โรคระบาด-ประท้วง-เลือกตั้ง หนุนชาวสหรัฐฯ แห่ซื้อ 'ปืน' สูงเป็นประวัติการณ์
วอชิงตัน, 3 พ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (3 พ.ย.) บัสฟีด นิวส์ สื่อออนไลน์สหรัฐฯ รายงานว่าสาธารณชนสหรัฐฯ พากันหาซื้ออาวุธปืนติดต่อกันนานหลายเดือนก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด
รายงานระบุว่าสหรัฐฯ ทำลายสถิติยอดจำหน่ายอาวุธปืนที่มีมาทั้งหมดในปี 2020 โดยยอดจำหน่าย "พุ่งสูงตั้งแต่ช่วงหลายเดือนแรกของการเกิดโรคระบาดใหญ่ ระหว่างการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมทางเชื้อชาติในฤดูร้อน และยังคงเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์จนถึงช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งหลายฝ่ายต่างหวาดกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ"
บัสฟีด นิวส์ คาดการณ์ยอดจำหน่ายปืนของสหรัฐฯ จากข้อมูลการตรวจสอบประวัติของสำนักสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) โดยใช้วิธีที่ได้รับการพัฒนาโดยเยอร์เกิน เบราเออร์ เจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ปรึกษา สมอลล์ อาร์มส์ อนาไลติกส์ แอนด์ ฟอร์แคสติง (Small Arms Analytics & Forecasting)
รายงานระบุว่าปัจจุบันยอดจำหน่ายอาวุธปืนของสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 18.6 ล้านหน่วย และอาจพุ่งสูงถึง 22 ล้านหน่วยภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มสูงขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ของเบราเออร์ ซึ่งอยู่ที่ 13.9 ล้านหน่วยในปี 2019
ยอดจำหน่ายอาวุธปืนที่พุ่งสูง "อาจเป็นการตอบสนองความวิตกกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบ ขณะสหรัฐฯ เผชิญความยากลำบากจากโรคระบาดใหญ่ การประท้วงต่อต้านพฤติกรรมรุนแรงของตำรวจ และความกังวลที่เพิ่มสูงของหลายฝ่ายว่าอาจเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองช่วงที่มีการเลือกตั้ง"
กลุ่มประชาชนที่ซื้อปืนในปี 2020 ส่วนมากเพิ่งเคยซื้อปืนครั้งแรก โดยรายงานอ้างอิงงานวิจัยใหม่จากนิโคล คราวิตส์-เวิร์ตส์ นักวิจัยมืออาชีพประจำโครงการวิจัยป้องกันความรุนแรง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส ซึ่งระบุว่าประชาชนจำนวนมากไม่ได้เก็บปืนไว้ในตู้อย่างมิดชิด และมีปืนอย่างน้อย 1 กระบอก ที่บรรจุลูกกระสุนพร้อมใช้งาน