Lost Odyssey เป็นเกม RPG ที่ถูกพัฒนาโดย Mistwalker และ Feelplus สำหรับเครื่อง Xbox 360 โดยมี Hironobu Sakaguchi ผู้สร้างซีรีส์ Final Fantasy เป็นผู้อำนวยการสร้าง เกมนี้ได้รับการตีพิมพ์โดย Microsoft Game Studios และวางจำหน่ายในปี 2008 เนื้อเรื่อง: เรื่องราวของ Lost Odyssey เล่าถึง Kaim Argonar ชายผู้เป็นอมตะที่มีอายุกว่าพันปี แต่กลับสูญเสียความทรงจำทั้งหมด เขาต้องผจญภัยในโลกที่กำลังเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมทางเวทมนตร์ เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวเองและโลกรอบตัว เนื้อเรื่องของเกมนี้ลึกซึ้งและซับซ้อน มีการผสมผสานระหว่างแฟนตาซีและวิทยาศาสตร์ได้อย่างลงตัว การดำเนินเรื่องค่อนข้างช้าในช่วงแรก แต่จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับอดีตของ Kaim และตัวละครอื่นๆ ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ระบบการต่อสู้: Lost Odyssey ใช้ระบบการต่อสู้แบบผลัดเปลี่ยนกันโจมตี (Turn-based) แบบดั้งเดิม แต่มีการเพิ่มเติมระบบ "Ring System" ที่ทำให้การโจมตีมีความท้าทายและน่าสนใจมากขึ้น ผู้เล่นต้องกดปุ่มให้ถูกจังหวะเพื่อเพิ่มความแม่นยำและพลังโจมตี นอกจากนี้ยังมีระบบ "Skill Link" ที่ช่วยให้ตัวละครอมตะสามารถเรียนรู้ทักษะจากตัวละครมนุษย์ธรรมดาได้ ทำให้การพัฒนาตัวละครมีความหลากหลายและน่าสนใจ กราฟิกและเสียง: กราฟิกของ Lost Odyssey ถือว่าอยู่ในระดับดีมากสำหรับเกมในยุคนั้น ตัวละครและฉากต่างๆ ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม โดยเฉพาะในฉากตัดต่อที่มีคุณภาพสูง ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูภาพยนตร์ ด้านเสียงประกอบนั้น Lost Odyssey มีเพลงประกอบที่แต่งโดย Nobuo Uematsu นักแต่งเพลงชื่อดังจากซีรีส์ Final Fantasy ทำให้บทเพลงต่างๆ มีความไพเราะและเข้ากับบรรยากาศของเกมเป็นอย่างดี เสียงพากย์ภาษาอังกฤษก็มีคุณภาพดี แม้ว่าบางครั้งอาจจะดูเกินจริงไปบ้าง ประสบการณ์การเล่น: เมื่อผมเริ่มเล่น Lost Odyssey ความรู้สึกแรกคือความประทับใจในภาพและเสียงที่สวยงาม แต่ก็รู้สึกว่าเกมค่อนข้างช้าในช่วงแรก การต่อสู้แบบสุ่มที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งทำให้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อเล่นไปสักพัก ผมเริ่มซึมซับเข้ากับจังหวะของเกมและเริ่มสนุกกับการค้นหาความลับต่างๆ ของโลกในเกม ระบบ Ring ในการต่อสู้ทำให้แต่ละการปะทะมีความท้าทายและน่าตื่นเต้น ไม่น่าเบื่อเหมือนเกม RPG ทั่วไป สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากที่สุดคือเรื่องสั้น "A Thousand Years of Dreams" ที่แทรกอยู่ในเกม เรื่องราวเหล่านี้เล่าถึงประสบการณ์ในอดีตของ Kaim ซึ่งเขียนโดย Kiyoshi Shigematsu นักเขียนชาวญี่ปุ่น เรื่องราวเหล่านี้มีความลึกซึ้งและกินใจ ทำให้ผมต้องหยุดเล่นเกมเพื่ออ่านและคิดตามอยู่บ่อยครั้ง ข้อดี: 1. เนื้อเรื่องที่ลึกซึ้งและน่าสนใจ 2. ตัวละครที่มีมิติและพัฒนาการที่ดี 3. ระบบการต่อสู้ที่ผสมผสานระหว่างแบบดั้งเดิมและความท้าทายใหม่ 4. กราฟิกและเสียงที่มีคุณภาพสูง 5. เรื่องสั้น "A Thousand Years of Dreams" ที่เพิ่มความลึกซึ้งให้กับเกม ข้อเสีย: 1. การดำเนินเรื่องช้าในช่วงแรก 2. การต่อสู้แบบสุ่มที่เกิดขึ้นบ่อยเกินไป 3. ระบบ Ring อาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าในการเล่นระยะยาว 4. ความยาวของเกมอาจทำให้ผู้เล่นบางคนรู้สึกเบื่อได้ สรุป: Lost Odyssey เป็นเกม RPG ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้ง ตัวละครที่น่าสนใจ และระบบการเล่นที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความใหม่ได้อย่างลงตัว แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องบางประการ แต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณภาพโดยรวมของเกมด้อยลงไป สำหรับแฟนเกม RPG แบบญี่ปุ่น Lost Odyssey เป็นเกมที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเกมที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นและตัวละครที่มีมิติ เกมนี้อาจไม่ใช่เกมที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและมีคุณค่าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยในโลกแฟนตาซี ความคิดเห็นส่วนตัว ตลอดระยะเวลาที่ผมเล่น Lost Odyssey ผมรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปกับ Kaim และเพื่อนร่วมทางของเขา การได้เห็นโลกผ่านมุมมองของคนที่มีชีวิตยืนยาวนับพันปีเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่ง ทำให้ผมต้องหยุดคิดถึงความหมายของชีวิต ความทรงจำ และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ แม้ว่าบางครั้งการเล่นจะรู้สึกยาวนานและซ้ำซาก โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องเก็บเลเวลตัวละคร แต่เมื่อได้พบกับจุดหักเหของเรื่องราว หรือได้อ่านเรื่องสั้นใหม่ๆ ก็ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและอยากเล่นต่อไปเรื่อยๆ Lost Odyssey อาจไม่ใช่เกมที่สมบูรณ์แบบ แต่มันเป็นเกมที่ทิ้งร่องรอยไว้ในความทรงจำของผม เป็นการเดินทางที่ยาวนานแต่คุ้มค่า และเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ผมได้คิดไตร่ตรองถึงชีวิตและความเป็นมนุษย์ นี่คือสิ่งที่ทำให้ Lost Odyssey กลายเป็นหนึ่งในเกม RPG ที่ผมชื่นชอบที่สุดเกมหนึ่ง เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !