“ทรัมป์”สั่งล่าหาความจริง โควิด-19 หลุดจากแล็บจีนในเมืองอู่ฮั่นหรือไม่
วันนี้ ( 16 เม.ย. 63 )พลเอกมาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า หน่วยข่าวกองสหรัฐ แถลงว่า ไวรัสดูเหมือนจะเกิดเองตามธรรมชาติ ซึ่งขัดแย้งกับความเชื่อที่ว่าไวรัสอาจถูกสร้างขึ้นในห้องทดลองแห่งหนึ่งในจีน แต่ก็ยังไม่มีอะไรชัดเจน
สำนักข่าวฟ็อกซ์ นิวส์ รายงานเมื่อวันพุธว่า ไวรัสโควิด-19 มีต้นตออยู่ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์แห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ไม่ใช่อาวุธชีวภาพ แต่มันก็แสดงให้เห็นว่า จีนมีความสามารถเท่าเทียมหรือมากกว่าความสามารถของสหรัฐในการควบคุมเชื้อไวรัส รายงานชิ้นนี้และรายงานจากแหล่งอื่น ๆ อีกหลายชิ้น ระบุว่า ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ในเมืองอู่ฮั่น ที่ทำการทดลองและวิจัยไวรัส และไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย อาจทำให้เจ้าหน้าที่บางคนคิดเชื้อ และนำไปแพร่กระจายในตลาดสดในพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนที่จะเริ่มต้นการระบาดใหญ่
ทรัมป์ ซึ่งแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ถูกถามเกี่ยวกับรายงานเรื่องไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หลุดออกจากห้องแล็บในเมืองอู่ฮั่น และกล่าวว่า เขารับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และกำลังทำการตรวจสอบสถานการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้นนี้อย่างจริงจัง
เมื่อถูกถามอีกว่า เขาได้หยิบยกเรื่องนี้ ขึ้นมาพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนหรือไม่ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาไม่ต้องการหารืออะไรที่เกี่ยวกับห้องแล็บกับผู้นำจีน ซึ่งมันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ ทรัมป์เองพยายามที่จะกระชับความสัมพันธ์กับจีนให้แนบแน่นขึ้นระหว่างการระบาดของไวรัสมรณะ เพราะสหรัฐต้องพึ่งพาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลจากจีน ที่จำเป็นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ของสหรัฐในการต่อสู้กับไวรัส
อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ของรัฐบาลจีน ก็ปฏิเสธกระแสข่าวลือที่ว่า ไวรัสอาจถูกสังเคราะห์เทียมขึ้นที่ห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์แห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น หรือเป็นไปได้ที่อาจหลุดรอดออกมาจากสถาบันไวรัสวิทยาที่ใดสักแห่ง
ขณะที่ นายปอมเปโอ ให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์หลังทรัมป์แถลงข่าวว่า สหรัฐรู้ว่า ไวรัสชนิดนี้มีต้นตอยู่ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และว่า สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ก็อยู่ห่างจากตลาดสดเมืองอู่ฮั่นไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น จริง ๆ แล้ว สหรัฐต้องการให้รัฐบาลจีนเปิดใจกว้าง และช่วยอธิบายข้อเท็จจริงว่า ไวรัสแพร่ระบาดได้อย่างไร ซึ่งรัฐบาลจีนต้องชี้แจ้งให้ชัดเจน และต้องจริงใจกว่านี้
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand