนำมาใช้ได้หรือไม่ เนื่องจากการล่วงละเมิดทางศาสนาที่ยามากามิได้รับในวัยเด็ก ที่เกิดจากความศรัทธาอย่างสุดโต่งของแม่ ต่อโบสถ์ลัทธิมูนนี ซึ่งจากการสอบสวน ลัทธิดังกล่าวมีจุดกำเนิดในเกาหลีใต้หลังจากสิ้นสุดสงครามเกาหลีในปี 1953 จนกระทั่งเผยแพร่เข้าสู่ญี่ปุ่นและเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ศาลโตเกียวเพิ่งสั่งให้ยุบโบสถ์ดังกล่าว เพิกถอนสถานะการยกเว้นภาษี และสั่งให้ชำระบัญชีทรัพย์สินทั้งหมดของโบสถ์

Japan Times รายงานว่าแม่ของ ยามากามิ ที่คาดว่าจะเป็นพยานระหว่างพิพากษา กลับไม่ยอมลดละความศรัทธาอันแรงกล้าของเธอต่อลัทธินี้ เธอกล่าวด้วยว่าการสังหารที่เกิดขึ้นโดยลูกชายของเธอยิ่งทำให้ความเชื่อของเธอแข็งแกร่งมากขึ้น