โควิด ทุบโรงแรมใต้ ปิดกิจการ 90% ชี้ ส่งวัคซีนไม่ได้ตามกำหนด กระทบหนัก

วันที่ 25 พ.ค.64 นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ระบาดระลอกเดือนเม.ย.2564 ส่งผลให้นักท่องเที่ยงคนไทยหายไป 100% ผู้ประกอบการโรงแรมในตอนนี้เปิดให้บริการเพียง 10% นับเป็นจำนวนโรงแรมที่เปิดประมาณ 300 แห่ง หรือ 30,000 ห้องพัก การพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล เป็นการซ้ำเติมตลาดที่ซบเซามากกว่า 1 ปีแล้ว

ส่วนผู้ประกอบการโรงแรมที่ยังเปิดให้บริการอยู่ขณะนี้ ก็เป็นการเปิดเพื่อให้พนักงานยังมีงานทำอยู่ แต่อาจเปลี่ยนหน้าที่เป็นการดูแลโรงแรมแทนการให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ เนื่องจากการปิดโรงแรมชั่วคราว จะมีเรื่องต้นทุนค่าเสื่อม และการปรับปรุงเมื่อต้องการกลับมาเปิดให้บริการใหม่อีกครั้ง ซึ่งโรงแรมบางรายที่ยังเปิดให้บริการอยู่ตอนนี้ ก็เพิ่งกลับมาเปิดใหม่ หลังจากปิดชั่วคราวไปในช่วงที่ผ่านมา เพื่อรองรับการท่องเที่ยวช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. ที่ผ่านมา แต่พอมีระลอกเม.ย. ถือว่าจบทุกอย่าง

“อัตราการเข้าพักในเดือนเมษายน อยู่ที่ 10-15% ซึ่งแม้เดือนเมษายน จะเริ่มเกิดการระบาดโควิดแล้ว แต่ยังเห็นนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตอยู่ ส่วนอัตราการเข้าพักในเดือนพฤษภาคม ลดลงเหลือเพียง 1% เท่านั้น เพราะมีข้อจำกัดด้านมาตรการควบคุมการระบาดของรัฐบาลแล้ว

รวมถึงพบการระบาดและผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพบในหลายจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงในภูเก็ตเองด้วย จึงเริ่มเห็นภาพการเข้ามาท่องเที่ยวของตลาดคนไทยหายไป”

นายก้องศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ตามกำหนดจะต้องได้รับการส่งมอบในเดือนพ.ค.จำนวน 1.7 ล้านโดส ล่าสุดคาดว่าจะถูกเลื่อนออกไปส่งมอบในเดือนมิ.ย. รวมกับจำนวน 4.3 ล้านโดส ตามกำหนด

เบื้องต้นมองว่า การที่วัคซีนไม่สามารถมาได้ตามกำหนดนั้น จะส่งผลกระทบต่อการกระจายฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างแน่นอน ซึ่งผลกระทบจะถูกส่งต่อเนื่องไปยังบรรยากาศภาพรวม ความเชื่อมั่น และภาวะเศรษฐกิจด้วย

รัฐบาลควรบริหารจัดการความเสี่ยงด้วยการเร่งนำวัคซีนเข้ามาให้ได้ตามที่กำหนดไว้ และหากสามารถเร่งฉีดให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้เร็วที่สุดยิ่งดี เพราะจะเป็นการบริหารความยืดหยุ่นในการจำกัดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ให้น้อยลง

ในส่วนของภูเก็ต ที่กำหนดให้นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ หากวัคซีนเข้ามาไม่เพียงพอ ทำให้คนในภูเก็ตไม่ได้รับวัคซีนครบ 70% จากจำนวนคนทั้งหมดในพื้นที่ ซึ่งเท่ากับว่าไม่สามารถเปิดประเทศได้นั้น

ไทยจะสูญเสียโอกาสในการเปิดประเทศ เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีการกำหนดไทม์ไลน์เปิดรับต่างชาติ ก็ได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านตัวแทนทัวร์ท่องเที่ยวในประเทศเป้าหมายต่างๆ แล้ว ซึ่งหากเปิดไม่ได้จริง จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติแน่นอน โดยการเลื่อนมาเที่ยวไทย หากไม่สามารถเข้ามาในเดือนกรกฎาคมนี้ได้ จะเป็นช่วงไตรมาส 4/2564 (ต.ค.-ธ.ค.) แทน ทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติในไตรมาส 3/2564 จากการประเมินของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่าจะสามารถสร้างรายได้ 1.5 แสนล้านบาท หายไปทั้งหมด