สหรัฐฯ เตือนพลเมืองในต่างแดน ระวังอัลกออิดะห์ล้างแค้น หลังปลิดชีพผู้นำ

ภายหลังจากที่ สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA มีปฏิบัติต่อต้านการก่อการร้ายในกรุงคาบูล ของอัฟกานิสถาน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ออกมายืนยันแล้วว่า อัยมาน อัล- ซาวาฮีรี ผู้นำสูงสุดของเครือข่ายอัลกออิดะห์ ได้ถูกสังหารไปด้วยในปฏิบัติการนี้ 

โดยซาวาฮีรีกำลังอยู่ที่ระเบียงของบ้านพัก หรือ เซฟเฮาส์ ขณะที่อากาศยานไร้คนขับของสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธสองลูกพุ่งไปที่เขา ในช่วงเวลานั้น ครอบครัวของเขาอยู่ในบ้านด้วย แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงซาวาฮีรีเท่านั้นที่เสียชีวิต 

ล่าสุด วันนี้ (3 ส.ค.65) สื่อต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศเตือนเมื่อวันอังคารระบุว่า มีแนวโน้มสูงขึ้นที่อาจเกิดเหตุรุนแรงต่อต้านชาวอเมริกัน และจากข้อมูลปัจจุบันบ่งชี้ว่า กลุ่มก่อการร้ายกำลังวางแผนโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในหลายภูมิภาคทั่วโลก 

คำเตือนระบุด้วยว่า การโจมตีอาจมีทั้งปฏิบัติการแบบพลีชีพ การลอบสังหาร การลักพาตัว การปล้น และการระเบิด และขอให้พลเมืองสหรัฐฯ เพิ่มความระมัดระวังระดับสูงเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ

รวมทั้งแนะให้พลเมืองสหรัฐฯ ที่อยู่ในต่างประเทศติดตามข่าวสารและติดต่อกับสถานทูตหรือสถานกงสุลที่ใกล้ที่สุด

คำเตือนมีขึ้นหลังการเสียชีวิตของไอย์มาน อัล-ซาวาฮิรี ผู้นำอัลกออิดะห์ ที่หลบซ่อนตัวในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถาน โดยกองทัพสหรัฐฯ ใช้ปฏิบัติการโจมตีด้วยโดรนที่ยิงขีปนาวุธติดใบมีดใส่ซาวาฮิรีที่อยู่บนระเบียงบ้านได้อย่างแม่นยำ

ซาวาฮิรี ซึ่งเป็นแพทย์ชาวอียิปต์ มีส่วนช่วยวางแผนก่อเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001ในแผ่นดินสหรัฐฯ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 ราย และเข้ารับตำแหน่งผู้นำอัลกออิดะห์ หลังการเสียชีวิตของ โอซามา บิน ลาเดน ผู้ก่อตั้งกลุ่มอัลไกดาในปี 2011 

นอกจากนี้ เขายังบงการก่อเหตุรุนแรงต่อสหรัฐฯ อีกหลายครั้ง รวมถึง เหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีเรือพิฆาต ยูเอสเอส โคล ในเมืองเอเดนของเยเมนในเดือน ต.ค. 2019 ที่ทำให้ลูกเรือสหรัฐฯ เสียชีวิต 17 นาย และเหตุระเบิดโจมตีสถานทูตสหรัฐฯ ในเคนยาและแทนซาเนีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 223 รายในปี 1998

ภาพจาก Reuters