สวัสดีทุกท่านครับ หลังจากเราได้ทำเปรียบเทียบทั้งรุ่น Standard และ Pro วันนี้มาเปรียบเทียบรุ่นเล็กสุดนั้นคือรุ่น F ใช่ครับวันนี้ OPPO Reno13F กับ OPPO Reno12F ว่าจะต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง การออกแบบ เมื่อพูดถึงการออกแบบ Reno13F และ Reno12F แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์ ขนาดเครื่อง น้ำหนัก และสีเครื่อง มาเริ่มที่ดีไซน์ Reno13F จะดีไซน์ AirLight ออกแบบให้สบายมือ เพรียวบาง น้ำหนักเบาและทนทานกว่าเดิม ปฏิวัติรูปแบบใหม่ของแสงและเงา ด้วย Avant garde สุดทันสมัย ที่ไม่ใช่แค่สวยงามอย่างเดียว แต่คำนึงถึงเล่นแสงและเงาด้วย มีสีเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทากราไฟต์ Graphite Grey ,สีม่วงพลูม Plume Purple และสีฟ้าลูมินัส Luminous Blue ขนาด 162.2 × 75.05 × 7.76-7.82 มม. น้ำหนัก 192 กรัม และสามารถกันน้ำกันฝุ่น IP69 ในขณะที่ Reno12F จะดีไซน์ Cosmos Ring ความสวยงามสุดคลาสสิก สง่างามสุดเรียบง่าย ที่ได้แรงบันดาลใจจากมือถือระดับเรือธงมอบความรู้สึกเหมือนนาฬิกาสุดหรู มาพร้อม Halo Light ที่โมดูลกล้องสามารถเปลี่ยนสีไฟได้ตามเอฟเฟกต์ให้เข้ากับเราใช้โทรศัพท์ในขณะนั้น เช่น ฟังเพลง การคุยโทรศัพท์ การชาร์จ การแจ้งเตือนต่างๆ รูปทรงเพรียวบางและน้ำหนักเบา มีสีเครื่องให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเขียว Olive Green และสีส้มพีช Amber Orange ขนาด 163.1 × 75.8 × 7.69-7.76 มม. น้ำหนัก 187 กรัม และสามารถกันน้ำกันฝุ่น IP64 หน้าจอ หน้าจอของ Reno13F จะเป็นหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400×1080 (394PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1200nits มาพร้อมกระจก AGC DT-Star2 ในขณะที่ หน้าจอของ Reno12F จะเป็นหน้าจอแบน OLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400×1080 (394PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1200nits มาพร้อมกระจก AGC DT-Star2 ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ Reno13F มาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 6 Gen1 ความเร็ว CPU 2.2GHz ต่อมาส่วน RAM 12GB ส่วน ROM มีให้เลือก 256GB/512GB ระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 และ OPPO AI ในขณะที่ Reno12F มาพร้อมกับชิปเซต MediaTek Dimensity 6300 ความเร็ว CPU 2.4GHz ต่อมาส่วน RAM 12GB ส่วน ROM 256GB ระบบปฏิบัติการ ColorOS 14.1 และ OPPO AI กล้อง Reno13F และ Reno12F ได้กล้องชุดเดิม กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP มาพร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 8MP + กล้อง Macro 2MP และกล้องหน้า 32MP แต่ยกเว้นเรื่องบันทึกวิดีโอกล้องหลัง Reno13F สามารถบันทึกวิดีโอได้ 4K 30fps ในขณะที่ Reno12F ได้แค่ 1080p 30fps ส่วนกล้องหน้าบันทึกวิดีโอได้แค่ 1080p 30fps เช่นเดิมทั้งสองรุ่น การเชื่อมต่อ Reno13F รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.1 , USB-C 2.0 และ Wi-Fi 2.4, 5 ในขณะที่ Reno12F รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 , USB-C 2.0 และ Wi-Fi 2.4, 5 แบตเตอรี่ Reno13F มีความจุแบตเตอรี่ 5800mAh รับรองชาร์จไว 45W SuperVOOC ในขณะที่ Reno12F มีความจุแบตเตอรี่ 5000mAh รับรองชาร์จไว 45W SuperVOOC https://youtu.be/pJ4t51bkf1g?si=VS07m06Fmns4H6QR ราคา OPPO Reno13F รุ่น 12GB/256GB ราคา 12,999 บาท รุ่น 12GB/512GB ราคา 14,999 บาท OPPO Reno12F รุ่น 12GB/256GB ราคา 11,999 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี OPPO Reno13F และ OPPO Reno12F เป็นมือถือ 5G ที่กล้องดี ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ ถ้าผมแนะนำสำหรับคนที่ใช้งานทั่วไปใช้ได้ทุกรุ่นเลย แต่โดยส่วนตัวผมแนะนำเป็น Reno13F มากกว่าเพราะเรื่องแรกกันน้ำกันฝุ่นได้ดีกว่า อย่างที่สอง ROM มีให้เลือกถึง 512GB อย่างที่สาม AI Phone ดีกว่า อย่างที่สี่กล้องหลังถ่ายวิดีโอได้ถึง 4K 30fps และเรื่องสุดท้ายแบตเยอะกว่า ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์และหลังซื้อมือถือทุกครั้งควรเช็คแอปในเครื่องทุกครั้งก่อนออกจากร้านเพื่อป้องกันแอปปริศนาที่มากับเครื่องก็ได้ ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ OPPO Reno13 Serise ก่อนใครสามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ OPPO Brand Shop ได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้ช่วยกดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review บทความ TrueID : WV เรียบเรียงโดย : WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจาก Facebook : OPPO : Reno13F และ Reno12F ภาพประกอบจาก X : OPPO : 1 , 2 , 3 วิดีโอจาก YouTube : OPPO Thailand เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !