รีเซต

แห่ขอโชคลาภ ชาวบ้านฝันเห็น แม่ตะเคียน ตะลึงผุดกลางน้ำวัง อายุ100ปี 4 คนโอบ

แห่ขอโชคลาภ ชาวบ้านฝันเห็น แม่ตะเคียน ตะลึงผุดกลางน้ำวัง อายุ100ปี 4 คนโอบ
ข่าวสด
1 ตุลาคม 2563 ( 02:30 )
389

แห่ขอโชคลาภ ชาวบ้านฝันเห็น แม่ตะเคียน ตะลึงผุดกลางน้ำวัง อายุ 100 ปี 4 คนโอบ ที่ริมแม่น้ำวัง หลังชุมชนศรีบุญเรือง ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง

 

วันที่ 30 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ริมแม่น้ำวัง หลังชุมชนศรีบุญเรือง ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง มีต้นตะเคียนขนาดใหญ่ถูกชักลากขึ้นมาไว้บนฝั่งขนาดโคนต้น 4 คนโอบ ปลายต้นขนาด2 คนโอบ ยาวประมาณ 20 เมตร ลักษณะกลมกลึงสภาพยังสมบูรณ์ มีอายุมากกล่าว 100 ปี ที่อยู่กลางแม่น้ำวัง ชาวบ้านกล่าวว่าชาวบ้านในชุมชนเคยฝันว่า เจ้า แม่ตะเคียน อยากขึ้นจากน้ำ เพราะอยู่ในน้ำมานาน ทำให้ชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนมีความเชื่อควรนำต้นตะเคียนขึ้นมาจากน้ำ และหาที่อยู่คู่ชุมชน

 

ชาวบ้านทราบข่าวมีต้นคะเตียนในพื้นที่ดังกล่าว ต่างดอกไม้ ธูปเทียน นำเขียว น้ำแดง และผ้าเจ็ดสีมาผู้ที่ลำต้นตะเคียน พร้อมกระจก หวี ขนมและนำกระป๋องแป้งโรย เพื่อหาเลขเด็ด และขอโชคลาภกับเจ้าแม่ต้นตะเคียน โดยชาวบ้านกล่าวว่า ได้เห็นเป็นตัวเลข 20 21 23 78 และ 423 บางรายก็นำเลขวันที่รถยกต้นตะเคียนขึ้นมาไว้บนฝั่งคือ 17 เพื่อไปเสี่ยงโชคในวันหวยออกนี้

 

 

นายเสาร์แก้ว หลวงจันทร์ดวง อายุ 73 ปี ผู้นำชุมชนศรีบุญเรือง เทศบาลนครลำปาง เปิดเผยว่า ไม้ตะเคียนดังกล่าวตนเองเห็นมาตั้งแต่เป็นเด็ก ต้องมีมาก่อนในสมัยช่วงพ่อแม่ อายุมากกว่า 100 ปีเพราะปัจจุบันไม้ตะเคียนนี้ก็ยังอยู่ที่เดิม ไม่ไหลไปไหน ลอยน้ำอยู่บริเวณปากสบตรงบริเวณแม่น้ำตุ๋ยไหลมาบรรจบกับแม่น้ำวัง ชาวบ้านจึงเรียกว่า "ปากสบ" และ "สบตุ๋ย"

 

คือบริเวณที่น้ำแม่ตุ๋ยไหลมาบรรจบกับแม่น้ำวัง ตรงหลังชุมชนศรีบุญเรือง ซึ่งเป็นชื่อของ ต.สบตุ่ย ในเขตเทศบาลนครลำปาง ในปัจจุบัน ต้นไม้ตะเคียนน่าจะลอยมาตามน้ำในช่วงที่ชาวฝรั่งมีการสัมปทานทำป่าไม้ในพื้นที่ จ.ลำปาง กว่า 100 ปีมาแล้ว

 

เดิมไม้ตะเคียนดังกล่าวจะมีสองต้น โดยต้นแรกจะเล็กกว่าและมีขนาดเบาจึงลอยตามน้ำและไปติดอยู่ที่ริมแม่น้ำวังหลังวัดนาก่วมเหนือ ชาวบ้านจึงนำไปแปรรูทำเป็นป้ายชื่อวัดจนถึงทุกวันนี้ ส่วนต้นที่เหลือ เมื่อน้ำหลากก็จะลอยน้ำวนไปมาอยู่ตรงปากสบไม่ไหลไปไหน ถ้าน้ำไหลหลากมากก็จะลอยไปถึงแค่ตีนสะพานสบตุ๋ยแล้วก็จะลอยวนขึ้นมาตรงปากสบเป็นอย่างนี้ตลอดมา

 

เมื่อน้ำแห้งก็จะจมอยู่ซึ่งชาวบ้านก็เห็นเป็นประจำ แต่ไม่ได้ทำอะไร เพราะเป็นต้นไม้ใหญ่ ถ้าเอาขึ้นจากน้ำก็ลำบาก และไม่มีที่เก็บไว้ จึงปล่อยไว้อย่างนั้น เนื่องจากที่ผ่านมาบริเวณปากสบแม่น้ำมีคนจมน้ำเสียชีวิตมาแล้วกว่า 10 ราย จึงไม่มีใครกล้าแตะต้องอะไร เพราะกลัวอาถรรพ์

 

 

“แต่ปัจจุบันรถขุดไม้ขึ้นมาไว้บนฝั่ง เนื่องจากเห็นว่าเดิมพื้นที่ดังกล่าวเมื่อน้ำวังลดระดับลงจะมีกอหญ้าขึ้นตามเนินทรายมีดินถมถนนคอนกรีตตามริมแม่น้ำวัง ทำให้ชาวบ้านที่เดินทางมาออกกำลังไม่สะดวกเพราะเป็นหญ้ารก จึงให้ทางเทศบาลนำรถแบ็คโฮมาเกรดปรับปรุงพื้นที่เอาหญ้าออก และได้ลากเอาต้นไม้ตะเคียนดังกล่าวขึ้นมาไว้บนฝั่งด้วยเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา

 

ซึ่งทางชุมชนก็ยังไม่ได้ทำอะไร ต้องมีการประชุมกันก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าจะนำไปเก็บไว้ที่วัดศรีบุญเรือง ก็ไม่มีพื้นที่ หรือจะปล่อยไว้ที่เดิมหรือหาที่เก็บต้องประชุมกับพระและชาวบ้านในชุมชนอีกที” นายเสาร์แก้ว กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง