ธุรกิจเกาะติดโควิดระบาดรอบ2 หวั่นฉุดกำลังซื้อ-ท่องเที่ยว-ขยายสาขาแฟรนส์ไชส์ชะลอตัว
นายบุญประเสริฐ พู่พันธ์ นายกสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ กล่าวภายหลังการแถลงจัดประกวดรางวัลธุรกิจแฟรนไชส์ไทย ประจำปี 2563(Thailand Franchise Award 2020 : TFA 2020) ที่โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท 24 กรุงเทพฯ โดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับธุรกิจแฟรนไชส์และสถาบันการเงิน เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ว่า สมาคมฯกำลังติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากการติดเชื้อรายใหม่ของกลุ่มที่เดินทางมาจากต่างประเทศมาไทยยังมีต่อเนื่อง รวมถึงกระแสการระบาดของโควิด-19 รอบ2 ซึ่งได้สร้างความวิตกกังวลต่อคนในประเทศ ที่จะออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านและการเดินทางเพื่อพักผ่อนและท่องเที่ยวในวันหยุดเกิดการลังเลหรือชะลอกิจกรรมที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้กว่าเดือนเศษหลังจากรัฐบาลทยอยเปิดล็อกดาวน์ให้ธุรกิจเปิดให้บริการได้ตามปกติ ส่งผลต่อกำลังซื้อและการเดินทางเพิ่มมากขึ้นเป็นอันดับ จึงส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจแฟรนไชส์เริ่มฟื้นตัว และแนวโน้มจะดีขึ้นในไตรมาส3-4 ปีนี้ ซึ่งได้มีประชาชนที่ถูกเลิกจ้างและแรงงานบ้างส่วนอยากเปลี่ยนอาชีพ จึงสนใจต่อการลงทุนและทำธุรกิจที่เป็นของตนเองมากขึ้น และที่ผ่านมาเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจและติดลบ แต่แฟรนไชส์กลับสวนทางขยายตัวเป็นบวก ซึ่งครึ่งปีแรกติดลบแยะเพราะต้องปิดสาขาชั่วคราว ไม่ใช่ลูกค้าหยุดซื้อ
นายบุญประเสริฐ กล่าวต่อว่า ธุรกิจแฟรนส์ไชส์ประเมินกันว่าครึ่งปีหลังจากความต้องการลงทุนใหม่ของผู้ประกอบการรายใหม่และการลงทุนขยายสาขาแบบขนาดเล็กลงหรือแบบคีออส ตั้งอยู่นอกห้าง อยู่ริมถนนและแหล่งชุมชน เพราะผู้บริโภคเปลี่ยนไปตามวิถีใหม่(นิวนอร์มอล)ทานอาหารนอกบ้านหรือสั่งดิลิเวอรี่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแฟรนไชส์ด้านอาหาร ซึ่งเป็นสัดส่วนของตลาดรวมกว่า 60% จึงทำผลต่อการฟื้นตัวของธุรกิจแฟรนไชส์โดยรวมให้กลับมาติดลบลดลง จากช่วงครึ่งปีแรก2563 ตลาดเสียหายลบกว่า 30% เพียง 6 เดือนผลจากโควิด-19 ระบาดเสียหายกว่า 9 หมื่นล้านบาท จากตลาดรวมปีละประมาณ 3 แสนล้านบาท ถือว่าเสียหายหนักอย่างไม่เคยเกิดขึ้น ให้กลับมาเป็นบวก 10%ในครึ่งปีหลังเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หากมองทั้งปี2563 ก็จะยังติดลบ 10%
“ หากเกิดการระบาดของโควิดอีกรอบ ก็เชื่อว่าประชาชนมั่นใจต่อการดูแลของภาครัฐ และรับรู้แล้วว่าต้องปฎิบัติตัวอย่างไร ความตื่นตระหนกก็จะน้อยกว่าห่วงที่เกิดขึ้นระยะแรกๆ แม้บางพื้นที่อาจต้องมีการล็อกดาวน์บ้างเพื่อให้มั่นใจว่าไม่แหล่งการระบาดของโวรัสเชื่อว่าประชาชนก็ยอมรับได้ ดีกว่าจะปล่อยให้เกิดการระบาดวงกว้าง อย่างไรก็ตาม เอกชนก็ไม่อยากให้เกิดการระบาดรอบ 2 เพราะอาจกระทบวงกว้างต่อการลงทุนและการบริโภคยืดออกไปอีกหลายเดือนถึงเป็นปี กว่าจะเข้าภาวะปกติ นายบุญประเสริฐ กล่าว
นายบุญประเสริฐ กล่าวต่อว่า หากมาสำรวจถึงชนิดของธุรกิจแฟรนไชส์ ยอมรับว่าแฟรนไชส์ด้านการศึกษาและสปา ค่อนข้างได้รับผลกระทบหนักกว่าด้านอาหาร แม้ขณะนี้ก็พบว่ายังปิดกิจการอีกมากในกลุ่มการศึกษา สปา และความงาม ที่กำลังเห็นอนาคตคือการสร้างแฟรนไชส์ใหม่ด้านเพื่อดูแลสุขภาพ สำหรับปัญหาที่ธุรกิจแฟรนไชส์ต้องเจออย่างหนัก คือ การเข้าไม่ถึงซอฟต์โลนตามที่รัฐบาลประกาศให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายย่อย เพราะถูกมองว่าเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง ดังนั้นอยากให้รัฐบาลและทีมเศรษฐกิจเร่งออกมาตรการช่วยเหลือเน้นเรื่องลดต้นทุนและเพิ่มสภาพคล่องธุรกิจ และปล่อยกู้ให้กลุ่มยื่นของไลเซนส์ที่เริ่มมีมากขึ้น แต่เปิดกิจการไม่ได้เพราะรัฐไม่อนุมัติ อีกประการคือ รัฐบาลน่าจะใช้โอกาสนี้เตรียมความพร้อมที่จะส่งเสริมแฟรนไชน์ไทยให้ออกไปขยายกิจกรรมผ่านแบรนด์ที่เป็นของคนไทยเอง เหมือนจากแฟรนไชส์ต่างชาติเข้ามาตีตลาดในไทยหลายปีต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าหลายแบรนด์ไทยสามารถเติบโตได้ในต่างประเทศเพราะดูจากความนิยมของนักท่องเที่ยว จนบ้างแบรนด์ขยายไลน์เซนส์ไปประเทศเพื่อนบ้าน และสหรัฐฯได้แล้ว
ด้านนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรม ร่วมกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM Bank ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ จัดงาน “Thailand Franchise Award 2020: TFA 2020” เพื่อมอบโล่รางวัลให้กับธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีการพัฒนาศักยภาพและมาตรฐาน จนเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค โดยกำหนดเป็นประเภทรางวัลแบ่งออกเป็น 5 ประเภท รวม 13 รางวัล ดังนี้ ประเภทที่ 1 รางวัลธุรกิจแฟรนไชส์ไทยยอดเยี่ยมตามขนาด 3 รางวัล ประเภทที่ 2 รางวัลธุรกิจแฟรนไชส์ไทยยอดเยี่ยมรายอุตสาหกรรม5 รางวัล ประเภทที่ 3 รางวัลธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่มีความโดดเด่นเฉพาะด้าน ประเภทที่ 4 รางวัลสุดยอดธุรกิจแฟรนไชส์ไทยแห่งปี ประเภทที่ 5 รางวัลธุรกิจแฟรนไชส์ต่างประเทศ ธุรกิจแฟรนไชส์ที่สนใจสมัครเข้าร่วมประกวด ต้องดำเนินกิจการในรูปแบบแฟรนไชส์ภายในประเทศไทย โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2563