ในโลกของการขายตรง การที่ลูกทีมทำการขายล้มเหลวหรือกลัวการขาย นับเป็นปัญหาโลกแตกที่แม่ทีมจะต้องแสดงความเป็นผู้นำและพยายามทำในสิ่งที่มากกว่าการสอน นั่นคือการเป็นโค้ช..ที่จะดูแลช่วยเหลือลูกทีม โดยรู้ว่าตอนไหนควรแข็งกร้าว ตอนไหนควรอ่อนโยน Blair Singer ที่ปรึกษาพ่อรวยจะมาขยายความในเรื่องนี้ โดยที่ความสำเร็จไม่เกี่ยวกับเพศหรือชาติพันธุ์ ทลายกรอบเพดานของรายได้ไร้ขีดจำกัดด้วยการสร้างทีมงานขายตรง..เรียบเรียงโดย อนุพงศ์ ธรณินทร์ ความรู้ความประทับใจในมุมมองของครีเอเตอร์ ได้เรียนรู้ว่าโค้ชของเราบอกว่า ถึงแม้ว่าทักษะและความสามารถต่างๆเป็นสิ่งที่สำคัญที่เขาจะค้นหาเมื่อเขาจะรับคนใหม่เข้าสู่ทีม แต่เขามักจะมุ่งความสนใจไปที่ลักษณะสำคัญ 2 ประการ ประการแรกคือ คุณค่าในตัวเอง ผู้เล่นคนนั้นเป็นคนที่ครอบครัวของเขาเองต้องการหรือไม่? พ่อแม่และคนในครอบครัวของเขาต้องการและรักเขาจริงหรือเปล่า? โค้ชของเรารู้ดีว่าเรื่องคุณค่าในตัวเอง คือสิ่งที่ผู้เล่นคนนั้นให้ความสำคัญ และความสามารถของเขา จะต้องถูกทดสอบเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่มีความกดดันสูง ชายหนุ่มที่จะมาเป็นผู้เล่นของเราคนนี้จะเกิดความสงสัยในตัวเอง หรือว่าความมั่นใจในตัวเองที่ถูกสร้างมาเป็นเวลานาน เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นที่รักและเป็นที่ต้องการจะเข้ามามีบทบาทกับเขา ในสถานการณ์ที่มีแรงกดดันสูงเหล่านี้ จะเป็นเวลาที่ลักษณะสำคัญประการแรกจะต้องสัมพันธ์กับลักษณะสำคัญประการที่สอง นั่นคือ ความมีวินัย โค้ชจะพิจารณาว่า ในครอบครัวของชายหนุ่มคนนั้นมีระเบียบวินัยและแนวทางหรือไม่? ในครอบครัวของคนคนนั้นมีกฎ รางวัล และการรับผลที่ตามมาหรือไม่? ได้เรียนรู้ว่ากฎแห่งเกียรติยศของเราจะเป็นสิ่งที่ประกาศว่าคุณเป็นใคร คุณยึดมั่น คุณจะให้ตัวเองรับผิดชอบต่อข้อกำหนดความสัมพันธ์ที่ดีก็ต้องมีกฎในสิ่งใด มาตรฐานของคุณเป็นเช่นไรอะไรบ้าง ทีมที่ดีเยี่ยมต่างมีกฎประจำทีม องค์กรที่ยิ่งใหญ่ก็มีกฎขององค์กร กฎเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่กำหนดความเป็นตัวคุณ ได้เรียนรู้ว่าตัวอย่างของกฎข้อต่างๆ ในกฎแห่งเกียรติยศ เช่น - ตรงต่อเวลา -ไม่พูดถึงคนอื่นลับหลัง ให้พูดเรื่องต่างๆ กันตรงๆ ต่อหน้า - มีความรับผิดชอบ ไม่กล่าวโทษคนอื่น ไม่โยนความผิดให้คนอื่น -ไม่หาเหตุผลข้ออ้างมาเพื่อให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูก - ฉลองชัยชนะทุกครั้ง - ไม่ทอดทิ้งเพื่อนร่วมทีมที่ต้องการความช่วยเหลือ และทำตามข้อสัญญาทั้งหมด และแก้ไขการผิดสัญญาต่างๆ ให้เร็วที่สุด -ยึดมั่นในการศึกษาเรียนรู้ การพัฒนาตนเอง และทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นคนที่ดีที่สุด โดยที่ยังถูกต้องตามกฎหมาย จริยธรรม และคุณธรรม - ให้ความภักดีต่อกันและกัน ได้เรียนรู้ว่าคุณไม่สามารถเรียนรู้การเล่นฟุตบอลได้แค่จากการนั่งดูวิดีโอบันทึกการ คุณไม่สามารถเรียนรู้วิธีการเลี้ยงลูกได้แค่จากการทำตามที่พ่อแม่ของคุณทำ คุณไม่สามารถเรียนรู้การสร้างธุรกิจได้เพียงแค่จากการอ่านหนังสือ และแน่นอนว่าคุณไม่สามารถเรียนรู้การเป็นผู้ร่วมทีมที่ดี หรือเรียนรู้วิธีการขายเพียงแค่มีคนบอกคุณว่าจะต้องทำอย่างไร คุณจะต้อง ถูกสอน ว่าวิธีการทำคืออะไร ได้เรียนรู้ว่าคนที่ทำงานอยู่ในด้าน S นั้นมักจะบ่นว่าเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ไม่ได้มีความต้องการที่รุนแรงพอ” แม้ว่าบางครั้งเรื่องนี้ก็จริงอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่ทุกครั้งไปหมด คนที่ทำงานในด้าน S นั้นมักจะบอกว่า “ง่ายนิดเดียว แค่ทำอย่างที่คุณเห็นฉันทำนั่นแหละ” หรือ “ฉันจะบอกเธอว่าต้องทำอะไร และเธอก็แค่ทำอย่างนั้นก็พอ” คำพูดเหล่านี้เป็นสัญญาณให้เห็นได้ชัดว่าคนคนนั้นกำลังทำธุรกิจขายตรงของเขาจากด้าน S หรือเป็นคนที่ทำธุรกิจของตัวเอง ไม่ใช่จากด้าน B หรือด้านของเจ้าของธุรกิจ ซึ่งธุรกิจของคนกลุ่มหลังนี้จะถูกจัดตั้งขึ้นเป็นระบบที่สามารถสร้างรายได้ให้กับพวกเขาได้ โดยที่พวกเขาไม่จำเป็นจะต้องมีส่วนร่วมเลยก็ได้ เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นและสามารถดำเนินไปได้แล้ว” ได้เรียนรู้ว่าโค้ชวู้ดดี้และจอห์น วู้ดเด็น ซึ่งเป็นโค้ชบาสเกตบอลของ UCLA ที่เป็นตำนานอีกคนหนึ่ง เชื่อในสิ่งเดียวกัน พวกเขาเชื่อว่าแม้ว่าคุณจะเป็นโค้ชที่ดีก็ตามแต่หากคุณไม่มีผู้เล่นที่มีความสามารถอยู่ในทีม คุณก็จะไม่สามารถเอาชนะและคว้าแชมป์มาได้ แต่สำหรับการเป็นผู้นำในธุรกิจแล้วมันต่างกัน คุณต้องเข้าใจว่าคนทุกๆคนนั้นมีจุดแข็งที่พระเจ้าสร้างให้มาสักอย่างหนึ่ง นั่นคือเหตุผลที่ทุกๆ คนนั้นมีความสามารถที่จะประสบความสำเร็จได้เขาออกมา และสร้างเขาขึ้นมาจากจุดนั้นหน้าที่ของคุณก็คือการค้นหาจุดแข็งของเขา ได้เรียนรู้ว่าสมาชิกในทีมแต่ละคนจะต้องบันทึกสถิติของตัวเองจากการบันทึกทุกสัปดาห์ เพราะสถิติเป็นวิธีการเดียวที่คุณจะสามารถวัดความก้าวหน้า และค้นพบเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนต่างๆ หากไม่มีสถิติ นั่นก็เท่ากับว่าไม่มีผลงาน ได้เรียนรู้ว่าไม่เพียงแต่วัดจำนวนสินค้าที่ขายได้ หรือจำนวนคนที่เข้ามาร่วมเริ่มต้นธุรกิจเท่านั้น ที่จริงแล้ว หากจะตรวจวัดกันด้วยตัวเลขเหล่านั้นล่ะก็จะเป็นการตรวจวัดหลังจากที่เกิดสิ่งต่างๆ ขึ้นแล้ว และจะช้าไปที่จะทำการแก้ไขอะไร สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการตรวจวัดกิจกรรมการขาย เช่น คุณได้แสดงแผนการตลาดกี่ครั้ง? คุณได้ฝึกซ้อมการนำเสนอสินค้ากี่ครั้ง? คุณได้ฝึกซ้อมการจัดการข้อโต้แย้งกี่ครั้ง? คุณได้รับรายชื่อที่มีคนแนะนำให้คุณกี่ราย? คุณได้ทำการเล่าประสบการณ์ โทรศัพท์ เขียนจดหมาย อีเมล ติดต่อลูกค้า หรือนำเสนอสินค้ากี่ครั้ง? สถิติเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้มองเห็นพฤติกรรมของคุณและความก้าวหน้าและมันจะช่วยให้ได้รับการฝึกสอนอย่างเหมาะสมด้วย การขายตรงสำหรับคนไทยหลายคนอาจมองว่าน่าเหนื่อยหน่าย เพราะมีการฉ้อโกงในการดึงคนเข้าทีมรับค่าคอมมิชชันมากกว่าจะโฟกัสไปที่การขายจริงๆ แต่ถ้าหากทีมรู้จักสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสมาชิกในทีม ก้าวข้ามความยากลำบากไปด้วยกัน มีการช่วยเหลือกัน พร้อมดึงจุดแข็งของแต่ละคนออกมาใช้ โดยไม่สนว่าจุดอ่อนของเขาจะเป็นอย่างไร (เพราะมันแก้ไม่ได้) ความสำเร็จก็จะมา อุปสรรคปัญหาในโลกของการทำธุรกิจถือเป็นเรื่องปกติ แต่การจะนำพาทีมให้พ้นจากจุดเริ่มต้นนั้นนับว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง หากได้ศึกษาแล้วจะเข้าใจว่าทีมที่เรากำลังทำงานอยู่อาจจะมองข้ามเรื่องพวกนี้ไปก็ได้ (ไม่จำเป็นว่าทีมของการทำงานด้านการขายหรือไม่) เสียดายว่าเล่มนี้แปลแล้วอ่านยากไปนิดนึง รูปประโยคยังฝืนอยู่สมควร เครดิตภาพ ภาพปก โดย KamranAydinov จาก freepik.com ภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียน ภาพที่ 3 โดย jcomp จาก freepik.com ภาพที่ 4 โดย jcomp จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจ รีวิวหนังสือ เขียนแผนธุรกิจให้รวย (Writing Winning Business Plans) รีวิวหนังสือ พันธุ์นักขาย (Sale Dogs) รีวิวหนังสือ สร้างทีมให้ชนะ (Team Code of Honor) รีวิวหนังสือ Success Stories เรื่องเล่าความสำเร็จ บทพิสูจน์แนวคิดของพ่อรวย รีวิวหนังสือ ได้เวลาตื่นแล้ว คุณผู้หญิง (IT'S RISING TIME) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !