โลกร้อน สภาวะเรือนกระจก ฝุ่นPM2.5 ประเด็นปัญหาที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ หนึ่งในแหล่งกำเนิดหลักของปัญหาเหล่านี้มาจากการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา นั่นก็คือ การเดินทางและคมนาคม ระบบขนส่งสาธารณะของประเทศไทยเป็นปัจจัยสำคัญของมนุษย์ ซึ่งอาจไม่สะดวกสบาย และไม่เหมาะกับการใช้งานของกลุ่มคนบางส่วน เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือสตรีมีครรภ์ เป็นต้น คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมากกว่าการใช้งานระบบขนส่งสาธารณะ รถยนต์ระบายมลพิษทางอากาศหลายชนิดที่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ควันดำจากการใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันโดยผลการวิจัยจากสถาบันคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (EPA) ได้มีการระบุว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของมลพิษคาร์บอนมอนอกไซด์เกิดจากรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมืองและถนนสายหลัก ดังนั้นจากประเด็นปัญหาที่กล่าวมา ผู้เขียนบทความในฐานะที่ได้เป็นนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาสิ่งแวดล้อม จึงขอมานำเสนอแนวทางการเดินทางรอบรั้วจุฬาฯ ง่ายๆ ฉบับคนรักษ์โลก แนวทางการเดินทางที่ 1 การเดินทางด้วย CU Shuttle Bus หรือที่เด็กจุฬาฯ เรียกกันว่า “รถป๊อป” นั่นเอง รถโดยสารปรับอากาศประจำทางในพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแทนเชื้อเพลิงจากน้ำมัน เพื่อลดการปล่อยมลภาวะทางอากาศ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งปัญหาการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และฝุ่น PM2.5 ให้สอดคล้องกับนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยทางจุฬาฯ ได้เล็งเห็นว่าพื้นที่ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอยู่ใจกลางเมือง รอบด้านรายล้อมไปด้วยศูนย์การค้าขนาดใหญ่ สถาบันการศึกษา ย่านร้านค้าและที่พักอาศัยของบุคคลวัยเรียนและวัยทำงาน อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT รวมไปถึงสำนักงานมากมาย จึงมีผู้คนจำนวนมากเดินทางสัญจรไปมาตลอดทั้งวัน ระบบขนส่งสาธารณะเลยมีความสำคัญต่อผู้เดินทางเป็นอย่างมาก โดยสถานีและจุดจอดของรถป๊อปทั้ง 5 สาย มีดังรูปเวลาทำการของรถป๊อปจะอยู่ในช่วงเวลา 6.30-21.30 น. ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ แต่วันเสาร์จะให้บริการเฉพาะสาย 1 และ 2 ซึ่งเป็นสายที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก จุดรวมของรถป๊อปทุกคันจะอยู่ที่ศาลาพระเกี้ยว ทำให้การเดินทางด้วยรถป๊อปนั้นง่าย ปลอดภัย และสะดวกสบาย สีของรถป๊อปปัจจุบันเป็นสีชมพูสดใสซึ่งเป็นสีประจำของมหาวิทยาลัย ทำให้สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน รูปลักษณ์ภายนอกและภายในมีความทันสมัย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้บริการรถ ไม่ต้องยืนเบียดกันเนื่องจากรถวิ่งเป็นเวลาตลอดทั้งวัน ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถติดตามตารางเวลาออกรถและเส้นทางการวิ่งของรถป๊อปได้ทางเพจ Facebook CU POP BUS ซึ่งจะมีการอัพเดทข้อมูลข่าวสารตลอด และยังสามารถวางแผนการเดินทางได้ด้วยแอพพลิเคชัน ViaBus บนมือถือ ซึ่งมีจีพีเอสติดตามรถทุกคัน บอกตำแหน่งแบบ Real time ของรถแต่ละคันได้ ดูได้ว่ารถแต่ละสายเหลือพื้นที่โดยประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ คำนวณเวลาคร่าวๆ ว่าอีกกี่นาทีรถป๊อปจะมาถึงป้าย และสามารถค้นหาป้ายหรือสายที่ผ่านเส้นทางที่ต้องการจะไปได้รถป๊อปได้รับความนิยมและเป็นทางเลือกการเดินทางที่เหมาะกับสำหรับนิสิต อาจารย์ และประชาชนทั่วไปที่ต้องเดินทางในพื้นที่ ใครๆ ก็ใช้ได้ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นบุคลากรของจุฬาฯ ตัวอย่างการใช้งานรถป๊อปในชีวิตประจำวันของผู้เขียนบทความ คือ การเดินทางมาที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ตอนเช้า นั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีสยาม จากนั้นก็มายืนเข้าแถวรอขึ้นรถป๊อปที่ป้ายลิโด้สยาม รถป๊อปที่ผ่านป้ายนี้จะเป็นรถสาย 1 และ 4 แต่ถ้าขึ้นสาย 4 ก็จะใช้เวลาไปที่คณะนานกว่าสาย 1 เล็กน้อย เนื่องจากต้องไปอ้อมผ่านทางสามย่านมิตรทาวน์ก่อน เหมาะกับวันสบายๆ ไม่เร่งรีบ ทั้งสองสายจอดถึงหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ ก่อนจะไปสิ้นสุดสายที่ศาลาพระเกี้ยว หรือสำหรับคนที่สะดวกมาทางรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ก็จะเดินมารอที่ป้ายสามย่านมิตรทาวน์ หน้าคณะนิติศาสตร์เพื่อรอขึ้นสาย 4นอกจากนี้พอถึงเวลาเลิกเรียน บางครั้งมีนัดไปทานข้าวหรือขนมหวานกับกลุ่มเพื่อน สำหรับเพื่อนและตัวผู้เขียนบทความเองที่ไม่มีรถส่วนตัว ก็จะเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ด้วยรถป๊อปเช่นกัน ถ้าไปที่มาบุญครองจะขึ้นสาย 3 ถ้าไปที่บรรทัดทองก็จะขึ้นสาย 5 หรือถ้าช่วงใกล้สอบหรือเข้าเดือนสำหรับนิสิตวิศวะ ก็สามารถนั่งสาย 2 เพื่อไปอ่านหนังสือหรือทำงานกันที่หอกลางได้ เป็นแนวทางการเดินทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แนะนำมากๆแล้วถ้าอยากเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ที่รถป๊อปเข้าไม่ถึง ชั่วโมงเร่งรีบไม่สะดวกที่จะรอรถที่จะมาตามตารางเวลาและหยุดจอดส่งผู้โดยสารทุกป้าย หรือมีของสำภาระเป็นจำนวนมากไม่เหมาะแก่การนั่งรถประจำทาง ซึ่งสถานการณ์ที่กล่าวมานับว่าเป็นข้อจำกัดของรถป๊อปเช่นกัน ดังนั้นจึงมีแนวทางการเดินทางที่ 2 นั่นก็คือ การใช้บริการรถตุ๊กๆ ไฟฟ้า หรือเรียกว่า “MuvMi” รถตุ๊กๆ อัจฉริยะที่ใช้ระบบไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ อยู่ภายใต้โครงการ Chula smart city ซึ่งไอเดียรถตุ๊กๆ ไฟฟ้าเกิดมาจากปัญหาที่รถขนส่งสาธารณะหรือรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่บางแห่งได้ เช่น พื้นที่ที่อยู่นอกถนนเส้นหนัก พื้นที่ในตรอกซอกซอย เป็นต้น การใช้งาน MuvMi ผู้ใช้บริการจะต้องโหลดแอพพลิเคชันของ MuvMi บนมือถือก่อน โดยการเรียกรถแต่ละครั้งจะมีการคิดค่าบริการ ซึ่งกำหนดอย่างชัดเจนตามระยะทางจากจุดรับไปยังจุดส่ง ผู้ใช้บริการรับรู้ราคาก่อนกดเรียกรถ ไม่ต้องเสียเวลาเจรจาต่อรองเรื่องราคา พอใจกันทั้งสองฝ่าย โดยราคาก็จะไม่แพงเกินไป นิสิตและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้เมื่อเรียกรถก็จะบอกเวลาที่รถจะมาเพื่อให้ผู้ใช้บริการไปยืนรอประจำจุดรับ โดยรถหนึ่งคันสามารถจุได้ทั้งหมด 6 คน ถ้าผู้ใช้บริการอยู่ใกล้กันหรือมีจุดส่งอยู่ในเส้นทางเดียวกัน ทางแอพพลิเคชันก็จะจัดให้คนขับไปรับตามจุดต่างๆ เพื่อไปพร้อมกัน แต่หากมีสิ่งของสำภาระเยอะ ก็สามารถกดเหมารถได้เพื่อความสะดวกสบาย ไม่เกะกะผู้ใช้บริการคนอื่น รถ MuvMi มีความปลอดภัยเนื่องจากผ่านการวิเคราะห์การชนร่วมกับสถาบันศูนย์เทคโนโลยีและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) แล้ว ผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจและเชื่อถือได้ ดีไซน์รถมีความทันสมัย เบาะนั่งสบาย พื้นที่บนรถค่อนข้างกว้าง เหยียดขาได้โดยไม่รบกวนผู้อื่น นอกจากนี้ยังไม่สร้างมลภาวะทางอากาศ ไม่มีควันดำจากท่อไอเสียเหมือนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันในการขับเคลื่อน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แต่รถ MuvMi ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น จุดรับและจุดส่งไม่สามารถเกินขอบเขตพื้นที่ให้บริการเป็นโซนได้ จึงเหมาะแก่ผู้ที่ต้องการเดินทางใกล้ๆ มากกว่า ซึ่งโดยส่วนตัวของผู้เขียนบทความเองจะใช้บริการรถ MuvMi ในช่วงเช้าของการเดินทางจากบ้านไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS เนื่องจากไม่อยากให้เหงื่อออกจนไปรบกวนเครื่องสำอางบนหน้า และใช้เวลาไม่นานในการไปถึงรถไฟฟ้า หรือสำหรับนิสิตจุฬาฯ ที่พักอยู่หอรอบๆ มหาวิทยาลัย แต่รถป๊อปเข้าไม่ถึงก็สามารถเรียกใช้บริการรถ MuvMi แทนได้เช่นกันสุดท้ายแนวทางการเดินทางรอบรั้วจุฬาฯ ที่ 3 คือ การใช้ Anywheel บริการรถจักรยานสาธารณะ (Bike sharing) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายระหว่างเดินทาง เดินทางไม่ไกล และไม่ชอบการจราจรติดขัดบนท้องถนน โดยโหลดแอพพลิเคชันของ Anywheel บนมือถือ เพื่อใช้งานรถจักรยานที่จัดไว้ตามจุดต่างๆ รอบมหาวิทยาลัย ซึ่งคิดค่าบริการตามระยะเวลาที่ใช้งาน 10 บาทต่อ 30 นาที เอนี่วีลเป็นการรวบรวมนวัตกรรมเกี่ยวกับการควบคุมระยะไกลและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้าด้วยกัน หรือสำหรับใครที่ปั่นจักรยานไม่เป็นก็มีอีกทางเลือกในการเดินทางที่ทันสมัยและเท่ คือ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (E-Scooter shearing) ซึ่งก็จำเป็นต้องโหลดแอพพลิเคชัน Beam ซึ่งความเห็นจากผู้ใช้บริการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้านั้นเป็นไปทางบวก ขับง่ายและสนุก ทั้งจักรยานและสกู๊ตเตอร์นั้นสร้างความสะดวกสบายและความเพลิดเพลินแก่ผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก และยังช่วยลดการใช้รถยนต์ในเขตพื้นที่มหาวิทยาลัยซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ เป็นการสนับสนุนให้นิสิตและบุคลากรหันมาใช้งานยานพาหนะที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม จากทางเลือกรูปแบบในการเดินทางรอบรั้วจุฬาฯ ที่หลากหลาย ซึ่งเหมาะกับผู้เดินทางทั้งนิสิต คณาจารย์ บุคลากรทางมหาวิทยาลัย หรือประชาชนทั่วไปที่ต้องเดินทางในพื้นที่ ทุกคนสามารถเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับความต้องการและความสะดวกของตนเองได้ ก่อนการใช้บริการก็ควรศึกษาทั้งข้อได้เปรียบและข้อจำกัดของรถแต่ละประเภทก่อน เพื่อเลือกรูปแบบการเดินทางที่เหมาะกับตนเอง นอกจากนี้การลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในพื้นที่และการเปลี่ยนจากรถประจำทางเดิมที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดหลักของมลพิษทางอากาศ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จะส่งผลต่อการเกิดปัญหาภาวะโลกร้อนในอนาคต หรือปริมาณฝุ่น PM2.5 ที่มีค่าเกินกว่ามาตรฐานที่ยอมรับได้ มาเป็นการใช้พลังงานจากไฟฟ้าแทน ก็เป็นวิธีการป้องกันและลดผลกระทบจากประเด็นปัญหาต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน รูปภาพประกอบที่ 1 , รูปภาพประกอบที่ 2รูปปกและรูปภาพประกอบอื่น ๆ ถ่ายโดยครีเอเตอร์ ติดตามข่าวสาร คอนเทนต์เด็ด ๆ ก่อนใคร อย่าช้า โหลดเลยที่ TrueID !!