เลบานอนลุกฮือ หลังสารเคมีบึ้มกลางกรุง ประกาศไล่นักการเมือง ดับแล้ว 1 เจ็บนับร้อย
ชาวเลบานอนที่โกรธแค้นออกมาประท้วงไล่นักการเมือง หลังเกิดเหตุการณ์สารเคมีอันตรายระเบิดที่โกดังในท่าเรือกรุงเบรุตโดยกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมาก บุกอาคารกระทรวงต่างๆหลายแห่งในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 117 ราย และมีรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตแล้ว 1 นาย
เหตุระเบิดที่ท่าเรือใจกลางกรุงเบรุตเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งคลื่นกระแทกสร้างความเสียหายไปถึงครึ่งเมือง มีผู้เสียชีวิต 158 ราย และยังมีอีก 21 รายที่ยังคงหายสาบสูญ มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 6,000 คน เกิดขึ้นซ้ำเติมสภาพเศรษฐกิจของประเทศเลเบานอน ที่กำลังย่ำแย่ผลจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนนับหมื่นตัวกันประท้วง ในหลายพื้นที่ โดยมีผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งบุกเข้ากระทรวงต่างประเทศ กระทรวงพลังงานและกระทรวงเศรษฐกิจในกรุงเบรุต
กลุ่มผู้ประท้วงมีเป้าหมายในการขับไล่บรรดานักการเมืองที่ปกครองเลบานอนมานานหลายสิบปี และกลุ่มนักการเมืองท่ประชาชนมองว่าเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับเหตุระเบิดครั้งล่าสุด
สื่อท้องถิ่นเผยแพร่ภาพกลุ่มผู้ประท้วงที่ใช้ก้อนหินขว้างใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนซึ่งใช้กระสุนยาง แก๊สน้ำตา และมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ
ด้านสถานเอกอัครราชทูต สหรัฐประจำกรุงเบรุต ออกแถลงการณ์ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐสนับสนุนสิทธิของผู้ชุมนุมในการประท้วงโดยสันติ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการใช้กำลัง นอกจากนี้สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ยังทวีตข้อความด้วยว่า ประชาชนชาวเลบานอน สมควรได้รรับผู้นำที่ฟังประชาชนและเปลี่ยนทิศทางตอบสนองกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่เพื่อความโปร่งใสและการนำตัวผู้รับผิดชอบมาลงโทษ
ทั้งนี้การประท้วงดังกล่าวนับเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศเลบานอน นับตั้งแต่เดือนตุลาคม ช่วงเวลาที่ประชาชนหลายพันคนลงมาประท้วงบนท้องถนนต่อต้านการทุจริต ไร้หลักธรรมาภิบาล และการบริหารงานที่ผิดพลาด