ทรัมป์ลงนามผลักดันพลังงานนิวเคลียร์ ยกเครื่องหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยในสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ณ ห้องทำงานรูปไข่ โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ และปรับโครงสร้างคณะกรรมการกำกับดูแลนิวเคลียร์ (NRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระด้านความปลอดภัยนิวเคลียร์
ทรัมป์ประกาศต่อสื่อมวลชนว่า
“ถึงเวลาแล้วสำหรับนิวเคลียร์ และเราจะทำให้มันยิ่งใหญ่” โดยมีผู้บริหารจากอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ชั้นนำในสหรัฐอเมริกาเข้าร่วม
หนึ่งในคำสั่งสำคัญเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบการอนุมัติของ NRC เพื่อให้สามารถรับรองการออกแบบเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใหม่ภายใน 18 เดือน พร้อมทบทวนมาตรฐานด้านรังสีที่ใช้ในปัจจุบัน และปรับโครงสร้างองค์กรของ NRC โดยทำงานร่วมกับทำเนียบขาวและกรมประสิทธิภาพรัฐบาลที่มีอีลอน มัสก์เข้ามามีบทบาท
ภาคเอกชนบางส่วนสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยอิไซอาห์ เทย์เลอร์ (Isaiah Taylor) ซีอีโอของ Valar Atomics กล่าวว่า กฎระเบียบความปลอดภัยจำนวนมากในปัจจุบันยังคงสะท้อนความกังวลจากเหตุการณ์ที่ Three Mile Island ซึ่งไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์ยุคใหม่
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่า การดึงทำเนียบขาวเข้ามาเกี่ยวข้องอาจกระทบต่อความเป็นอิสระของหน่วยงานกำกับดูแล อลิสัน แม็กฟาร์เลน อดีตประธาน NRC ระบุว่า “เมื่อหน่วยงานกำกับดูแลต้องขึ้นตรงต่อฝ่ายบริหาร ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นอิสระอีกต่อไป”
แม้ NRC จะเคยพยายามปฏิรูปตัวเอง โดยรัฐสภาได้ผ่านกฎหมายสองพรรคเมื่อปีก่อนเพื่อเร่งกระบวนการอนุมัติเครื่องปฏิกรณ์ใหม่ แต่คำสั่งล่าสุดนี้อาจสร้างภาระเพิ่มขึ้น หากมีการปรับโครงสร้างขนานใหญ่ที่ต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานต่างๆ
นอกจากการปรับปรุงกระบวนการอนุมัติแล้ว คำสั่งของทรัมป์ยังสนับสนุนการเร่งวิจัยนิวเคลียร์ในห้องปฏิบัติการแห่งชาติ การสร้างเครื่องปฏิกรณ์บนที่ดินของรัฐบาลกลาง และการกลับมาขุดยูเรเนียมในสหรัฐฯ
เจค็อบ เดอวิตต์ (Jacob DeWitte) ซีอีโอของ Oklo บริษัทสตาร์ทอัพที่พัฒนาเครื่องปฏิกรณ์ขนาดเล็ก กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์นี้จะช่วยให้ทุกอย่างเดินหน้าได้เร็วขึ้น” ทั้งนี้ หุ้นของ Oklo พุ่งขึ้นราว 25% หลังการประกาศคำสั่ง
อย่างไรก็ตาม เจค็อบ เดอวิตต์ เคยเผชิญกับอุปสรรคเมื่อ NRC ปฏิเสธใบอนุญาตสำหรับเครื่องปฏิกรณ์ Aurora ในปี 2022 เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากอุบัติเหตุไม่ครบถ้วน
อลิสัน แม็กฟาร์เลน (Allison Macfarlane) ทิ้งท้ายว่า "ถึงแม้คำสั่งเหล่านี้อาจช่วยลดขั้นตอนและต้นทุนบางส่วนได้ แต่ต้นทุนการพัฒนาและสร้างเครื่องปฏิกรณ์ยังคงสูง และสิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือความปลอดภัยของสาธารณชนในระยะยาว"