ชุมชนแออัดในสถานการณ์ "COVID-19" จะตีความเพียงสลัม หรือที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ เนื่องจากหนึ่งในมาตรการป้องกันโควิด-19 คือ เว้นระยะห่างจากสังคม การพาตัวเองไปสู่แหล่งที่ผู้คนพลุกพล่านก็ไม่ต่างจากชุมชนแออัด ในทางกลับกันผู้คนในสลัมหากรู้จักเว้นระยะห่างอย่างถูกวิธีก็สามารถป้องกันได้เช่นกัน อ่านดูอาจรู้สึกขัดแย้ง อ้าว! ก็ทางการเตือนไม่ให้เข้าสังคม แปลว่าขัดขืนนั้นหรือ เปล่าเลย ชุมชนแออัดในที่นี้ หมายถึง ตลาดนัดนั่นเอง เพราะปัจจุบัน ตลาดยังคงเป็นที่ต้อนรับผู้คนอย่างหนาแน่นเช่นเดิม ประเด็นนี้ไม่ได้กล่าวลอย ๆ เนื่องจากผู้เขียนใช้ชีวิตอยู่กับเหตุการณ์ที่ว่านี้ทุกวัน บ้านพักผู้เขียน อยู่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ตอนเช้าผู้เขียนจะออกไปซื้ออาหารเช้ายังตลาดเช้า ซึ่งผู้คนยังคงเดินเบียดกันเลือกซื้อสินค้าตามปกติ ตกเย็นผู้เขียนจะแวะไปตลาดนัดใกล้บ้าน ซื้อข้าวของ อาหารมื้อเย็น และแน่นอนผู้คนพลุกพล่าน ถึงขนาดเจ้าหน้าที่ตำรวจยังต้องออกมาบริการกั้นรถเข้าออก และอำนวยความสะดวกผู้คนข้ามถนน ตลาดไม่อันตรายหรือ ตอบได้ทันทีว่า อันตราย ก็อย่างที่บอก ควรเว้นระยะห่างจากสังคม แต่คนก็ต้องกินต้องใช้ แม่ค้าพ่อค้า ก็ต้องใช้ต้องทำมาหากิน หากเราปล่อยให้ตลาดนัดวาย ตลาดร้าง ก็เท่ากับส่งเสริมให้ชุมชนอ่อนแรง เศรษฐกิจตกต่ำ ต้องระลึกว่า หากร่างกายแข็งแรงจะมีเปอร์เซ็นต์สู้โรคภัยไข้เจ็บได้มากขึ้น แต่ถ้าไม่มีเงินใช้ ร่างกายไหนเลยจะแข็งแรง ต้องแบมือขอเงินเยียวยาท่าเดียว ก็ไม่สนุกนัก ฉะนั้นเมื่อรู้ว่าอันตรายก็ต้องร่วมมือกัน ทั้งตลาดเช้า และตลาดเย็น ย่าน อ.ไทรน้อย ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี มีป้ายติดหน้าตลาด “ไม่ใส่หน้ากากอนามัยห้ามเข้า” มีเจลล้างมือแอลกอฮอล์บริการ ตลาดเย็นนั้นถึงกับจัดเจ้าหน้าที่มายืนวัดไข้ก่อนเข้าตลาด การวัดไข้แม้ป้องกันไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 บางรายไม่แสดงผล แต่ก็ดีกว่า ไม่ทำอะไรเลย ส่วนบรรยากาศในตลาด ลูกค้าก็ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน คุณหลบผมเดิน คุณยืนผมทำตัวลีบห่าง ๆ เป็นต้น ด้านบ้านเรือน ตลาด ที่ผู้เขียนกล่าวว่าเป็นชุมชนแออัดในสถานการณ์ "COVID-19" และย่าน อ.ไทรน้อย ต่างร่วมมือกันดีนั้น หากมองในด้านชุมชนที่มีรั้วรอบขอบชิดแล้ว น่ากังวลกว่าในตลาด เพราะวันดีคืนดี มี อสม. เข้ามาเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโควิด-19 โดยเคาะประตูบ้านทีละหลัง แล้วยื่นเอกสารประชาสัมพันธ์ให้ ที่นำมาเล่า ไม่ได้ติ หรือว่ากล่าวโทษ วิธีนี้ถือเป็นการดี ทว่า ตอนเข้ามา พวกเขานั่งรถกระบะเบียดเสียดกันมา 2 – 3 คัน นี่เป็นวิธีการที่ถูกต้องอย่างนั้นหรือ ก็มาตรการบอกอยู่ว่า ให้เว้นระยะห่าง อาจจะแย้งว่ากลุ่มอาสาสมัคร ดูแลตัวเองดี แต่อย่าลืมว่า พวกเขาเข้าทุกหลังคาเรือน พบทุกบ้าน ความเสี่ยงย่อมมากกว่าการไปตลาดนัดอยู่แล้ว นี่คือสถานการณ์ที่ผู้เขียนมีมุมมองเกี่ยวกับชุมชนแออัดในสถานการณ์ "COVID-19" ซึ่งเห็นว่า ความแออัดนั้นไม่สำคัญเท่าความเข้าใจ การอาศัยอยู่ในที่ปลอดโปล่งก็ไม่ปลอดภัยเสมอ หากต้อนรับคนแปลกหน้าโดยไม่ทันมีอุปกรณ์ป้องกัน ภาพโดย ผู้เขียน