รีเซต

WHOวอนยุโรป-อเมริกาดูจีนและเอเชียรับมือโควิดเป็นแบบอย่าง

WHOวอนยุโรป-อเมริกาดูจีนและเอเชียรับมือโควิดเป็นแบบอย่าง
TNN ช่อง16
20 ตุลาคม 2563 ( 19:26 )
159
WHOวอนยุโรป-อเมริกาดูจีนและเอเชียรับมือโควิดเป็นแบบอย่าง

วันนี้ ( 20 ต.ค. 63 )นายไมค์ ไรอัน ผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ยุโรปและอเมริกาเหนือ ควรดูตัวอย่างของชาติในเอเชีย ในการรับมือกับโควิด-19 และการสั่งกักกันประชาชนที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ


คำกล่าวของผู้แทน WHO มีขึ้นหลังยุโรป รวมถึงรัสเซีย มีรายงานผู้เสียชีวิตมากถึง 8500 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และประเทศกว่าครึ่งหนึ่งในภูภาคดังกล่าว มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น


นายไรอัน กล่าวถึง ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใค้ ว่าได้ทำการตรวจหาเชื้อ คัดแยกผู้ติดเชื้อ และกักกัตนผู้ใกล้ชิดคนติดเชื้อ จนทำให้สามารถลดอัตราการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ พลเมืองของชาติเหล่านี้ ยังแสดงความเนื้อเชื่อใจในรัฐบาลของพวกเขาอย่างมากด้วย


เขากล่าวว่า "ประเทศเหล่านั้นเข้าเส้นชัยไปแล้ว และยังไปต่อเรื่อยๆ วิ่งต่อเรื่อยๆ เพราะรู้ดีว่าการแข่งขันยังไม่สิ้นสุด เส้นชัยนั้นคือสิ่งลวง


ด้านสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ออกบทความเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จของจีนในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยชี้ว่า ไม่ได้เป็นเพราะมาตรการคุมเข้มเมืองอู่ฮั่นเป็นเวลา 76 วันในช่วงแรกของการระบาด แต่อาจเพราะวิธีในการควบคุมการเคลื่อนไหวของประชาชนมากกว่า


หลังจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงต้นปี วิธีการที่จีนใช้คือ การติดตามประชาชนในทุกพื้นที่ที่มีการรายงานคลัสเตอร์การระบาดใหม่ ซึ่งทำให้รัฐบาลสามารถเข้าไปควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดได้อย่างรวดเร็ว


นอกจากนี้ยังมีการจัดทำระบบ Health Code หรือ รหัสสุขภาพ ที่แบ่งสี เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของประชาชนตามความเสี่ยงด้านสุขภาพ เช่น ผู้ที่มีรหัสสีเขียว สามารถเดินทางข้ามเมืองได้


ขณะเดียวกัน ทางการท้องถิ่นยังสามารถสั่งล็อกดาวน์พื้นที่ในวงจำกัด หรือสั่งตรวจหาเชื้อหมู่ได้ ดังที่เห็นที่เมืองชิงเต่า ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ที่มีการสั่งตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนากับประชากรราว 10 ล้านคน ภายในหนึ่งสัปดาห์ หลังพบผู้ติดเชื้อในเมือง 12 คน


การควบคุมสถานการณ์ระบาดของจีน ยังได้รับการตอบรับจากประชาชน ที่สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามแนวทางสาธารณสุขที่ทางการกำหนด ประกอบกับ มีการออกแคมเปญขนานใหญ่ของรัฐบาลจีนด้วย


ขณะที่นอกจากนี้จีนแล้ว ชาติอื่นๆ ในเอเชียตะวันออก เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และไต้หวัน มีวิธีการรับมือโรคระบาดที่มีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน แม้แต่ละที่จะมีแนวทางแตกต่างกันไป


ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออก เคยเผชิญการระบาดของโรคซารส์มาแล้ว จนทำให้ประชาชนและภาครัฐมีบทเรียนเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย และการมีมาตรการรับมือแต่เนิ่นๆ ในขณะที่ในสหรัฐฯ และชาติตะวันตกอื่นๆ ประชาชนจำนวนหนึ่ง ยังไม่ยอมรับการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ


สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นยังรายงานด้วยว่า จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และหลายชาติในเอเชียยังคงอยู่ในภาวะเฝ้าระวังขั้นสูง แม้ชีวิตประจำวันของประชาชนกลับมาสู่สภาวะปกติแล้ว ด้วยการตามรอยผู้ติดเชื้อ การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยติดตามตัว ในขณะที่ชาติต่างๆในยุโรป ยังมีแนวทางที่สับสน บางชาติยังขาดการตรวจหาเชื้อขนานใหญ่ การสั่งกักกันตัวยังไม่เพียงพอ


เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง