MAJOR ฟิลลิปฯ หั่นกำไรปี 67 ลง แต่ยังคงแนะนำซื้อ

#ทันหุ้น-บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) แนะนำหุ้นบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR โดยได้ปรับคาดการณ์รายได้ปี 2567 ลงเป็นทรงตัวจากปีก่อนที่ 8,591 ล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะโต 12% และปรับกำไรลงเป็น 8% เป็น 789 ล้านบาท ลดลง 24.2% จากปีก่อน เพราะปีก่อนมีกำไรพิเศษขายหุ้น MPIC โดย MAJOR ยังมี defer tax จากการขาย MPIC มาใช้ลดหย่อนภาษีอีก 80 ล้านบาท หลังไตรมาส 1/67 ใช้ไปแล้ว 65 ล้านบาท
อีกทั้ง MAJOR เป็นรายใหญ่ในธุรกิจโรงภาพยนตร์ที่มีส่วนแบ่งตลาดราว 70% เมื่อหนังรายได้ดีผลประกอบการก็จะดีตาม และปีนี้มีแผนเพิ่มโรงอีก 40-50 แห่ง ซึ่งต่อยอดไปในธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้ รวมถึงจะมีป๊อปคอร์นรสใหม่เพิ่มอีก 2 รสชาติ เพื่อขายใน 7-11 และโมเดิร์นเทรด โดยยังคงแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐานที่ 19 บาท
โดย 2 เดือนแรกของไตรมาส 2/67 รายได้ทรงตัว โดยหนังไทยยังโดดเด่นกว่าหนังฮอลลีวูด แต่มิ.ย.ยังคงต้องติดตาม เพราะปีก่อนมีหนังฮอลลีวูดรายได้สูง ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลัง ยังมีหนังใหญ่ทั้งฮอลลีวูดที่น่าสนใจ และหนังไทยจะเข้าฉายราว 34 เรื่อง ซึ่งมีหนังร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์อย่างน้อย 6 เดือน โดยหนังฮอลลีวูด ที่จะฉายในครึ่งปีหลังที่น่าสนใจ เช่น Deadpool & Wolverine, Wolfs, Transformers One, Joker: Folie à Deux, Kraven the Hunter, Alien: Romulu, The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim, Mufasa: The Lion King
ส่วนแนวโน้มในปี 2568 มองว่าหนังฮอลลีวูดจะกลับมาแข็งแรงขึ้น ทั้งจากหนังที่เลื่อนจากปี 2567 และหนังที่มีกำหนดฉายในปี 2568 เอง เช่น Avatar 3, Fast and Furious 11, Mission: Impossible - Dead Reckoning 2, Captain America: Brave New World, Thunderbolts, Fantastic Four, Superman: Legacy, The Batman 2, Blade, Star Wars: Dawn of the Jedi, How to Train Your Dragon, Snow White เป็นต้น ซึ่งจากชื่อหนังน่าจะคาดหวังรายได้ที่ดีขึ้น ส่วนหนังไทยมีปีละ 40-45เรื่อง โดยจะมีหนังร่วมทุนระหว่างพาร์ทเนอร์กับ MAJOR อยู่
ราคาหุ้น MAJOR เคลื่อนไหวอยู่ที่ 12.30 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 2.38% มีมูลค่าการซื้อขาย 10.21 ล้านบาท