กฎแห่งแรงดึงดูด The Series EP.8 : เราจะเป็นในสิ่งที่เราคิดหากเพื่อน ๆ อ่านบทความนี้เป็นบทแรก แนะนำให้ย้อนกลับไปอ่าน EP 1 - 7 ก่อนนะคะ โดยสามารถกดที่โปรไฟล์ของดารัณและค้นหาได้เลย หรือกดจากลิงค์ที่จะแนบไว้ให้ที่ท้ายบทความได้เลยค่ะ เพื่อทำความเข้าใจกับหลักการของกฎแรงดึงดูดก่อน จะได้อ่านได้โดยไม่ขาดตอนเนอะ :)"เราจะเป็นในสิ่งที่เราคิด" หมายความว่าอย่างไร?ในการวิจัยเกี่ยวกับการสร้างมโนภาพทางจิต เคยมีงานวิจัยเกี่ยวกับยาหลอกค่ะ โดยนักวิจัยให้คนไข้รับประทานยาหลอก ที่ทำมาจากแป้ง ไม่มีส่วนผสมของยารักษาใด ๆ เลย ซึ่งปรากฎว่าบางครั้งมันให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ายาจริงที่ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาด้วยซ้ำ! น่าแปลกนะคะว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้นได้? นักวิจัยค้นพบว่า จิตของมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลกระทบต่อการรักษา เมื่อจิตของพวกเขาเชื่อว่ายามีประสิทธิภาพจริง ๆ มันก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆสิ่งที่ปรากฎให้เราเห็นในโลกกายภาพ แท้จริงแล้วมันคือผลลัพธ์จากความคิดและความรู้สึกของเราค่ะ เช่นเดียวกับร่างกาย ความคิดและความรู้สึกสามารถกำหนดโครงสร้างทางกายภาพของร่างกายเราได้ โรคภัยต่าง ๆ ของร่างกาย ก็เป็นผลพวงมาจากความเครียด เมื่อมนุษย์มีความเครียดมาถึงจุด ๆ หนึ่ง มันจะส่งผลกระทบไปยังระบบของร่างกาย สะท้อนออกมาในเชิงกายภาพผ่านอาการเจ็บป่วยต่าง ๆเพื่อน ๆ เคยไหมคะ? ที่ตอนยังไม่รู้ว่าตัวเองป่วย ก็ไม่รู้สึกแย่สักเท่าไหร่หรอก แต่พอรู้ว่าตัวเองเป็นโรคร้าย หรือบางคนที่ช่วงนี้มีอาการกังวลจนคิดไปเองว่าติดเชื้อ Covid-19 หรือเปล่า? พอคิดเท่านั้นแหล่ะ ร่างกายเริ่มแสดงอาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่จริงแล้วอาจจะไม่ได้เป็นอะไรเลย นั่นแหล่ะค่ะ คือตัวอย่างของอาการทางร่างกายที่เป็นผลกระทบมาจากจิตที่ถูกหลอกโดยความคิดของเราเอง เพราะฉะนั้นเมื่อเรารู้สึกเจ็บป่วย ขอให้พึงระลึกไว้ในลำดับแรก ๆ เลยนะคะว่า กำลังมีบางอย่างผิดปกติในความคิดและความรู้สึกของเราอยู่ด้วย และส่งผลออกมาผ่านอาการทางร่างกาย แน่นอนว่าเราควรเข้ารักษาทางการแพทย์ แต่ก็ต้องอย่าลืมรักษาถึงต้นเหตุรากเหง้าของมันด้วยเช่นกันCr : Unsplashเราจะเป็นในสิ่งที่เราคิด..เพราะฉะนั้น ในขณะที่มีสติรู้ตัว ขอให้เปลี่ยนความคิดและความรู้สึกของเราให้อยู่ในจุดที่ดี รู้สึกขอบคุณที่ยังมีลมหายใจ ขอบคุณร่างกายที่งดงามของเรา โอบกอด ป้อนพลังงานดี ๆ อาหารดี ๆ เข้าสู่ร่างกาย เพื่อน ๆ อาจหาหนังตลกที่ผ่อนคลายมาดูกับคนรัก หัวเราะให้มาก ยิ้มให้กับสิ่งที่มี ความเครียดคือสิ่งเลวร้ายที่สุดที่เราจะมีในขณะที่รักษาร่างกาย จงทำอะไรก็ตามที่เราจะสามารถมีความสุข เพราะโรคภัยไม่สามารถมีชีวิตรอดในร่างกายที่มีสุขภาพจิตที่ดีได้ ร่างกายของเรากำจัดเซลล์นับล้านในทุกวินาที และมันก็สร้างเซลล์ใหม่อีกนับล้านมาแทนที่เช่นกัน เมื่อเราพร่ำบ่น พูดถึง นึกถึงแต่ความเจ็บป่วยของเรา นั่นคือเรากำลังสร้างเซลล์แห่งความเจ็บป่วยให้เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น จงอย่าลืมที่จะรักษาจิตใจของเรา ให้เป็นที่อยู่ของเซลล์ที่ดีที่กำลังถูกสร้างขึ้นจากความคิดที่ดีของเราด้วยความคิดและอารมณ์ของมนุษย์ เป็นสิ่งที่ประกอบขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง จัดระเบียบใหม่ นำไปสู่ชีวเคมีทางสรีระในรูปแบบใหม่ เพื่อน ๆ อาจเคยเห็นคนที่อวัยวะบางอย่างเสียหาย แต่สามารถงอกกลับคืน หรือระบบการทำงานบางอย่างเสียหาย แต่สามารถฟื้นคืนสภาพ หรือเชื้อมะเร็งหายไป แม้ไม่ได้ทำการบำบัดด้วยเคมีก็ตาม ขอยกตัวอย่างเป็นนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังอย่างคุณ สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง ซึ่งเป็นบุคคลที่น่าจะรู้จักกันดี ฮอว์กิ้งป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องอยู่ในสภาพเหมือนผัก ที่ขยับได้เพียงบางส่วนของร่างกาย หมอวินิจฉัยว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 2 ปี เท่านั้น แต่รู้ไหมคะว่าฮอว์กิ้งเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี 2017 ในอายุ 68 ปี นั่นหมายความว่าเขาใช้ชีวิตมาได้ถึงกว่า 35 ปี ในสภาพของร่างกายที่ขยับได้เพียงข้อนิ้ว ฮอว์กิ้งใช้ชีวิตได้อย่างยาวนาน สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นที่ประจักษ์มากมายแก่โลกใบนี้ นั่นเพราะเขามีจิตใจที่ศรัทธามุ่งมั่น และธรรมชาติของร่างกายสามารถเยียวยาตัวเองได้จากภายใน หากจิตใจเชื่อมั่นมากพอ หากเพื่อน ๆ สนใจศึกษาชีวประวัติของคุณฮอว์กิ้งเพิ่มเติม สามารถชมผ่านภาพยนต์ที่บอกเล่าชีวประวัติของเขา เรื่อง "The Theory of Everything" ได้เลยค่ะ เป็นภาพยนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ๆ เรื่องหนึ่งเลยเพราะฉะนั้น ไม่ว่าตอนนี้เราจะกำลังเผชิญกับโรคภัยใดอยู่ ขอให้กำจัดความเครียดออกไปจากร่างกายให้ได้ก่อน พยายามใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เปี่ยมล้นด้วยความหวัง เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถเป็นปกติได้ สร้างคลื่นพลังงานบวกจากภายใน เพื่อให้ร่างกายเยียวยาตัวเองได้อย่างคล่องตัวนะคะCr : ภาพจาก Official Trailer ภาพยนต์เรื่อง The Theory of Everythingคนเรามีแนวโน้มที่จะมองสิ่งต่าง ๆ ในมุมที่ไม่ต้องการ และทุ่มเทพลังงานไปกับมันมากทีเดียว หลายครั้งที่เราต่อต้านสิ่งที่ไม่ดี ถึงขนาดรวมพลังต่อต้าน เราต่อต้านการคอร์รัปชัน ต่อต้านยาเสพติด ต่อต้านการเหยียดสีผิว ต่อต้านเผด็จการ ต่อต้านความรุนแรง ต่อต้านสงคราม ต่อต้านสิ่งไม่ดีมากมายที่เราไม่ต้องการ และใช่ มันก็เป็นไปตามกฎ “สิ่งใดที่เราให้ความสนใจ เราจะได้รับสิ่งนั้น” เพื่อน ๆ เคยเห็นไหมล่ะคะว่าสิ่งที่เรารวมพลังต่อต้านกันเหล่านั้น มันหายไปจากโลกได้จริง ๆ นอกจากจะมีเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะมนุษย์จำนวนมากไปเพิ่มพลังงานให้กับมัน ไปโฟกัสในสิ่งที่ไม่ต้องการ ช่างเป็นอะไรที่ตลกร้ายแม่ชีเทเรซ่าเคยกล่าวว่า จะไม่มีวันเดินขบวนต่อต้านสงคราม แต่หากมีการเดินขบวนเพื่อสันติ จึงจะเข้าร่วม นั่นอาจเพราะท่านเข้าใจในความลับของพลังงาน เข้าใจในการทำงานของกฎแห่งแรงดึงดูด ว่าหากเราอยากต่อต้านสงคราม สิ่งที่ควรทำคือส่งเสริมส่งเสริมในสิ่งที่เราต้องการให้ขยายใหญ่ขึ้น ส่งเสริมสันติภาพ แทนที่จะให้พลังงานกับสงคราม หากเราต่อต้านนักการเมืองบางคน แทนที่จะแสดงความเกลียดชัง สร้างวาทกรรม Hate speech กระจายพลังงานลบ และยังเป็นการไปเพิ่มพลังงานและความสนใจให้คนที่เราเกลียด ลองเปลี่ยนเป็นสนับสนุนฝ่ายตรงข้ามคนที่เราไม่ชอบแทน จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าค่ะ กุญแจสำคัญมีแค่..“เราต้องให้ความสนใจในสิ่งที่เราต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่เราไม่ต้องการ”เรียนรู้ที่จะอยู่นิ่ง ๆ หยุดให้ความสนใจกับสิ่งที่ไม่ต้องการ หยุดรับพลังงานลบจากสิ่งแย่ ๆ เหล่านั้น และหันไปโฟกัสกับสิ่งที่เราอยากพบเจอ เพราะพลังงานดึงดูดจะไหลเวียนไปยังสิ่งที่เราให้ความสนใจอยู่ ขึ้นอยู่กับเราเองนะคะ ว่าต้องการจะให้มันไหลเวียนไปยังสิ่งใด..Cr : Unsplashชีวิตคือผลงานชิ้นเอกที่เราเป็นผู้รังสรรขึ้นมาเอง ขึ้นอยู่กับเราเองว่าเลือกจะป้อนวัตถุดิบใดเข้าสู่จิตใจของเรา หากป้อนสิ่งดี ๆ ความคิดดี ๆ แน่นอนว่าเราจะได้รับสิ่งดี ๆ เข้าสู่ชีวิต สิ่งดีอันดับแรกก็คือความรู้สึกที่ดีที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่เมื่อเราป้อนแต่ความคิดแง่ลบเข้าสู่จิตใจ แน่นอนว่าเราจะรู้สึกถึงความไม่สบาย ความเจ็บปวด ความทุกข์ ไม่สำคัญว่าคนที่เราเกลียดจะได้รับผลกระทบที่ไม่ดีจากความคิดเราหรือไม่ แต่ตัวเราเองนั่นแหล่ะ ที่ได้รับสิ่งไม่ดีจากความคิดเราเองเป็นคนแรกจะเลือกให้เป็นแบบไหน...อยู่ที่ใจเราถ้าเพื่อน ๆ สนใจอ่านทฤษฎีกฎแรงดึงดูดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่หน้าโปรไฟล์ของดารัณโดยการ Follow ไว้ได้เลยค่ะ และสามารถอ่าน EP ที่ผ่านมาได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยค่ะEP1 : กฎแรงดึงดูดคืออะไร ทำไมไลฟ์โค้ชจึงบอกว่าดีEP2 : สิ่งที่เหมือนกัน จะดึงดูดเข้าหากันเสมอขอให้ทุกคนมีวันที่ดีค่ะ :) เรื่อง : ดารัณ พันสวะนัด (ผู้เขียน)ขอบคุณภาพประกอบปกจาก Unsplash