ประเทศไทยเข้าสู้หน้าร้อนเต็มตัว ผลกระทบที่เห็นได้ชัดคือความต้องการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภทสำหรับการลดอุณหภูมิให้เหมาะแก่ร่างกาย เพื่อให้ร่างกายอยู่สบายที่สุด เช่น พัดลม เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ส่งผลให้ค่าไฟช่วงหน้าร้อนพุ่งกระฉูด จำเป็นต้องจ่ายค่าไฟแพงๆ เพื่อแลกกับความสบายของร่างกาย ดังนั้นบทความนี้ขอแชร์วิธีการอ่านค่าไฟจากบิลที่ได้รับในทุกๆเดือน วิธีดูหน่วยค่าไฟ ค่าไฟแพงหรือไม่แพงดูจากอะไร ค่าไฟบาทต่อหน่วยเป็นเท่าไหร่ ติดตามได้ในบทความนี้ได้เลย1. ข้อมูลสำคัญที่จำเป็นต้องรู้ในใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าจะมีข้อมูลที่ต้องทราบและมีความสำคัญในการติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หมายเลขผู้ใช้ไฟ รหัสเครื่องวัด และประเภทของอัตราค่าไฟ ซึ่งข้อมูลเหล่าจะเป็นตัวเบิกทางในการทำธุรกรรมออยไลน์ เช่น จ่ายบิลผ่านแอฟธนาคาร เป็นต้น ดังนั้นข้อเหล่านี้จึงมีความจำเป็นมากๆที่ควรจะรู้ไว้ ดังแสดงในรูปภาพ 2. ประเภทผู้ใช้ไฟการไฟฟ้าจะกำหนดประเภทผู้ใช้ไฟหลักๆไว้ทั้งหมด 8 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีค่าพลังงานไฟฟ้าต่างกัน ในตัวอย่างบิลค่าไฟที่นำมาแสดงให้ดูเป็นประเภท 1125 เป็นประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย 3. ค่าพลังงานไฟฟ้าค่าพลังงานไฟฟ้าเป็นค่าที่ได้จากการอ่านหน่วยการใช้ไฟฟ้า ซึ่งในบิลค่าไฟฟ้่าจะมีให้ระบุไว้ว่ามีการอ่านเลขมิเตอร์ก่อนและหลัง แล้วนำมาหักลบกันจะได้ออกมาเป็นหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ไป จะแสดงออกมาเป็นตัวเลขซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้ปริมาณไฟฟ้า หากมีการใช้น้อยตัวเลขก็จะน้อย ใช้มากตัวเลขจะมากตามไปด้วย วิธีคิดโดยการเอาหน่วยที่ใช้ไปคูณกับอัตราค่ากำลังไฟฟ้าตามประเภทผู้ใช้ไฟก็จะได้ค่าพลังงานไฟฟ้ามีหน่วยเป็นบาทตัวอย่างการคิดคำนวณจากบิล 7,695 - 7,688 = 6 หน่วย x 3.2484 = 19.49 บาท 4. ค่าบริการรายเดือนค่าบริการรายเดือนจะเป็นค่าคงตัวที่ผู้ใช้ไฟต้องจ่ายทุกเดือน โดยจะแตกต่างกันตามประเภทผู้ใช้ไฟ ในประเภทของบ้านอยู่อาศัยจะต้องเสียค่าบริการ 38.22 บาท แต่มีการปรับลดค่าบริการลงตั้งแต่มกราคม 2566 เป็นต้นไปเหลือ 24.62 บาท ตามข่าวประชาสัมพันธ์ของการไฟฟ้าฯ5. ค่า Ftค่า FT คือค่าต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะมีการปรับขึ้นหรือลงทุกๆ 4 เดือน เกิดจากหลายปัจจัย เข่น ราคาเชื้อเพลิงที่ขึ้นหรือลง เป็นต้น ในตัวอย่างที่ยกมาค่า Ft เท่ากับ 0.9343 บาทต่อหน่วย ซึ่งประชาชนต้องแบกภาระในส่วนนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยแนวโน้มดูเหมือนว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใดตัวอย่างการคำนวณค่า Ft คิดจาก 0.9343 x 6 หน่วย = 5.61 บาท 6. รวมเงินค่าไฟฟ้ารวมเงินค่าไฟฟ้าจะรวมเอาค่าพลังงานไฟฟ้าบวกกับค่าบริการและบวกค่า Ft ตามโครงสร้างของประเภทผู้ใช้ไฟฟ้า บางครั้งรัฐบาลมีโครงการช่วยเหลือประชนก็จะมีส่วนลดให้ ตามตัวอย่างที่ยกมามีส่วนลดให้ 5.52 บาทรวมเงินค่าไฟฟ้าเบื้องต้นหาได้จาก 19 + 24.62 = 44.11 + 5.61 - 5.52 = 44.20 บาท 7. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นที่รู้กันว่าคนไทยต้องเสียภาษีกันทุกคน การจ่ายค่าไฟก็ต้องเสียภาษีด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องเสียภาษี 7%ของรวมเงินค่าไฟฟ้าเบื้องต้น ในการคิดค่าภาษีให้นำค่ารวมเงินค่าไฟฟ้าเบื้องต้นคูณอัตราภาษี 7% ตัวอย่างการคำนวณ : 44.20 X (7 / 100) = 3.09 บาท8. รวมเงินค่าไฟฟ้าทั้งหมดที่ต้องจ่ายเมื่อนำรวมเงินค่าไฟฟ้าบวกกับค่าภาษีมูลค่าเพิ่มรวมแล้วทั้งหมดก็จะเป็นค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายจริงในแต่ละเดือน คิดได้จาก 44.20 + 3.09 = 47.29 บาท9. อัตราค่าไฟต่อหน่วยการติดอัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วย หรือการคิดบาทต่อหน่วย คือการเอาค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนหารด้วยหน่วยไฟฟ้า ก็จะได้อัตราค่าไฟของเดือนนั้นๆ โดยจากตัวอย่างคิดได้จาก 47.29 / 6 = 7.88 บาทต่อหน่วย ซึ่งถือว่าอัตราค่าไฟตามตัวอย่างโคตรแพง เพราะปกติโดยทั่วไปค่าไฟจะอยู่ราวๆ 4 - 4.5 บาทต่อหน่วยประชาชนคงต้องหาทางประหยัดพลังงานไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพื่อลดค่าใช้จ่าย เช่น ปิดไฟดวงที่ไม่ใช้งาน ติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ เป็นต้น ไม่อย่างนั้นมีโอกาสที่จะได้จ่ายค่าไฟสูงอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะเกินกำลังได้หากไม่บริหารจัดการการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เรื่องและภาพโดย : 100เตาสั้นขอบคุณภาพปกโดย :ภาพปก 1 โดย mohamed_hassan / Pixabayภาพปก 2 โดย analogicus / Pixabayอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !