จับพระยืนบิณฑบาต คาตลาด สึกเณร12 มากับพระ ถูกแม่บังคับให้บวช เพื่อรับปัจจัย
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 3 ก.ย. นายธีรพงศ์ ฟังเร็ว พร้อมคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กลุ่มงานคุ้มครองพระพุทธศาสนา ลงตรวจสอบหน้า ตลาดสดประชานิเวศน์ 3 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า มีพระสงฆ์และสามเณรยืนรับบิณฑบาตรหน้าร้านขายอาหารชุดเป็นประจำทุกวัน
จากการตรวจสอบพบพระบุญสวัสดิ์ อายุ 76 ปี เป็นพระจีนนิกายมหายาน สำนักสงฆ์โพธิธรรม อ.เมือง จ.นนทบุรี และสามเณร อายุ 12 ปี สามเณรวัดแห่งหนึ่ง ย่านรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงเชิญตัวพระรูปดังกล่าวพร้อมสามเณรเดินทางไปพบกับพระราชนันทมุนี เจ้าอาวาสวัดบัวขวัญและเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี ให้ดำเนินการสอบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ก่อนการเข้าตรวจสอบที่หน้าตลาดสดพบสามเณรเกล้า ยืนบิณฑบาตรกับพระสงฆ์หนึ่งองค์ ตรงหน้าร้านขายอาหารจัดชุด เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ สามเณรและพระสงฆ์ รีบเดินหลบหนีอย่างรวดเร็วแต่ทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวสามเณรกลับมาได้
สามเณรรับว่า แม่บังคับให้มาบวชที่วัดแห่งหนึ่ง จากนั้นจึงให้ติดตามกับพระอีกหนึ่งองค์นั่งรถแท็กซี่มาบิณฑบาตรที่หน้าตลาดแห่งนี้ทุกวัน โดยปัจจัยที่ได้จากการทำบุญจะนำไปให้แม่เก็บไว้ โดยก่อนหน้านี้เคยถูกจับมาแล้วครั้งหนึ่งได้ถูกว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วและทำทัณฑ์บนไว้ จนกระทั่งมาถูกจับอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง
พระบุญสวัสดิ์ ให้การว่า เป็นพระจีนนิกายมหายาน ซึ่งตนได้บวชที่วัดจีนแห่งหนึ่งใน อ.บางบัวทอง จากนั้นได้ออกจากวัดมาเมื่อ 6 ปีที่แล้ว กลับมาอยู่ที่บ้านพักกับน้องชาย โดยใช้บ้านตั้งเป็นสำนักสงฆ์โพธิธรรม เพื่อใช้พักอาศัยและสะดวกในการออกบิณฑบาตรทุกวันเพื่อรับปัจจัยและอาหาร โดยไม่รู้ว่าเป็นความผิดทางวินัยสงฆ์ ซึ่งหลังจากนี้ไปจะไม่ออกมาบิณฑบาตรเช่นนี้อีก
ด้านนายธีรพงศ์ ฟังเร็ว เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าพระบุญสวัสดิ์ มีใบสุทธิเป็นพระจีนนิกายมหายานที่วัดจีนย่านบางบัวทองจริง จึงได้ตักเตือนเรื่องการยืนรับบิณฑบาตรเป็นการประพฤติวินัยสงฆ์ไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้คนติฉินนินทาได้ จึงได้ทำทัณฑ์บนคาดโทษเอาไว้และจะส่งตัวกลับไปยังวัดจีนต้นสังกัดเพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ส่วนสามเณรนั้น ทำผิดเป็นครั้งที่สองแล้ว และก็ถูกบังคับให้มาบวชหรือบิณฑบาตรรับปัจจัยเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม จึงต้องนำตัวกลับไปทำการสึกที่วัดต้นสังกัดที่ทำการบวชมา เพื่อส่งตัวกลับไปอยู่บ้านเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆทั่วไป และหากยังออกมาทำผิดในลักษณะนี้อีกจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาเป็นพระปลอม ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ขณะที่พระราชนันมุนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ไม่ว่าจะพระจีนหรือพระไทยสามารถบิณฑบาตรได้ แต่ไม่สามารถยืนรอรับบิณฑบาตรอยู่กับที่ได้ ยิ่งเป็นในช่วงเข้าพรรษาด้วยยิ่งผิดวินัยไปกันใหญ่ ผิดด้วยกันทั้งทั้งหมด แล้วยิ่งไม่จำพรรษาอยู่กับวัดแต่กลับไปจำพรรษาอยู่กับบ้านแบบนี้ก็ยิ่งผิดไปอีก ซึ่งได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองพระพุทธศาสนาดำเนินการตามความเหมาะสมกับพระจีนและสามเณรต่อไป