09.00 INDEX ประกาศ หรือยกเลิก ก็ไม่สำคัญ ต่อประกาศ สถานการณ์ ฉุกเฉิน
การแถลงที่จะพิจารณา”ยกเลิก”ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานครจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
อาจเป็นเรื่องที่ล่าช้าจนเกินการณ์ และแทบไม่มีความหมายอะ ไรเลยในทางเป็นจริง
เพราะหากสดับตรับฟังเสียงในทางสังคม ไม่ว่าจะมาจากพรรค เพื่อไทย ไม่ว่าจะมาจากพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะมาจากคณบดีคณะนิติศาสตร์ ไม่ว่าจะมาจากตัวแทนนิสิตนักศึกษา
การดำรงอยู่ของประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรงในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็น หากที่สำคัญอย่างยิ่งก็มีแนวโน้มว่าอาจเป็นประกาศที่ไม่ชอบ
นั่นก็คือ ไม่ชอบเพราะว่ามิได้มีสถานการณ์ร้ายแรงจนถึงกับต้องใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรงมาเป็นเครื่องมือในการจัดการกับปัญหา
ยิ่งกว่านั้นก็คือ เมื่อมีการประกาศและบังคับใช้แล้วกลับไม่สามารถปฏิบัติก่อให้เกิดการท้าทายต่อความศักดิ์สิทธิ์ตามมาอีกด้วย
รูปธรรมง่ายๆก็คือ หลังจากมีการประกาศและบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรงในตอนรุ่งสางของวันที่ 15 ตุลาคมแล้วการชุมนุมได้หมดสิ้นปลาตนาการไปภายในพริบตาพลันหรือไม่
ผลก็คือในวันที่ 15 ตุลาคมนั้นเองการชุมนุมก็ยังมีหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ยิ่งกว่านั้น เมื่อมีการชุมนุมในวันที่ 16 ตุลาคม ณ ย่านสยามสแควร์ บริเวณแยกปทุมวัน และมีการส่งหน่วยคอมมานโดปราบจลาจลเข้าดำเนินการสลายการชุมนุม
ที่ตามมาก็คือ ปฎิกริยาโต้กลับอย่างรุนแรง สะท้อนให้เห็นไม่เพียงแต่กระบวนการในการสลายการชุมนุมไม่ยึดหลักในทางสากล อย่างเคร่งครัดเท่านั้น
หากที่สำคัญยังกระทำรุนแรงและเกินกว่าเหตุที่เป็นจริง
ในที่สุด การชุมนุมอันเท่ากับท้าทายต่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็ขยายจนถึงขั้นมีการเคลื่อนขบวนไปยังหน้าทำเนียบรัฐบาล
ในความเป็นจริง ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะพิจารณาหรือตระ เตรียมการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรงในพื้นที่กรุง เทพมหานครหรือไม่
บทบาทและความหมายของ”ประกาศ”ก็ไม่มีอยู่แล้ว
เด่นชัดอย่างยิ่งว่า ประชาชนไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับ ไม่ยอมปฏิบัติ หากแต่ยังเดินหน้าเข้าท้าทายอย่างไม่กลัวเกรง
เท่ากับแสดงว่าจะยังคงประกาศหรือจะยกเลิกก็ไม่สำคัญ