เอเยนต์หนุ่มสาวโป๊ะ บิดเครื่องหนี จนท.ตามจับได้ 2 หมื่นเม็ด ฝ่ายชายเผ่นหนีเข้าไร่อ้อย
ชายหญิงมีพิรุธ บิดเครื่องหนีปกครอง ตามจับหญิงได้กลางถนน พบยาบ้า 2 หมื่นเม็ด ส่วนชายเผ่นหนีเข้าไร่อ้อย อ้างเพิ่งรู้จักกัน
เอเยนต์สาววัย 36 ปีชาวอำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์สุดซวยซ้อนท้าย จยย.กลับจากสถานบันเทิงพร้อมเพื่อนชาย แต่จ๊ะเอ๋เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองอำเภอนามน และ อส.พร้อมผู้นำชุมชนกลางถนน ก่อนซิ่งหนี สุดท้ายไม่รอดล้มข้างทางจับทันควัน เพื่อนชายวิ่งหนี ค้นกระเป๋าพบยาบ้า 20,144 เม็ด อ้างเพิ่งรู้จักกัน เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันค้ายาบ้า
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอนามน จ.กาฬสินธุ์ นางสาวอ้อมอารีย์ ยี่วาศรี นายอำเภอนามน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายประวิทย์ชัย สลางสิงห์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง สมาชิก อส. กำนันตำบลหนองบัว และผู้นำชุมชน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นางเพิ่มพูน อายุ 36 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางยาบ้า 20,144 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ 1 คัน และหมวกนิรภัย 1 ใบ หลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอนามนและสมาชิก อส.จับตัวได้ขณะออกปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย
นางสาวอ้อมอารีย์ ยี่วาศรี นายอำเภอนามน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอนามน นำโดยนายประวิทย์ชัย สลางสิงห์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง สมาชิก อส. กำนันตำบลหนองบัว และผู้นำชุมชน ร่วมกันออกปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในงานกฐินที่วัดป่าหนองบัว หมู่ที่ 7 ต.หนองบัว อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ และลาดตระเวนรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ เพื่อป้องกันการทะเลาะวิวาทของวัยรุ่นและป้องกันปัญหายาเสพติดในพื้นที่
นางสาวอ้อมอารีย์กล่าวต่อว่า กระทั่งช่วงเวลา 04.00 น. วันที่ 30 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางกลับมายังที่ว่าการอำเภอนามน เมื่อถึงถนนหน้า อบต.หลักเหลี่ยม ได้สังเกตเห็นชายไทยใส่เสื้อแขนยาวสีดำ ใส่หมวกนิรภัยสีดำเขียว ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่าอาร์ 15 สีดำแดง และมีหญิงสาวใส่เสื้อยีนส์แขนยาว ใส่กางเกงยีนส์นั่งซ้อนท้ายด้วย ทั้ง 2 คนมีท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงปรับไฟสูงส่องใส่รถคันดังกล่าว ซึ่งเมื่อเห็นรถยนต์เจ้าหน้าที่ ทั้ง 2 คนตกใจ และชายคนขับเร่งเครื่องขี่หลบหนีอย่างรวดเร็วไปตามถนนสาย ต.หลักเหลี่ยม มุ่งหน้าไปบ้านดอนสวรรค์ โดยได้เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนโรงเรียนนามนพิทยาคม เจ้าหน้าที่จึงขับรถยนต์ตามอย่างกระชั้นชิด
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ของคนร้ายได้ล้มลง เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวหญิงสาวที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ทราบชื่อต่อมาคือนางเพิ่มพูน อายุ 36 ปี ส่วนคนขับเป็นชายได้ทิ้งรถจักรยานยนต์และหญิงสาววิ่งหลบหนีเข้าไปที่ไร่อ้อย ซึ่งจากการตรวจสอบนางเพิ่มพูน มีอาการหน้าซีด ตกใจ ลุกลี้ลุกลน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอให้แสดงความบริสุทธิ์ใจและได้รับความยินยอมจากผู้ต้องหา โดยได้ค้นบริเวณที่เกิดเหตุ และผู้ต้องหานั่งดูการตรวจค้นปรากฏว่าพบกระเป๋าสะพายหลังสีดำ จำนวน 3 ใบ อยู่ข้างลำตัวผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่เปิดกระเป๋าดังกล่าวออกต่อหน้าปรากฏว่าพบยาบ้าทั้งหมดรวม 20,144 เม็ด
โดยเบื้องต้นสอบถามนางเพิ่มพูนผู้ต้องหาให้การอ้างว่า ตนเองและนายจำรัส ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่หลบหนีไป ทราบว่าเป็นชาวบ้านปลาขาว ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเพิ่งรู้จักกันเมื่อคืน และเพิ่งกลับมาจากเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้จับกุม ส่วนยาบ้าทั้งหมดเป็นของนายจำรัส
อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนบริเวณป่าอ้อยใกล้ที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าพบหมวกนิรภัยสีดำห่างจากจุดที่เกิดเหตุ ประมาณ 20 เมตร คาดว่าเป็นหมวกนิรภัยของนายจำรัส จึงตรวจยึดเป็นของกลาง จากนั้นควบคุมตัวนางเพิ่มพูนไปตรวจปัสสาวะ วิเคราะห์โดยวิธีวิทยาศาสตร์ยืนยันที่โรงพยาบาลนามน ปรากฏว่าไม่พบสารเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ในร่างกาย
แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อกับคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด เพราะมีพิรุธหลายอย่าง คาดว่าจะเป็นการนำยาบ้ามาส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ โดยอาศัยจังหวะช่วงเช้ามืด แต่มาเจอเจ้าหน้าที่ก่อน เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.นามน พร้อมเร่งติดตามตัวชายที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป