อย่าลบหลู่! อาถรรพ์วัตถุโบราณ เอากลับบ้านมีอันเป็นไป แจ้นคืนแทบไม่ทัน!
ชาวบ้านเล่าเรื่องอาถรรพ์วัตถุโบราณที่พบกลางทุ่งนามีทั้งหัวกะโหลก กระดูกสัตว์ ขวานหิน เอากลับบ้านมีอันเป็นไป ต้องแจ้นคืนแทบไม่ทัน!
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่บ้านของ นายสมเกียรติ บริบูรณ์ อายุ 54 ปี หรือลุงแจ้ง ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง นายสมเกียรติ เล่าเรื่องราวความลี้ลับอาถรรพ์ของวัตถุโบราณที่ค้นพบในที่นาของตนเอง แล้วเก็บนำมาไว้ที่บ้าน มีหัวกะโหลกมนุษย์ โครงกระดูกมนุษย์โบราณที่กลายเป็นฟอสซิล กระดูกสัตว์ รวมทั้งมีด ขวานหิน เครื่องปั้นดินเผาจำนวนมาก ซึ่งมีเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง รวมถึงนักท่องเที่ยว เดินทางมาขอชมกันทุกวัน
นายสมเกียรติ กล่าวว่า มีหลายคนขอวัตถุโบราณที่เจอนำไปเก็บไว้ที่บ้าน สุดท้ายต้องรีบนำกลับมาคืนที่บ้านลุงแจ้งกันอย่างต่อเนื่อง โดยบอกว่าเมื่อนำไปเก็บไว้ที่บ้านแล้วเกิดเรื่องราวไม่ค่อยดีในครอบครัว และบางคนต้องมีอันเป็นไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ทางญาติจึงนำวัตถุโบราณมาคืน เป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ หลายคนบอกว่าไม่สบายใจเมื่อนำวัตถุโบราณไปเก็บไว้ที่บ้านสุดท้ายก็นำมาคืนลุงแจ้งกันอย่างต่อเนื่อง
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า วัตถุโบราณที่ขุดพบนั้นมีหัวกะโหลกมนุษย์ โครงกระดูกมนุษย์โบราณ ที่กลายเป็นฟอสซิล กระดูกสัตว์ รวมทั้งมีด ขวานหิน เครื่องปั้นดินเผา หม้อ 3 ขา ซึ่งมีลักษณะเดียวกันกับที่ขุดพบที่หนองราชวัตร จังหวัดสุพรรณบุรี รวมถึงแหล่งโบราณคดีบ้านกี่จังหวัดกาญจนบุรี
ซึ่งที่นี่ก็มีอีกรูปแบบหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกัน รายละเอียดอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย คาดว่ามีอายุราว 3,000 ปี อยู่ในยุคหินใหม่ เป็นแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และที่กลางทุ่งนายังขุดพบโครงกระดูกมนุษย์เพิ่มขึ้นมาอีก เป็นลักษณะคล้ายหลุมฝังศพมนุษย์เป็นโครงกระดูกที่กลายเป็นฟอสซิล มีสภาพสมบูรณ์มาก ลักษณะเป็นรูปคนอยู่ภายในหลุมขนาดกว้าง 1.20 เมตร ยาว 2 เมตร ลึกลงไป 50 เซนติเมตร มีหัวกะโหลกมนุษย์ พร้อมฟัน 6 ซี่ พร้อมด้วยซี่โครง แขน ขา ที่กลายเป็นฟอสซิล
ล่าสุดทางกรมศิลปากร ปิดกั้นพื้นที่ไว้ เพื่อเสนองบประมาณเตรียมการสำรวจขุดเจาะศึกษาถึงประวัติศาสตร์โบราณวัตถุ และทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอนาคตต่อไป
