รีเซต

ศธภ.14 ตั้งสอบ ผอ.กลุ่มอำนวยการ ศธจ.ศรีสะเกษ ปมเสนอข่าวเท็จเรียกเก็บหัวคิวสอบครู ผช.

ศธภ.14 ตั้งสอบ ผอ.กลุ่มอำนวยการ ศธจ.ศรีสะเกษ ปมเสนอข่าวเท็จเรียกเก็บหัวคิวสอบครู ผช.
มติชน
3 กรกฎาคม 2563 ( 15:35 )
556
ศธภ.14 ตั้งสอบ ผอ.กลุ่มอำนวยการ ศธจ.ศรีสะเกษ ปมเสนอข่าวเท็จเรียกเก็บหัวคิวสอบครู ผช.

ศธภ.14 ตั้งสอบ ผอ.กลุ่มอำนวยการ ศธจ.ศรีสะเกษ ปมเสนอข่าวเท็จเรียกเก็บหัวคิวสอบครู ผช.

ข่าวเรียกหัวคิว – เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม นางวัชรกาญจน์ คงพูล ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายศิริเกษ หมายสุข ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) และเป็นผู้สื่อข่าวหลายสำนักข่าว โดยเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 นายศิริเกษได้เผยแพร่ข่าวสารในหนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์หลายสำนัก ว่า “ศรีสะเกษใบปลิวเกลื่อนเมือง สอบครูหัวละ 7 แสนบาท ขึ้นบัญชี 5 แสนบาท ขณะที่ศึกษาธิการจังหวัดโต้ลั่นเป็นการแอบอ้างของมิจฉาชีพ” เป็นเหตุให้ผู้ที่รับผิดชอบ และผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินการสอบได้รับความเสียหาย และกระทบต่อตนในฐานะที่รับผิดชอบโดยตรง

นางวัชรกาญจน์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังนำเสนอภาพงานประชุมบุคลากรสำนักงาน ศธจ.ศรีสะเกษ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มาประกอบ เพื่อให้ผู้อ่านเชื่อว่ามีการให้สัมภาษณ์เพื่อโต้แย้งข่าวนี้ การที่นายศิริเกษอ้างว่าออกข่าวเพื่อแก้ข่าวให้ผู้บังคับบัญชา เป็นเรื่องเท็จ เพราะข้อเท็จจริงไม่มีการเรียกเงิน และไม่มีใบปลิว

“ทั้งนี้ คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงที่ ศธจ.ศรีสะเกษตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ได้ข้อสรุปว่าไม่มีใครพบใบปลิว และไม่มีการเรียกรับเงิน การเสนอข่าวในส่วนนี้จึงเป็นเรื่องเท็จ และขณะนี้ สป.ศธ.ต้นสังกัดของ ศธจ.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้สำนักงานศึกษาธิการภาค (ศธภ.) 14 ตั้งคณะกรรมการสอบนายศิริเกษเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว” นางวัชรกาญจน์ กล่าว

นางวัชรกาญจน์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การสอบบรรจุครูผู้ช่วยตาม ว.16 ไม่ได้ขึ้นบัญชีสำรอง การนำเสนอข่าวเรียกรับเงิน ตัวจริงรายละ 7 แสนบาท และตัวสำรอง 5 แสนบาท ดังนั้น การให้ข่าวว่ามีผู้จ่ายแล้ว 37 ราย และข้อมูลอื่นๆ เป็นการเขียนขึ้นลอยๆ เพื่อทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ทั้งที่การปฏิบัติงานราชการในยุคปัจจุบันต้องยึดธรรมาภิบาล ทำให้สำนักงาน ศธจ.ศรีสะเกษ เสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่ได้รับความน่าเชื่อถือ ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ซึ่งการกระทำของนายศิริเดชเป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณของนักข่าว จึงอยากให้สำนักข่าวตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว