"ฮอนด้า" หยุดผลิตรถในเม็กซิโกชิปขาด เหตุตึงเครียดการค้าเนเธอร์แลนด์-จีน

japantoday รายงานว่า บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประกาศหยุดการผลิตรถยนต์ชั่วคราวที่โรงงานในเมืองเซลายา ประเทศเม็กซิโก หลังประสบปัญหาการขาดแคลน ชิปเซมิคอนดักเตอร์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่าง เนเธอร์แลนด์และจีน ที่ลุกลามมาถึงห่วงโซ่อุปทานของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายใหญ่

รายงานระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าความตึงเครียดดังกล่าวได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น โดยเฉพาะฮอนด้า ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มปรับลดกำลังการผลิตในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาด้วยเช่นกัน

แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมชี้ว่า ตลาดอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของฮอนด้า อาจได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญหากสถานการณ์นี้ยืดเยื้อ เพราะยอดการผลิตและส่งมอบอาจลดลงจากปัญหาชิ้นส่วนขาดแคลนต่อเนื่อง

สำหรับ โรงงานเซลายา ออโตแพลนต์ ในประเทศเม็กซิโก ถือเป็นหนึ่งในฐานการผลิตสำคัญของฮอนด้าในภูมิภาค โดยมีกำลังผลิตสูงสุดปีละราว 200,000 คัน ผลิตรถรุ่นยอดนิยมอย่าง Honda HR-V ซึ่งจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก การหยุดการผลิตในครั้งนี้อาจส่งผลต่อการจัดส่งในตลาดอเมริกาเหนือโดยตรง

แม้ทางบริษัทฮอนด้ายังไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาการหยุดผลิต หรือปริมาณการลดกำลังผลิตที่แน่ชัด แต่ยอมรับว่ากำลังประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนการผลิตให้สอดคล้องกับซัพพลายชิปที่ยังไม่แน่นอน

ความขัดแย้งต้นตอมาจากการที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ตัดสินใจในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ให้บริษัท Nexperia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปสัญชาติดัตช์ และเป็นบริษัทย่อยของ Wingtech Technology จากประเทศจีน อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ โดยให้เหตุผลว่าพบปัญหาในด้านธรรมาภิบาลภายในองค์กร

ทางการจีนตอบโต้ด้วยการ สั่งระงับการส่งออกชิปของ Nexperia ออกจากประเทศ ส่งผลให้ซัพพลายชิปที่กระจายไปยังผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายทั่วโลก รวมถึงฮอนด้า ถูกชะงักลงในทันที

ด้าน สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น (JAMA) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการผลิตยานยนต์ทั่วโลก พร้อมเรียกร้องให้ประเทศคู่ขัดแยกหาทางออกร่วมกันโดยเร็ว เพื่อป้องกันการกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง

ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมวิเคราะห์ว่า ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นถึง ความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทานชิปทั่วโลก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตรถยนต์ยุคใหม่ที่พึ่งพาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนและยุโรปยังคงยืดเยื้อ อาจทำให้ผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลกต้องเร่งหาทางเลือกใหม่ เช่น การกระจายฐานผลิตชิป หรือการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศเพื่อความมั่นคงทางอุตสาหกรรมในระยะยาว