"ทรัมป์" เล็งสั่งลดทหารในอัฟกานิสถาน-อิรัก เหลือ 2,500 นาย

วันนี้( 18 พ.ย.63) คริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่าภายในวันที่ 15 มกราคม 2564 จะปรับลดจำนวนทหารสหรัฐฯในอัฟกานิสถานและอิรักลงเหลือเพียงประเทศละ2,500 นาย โดยแผนการปรับกำลังทหารเป็นคำสั่งโดยตรงจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งปัจจุบันในอัฟกานิสถานมีทหารสหรัฐฯประมาณ 4,500 นาย และในอิรักมีทหารสหรัฐฯ3,000 นาย เพื่อสนับสนุนกองทัพอิรักในการต่อสู้กับสมาชิกกลุ่มไอเอสที่ยังหลงเหลืออยู่ 

นอกจากนี้ สหรัฐฯอาจถอนกำลังทหารเกือบทั้งหมด ออกจากโซมาเลีย ซึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของการถอนกำลังทหารสหรัฐฯที่ประจำการกระจายอยู่ทั่วโลกด้วย ทั้งนี้สหรัฐมีทหารประมาณ 700 นายประจำการอยู่ในโซมาเลีย มุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือกองกำลังท้องถิ่น เพื่อต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธอัล ชาบับ ที่มีสายสัมพันธ์กับกลุ่มหัวรุนแรงอัลกออิดะห์ 

การปรับลดกำลังทหารครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากทรัมป์ปลด นายมาร์ก เอสเปอร์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่ง เอสเปอร์พยายามเลื่อนแผนถอนกำลังทหารมาโดยตลอด

ขณะที่เมื่อวานนี้ ทรัมป์ เปิดเผยว่าเขาไล่ออก นายคริส เกรบส์ ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงทางไซเบอร์ เนื่องจากแสดงความเห็นที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งทรัมป์กล่าวหาว่ามีการทุจริต แต่นายเกรบส์ ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และกรรมการเลือกตั้งสหรัฐฯ ยืนยันว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปอย่างโปร่งใสและสร้างความไม่พอใจให้กับทำเนียบขาวเป็นอย่างมาก เมื่อเขาเผยแพร่บทความเรื่อง “การควบคุมข่าวลือ” ผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงาน ที่มีเนื้อหาหักล้างข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเท็จที่มาจากทรัมป์ด้วย

ทั้งนี้ คาดว่า ก่อนที่ทรัมป์จะพ้นตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า เขาอาจจะปลดนางจีนา แฮสเปล ผู้อำนวยการซีไอเอ และนายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ ที่มีความขัดแย้งในการทำงานกับทรัมป์ด้วย

เกาะติดข่าวที่นี่