เชื่อว่าหลายคนในที่นี้มีความต้องการที่จะประหยัดเงิน แต่ทุกครั้งที่เห็นของที่ตัวเองอยากได้ก็มักจะพ่ายแพ้ต่อกิเลสที่มีอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้แผนที่วางไว้ว่าจะเก็บออมเงินไม่ได้เริ่มสักที เพราะมัวแต่เอาเงินไปซื้อของที่อยากได้ ทั้งๆที่ของสิ่งนั้นอาจมีความจำเป็นที่น้อยมากต่อเรา แต่เราก็ยอมซื้อมันมาเพื่อสนองกิเลสของเรา จึงทำให้การใช้เงินนั้นไม่เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างตัวผมเองเคยเสพติดการใช้เงินและการซื้อของมาสะสมเป็นอย่างมากจนทำให้เงินที่มีไม่เคยจะเหลือเก็บเลยสักเดือน ตลอดระยะเวลา 3 ปีผมไม่มีเงินเก็บเลยสักบาทเดียว เพราะพอผมเห็นอาหารเสริมออกใหม่ผมก็หาเงินมาซื้อจนได้ หรือแม้กระทั่งหนังสือผมก็มักจะซื้อสะสม แต่ก็ไม่ได้อ่านจริงๆจังๆสักที รวมถึงอาหารแต่ละมื้อที่ต้องกินหรูอยู่สบาย สิ่งเหล่านี้ที่ผมใช้เงินไปมันกลับไม่เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งๆที่มันเป็นสิ่งของที่ผมต้องการมาก และตอนจะซื้อก็หาเหตุผลให้กับตัวเองจนซื้อมาได้เมื่อผมเริ่มตระหนักแล้วว่าพฤติกรรมเช่นนี้มันไม่ก่อให้เกิดผลดีในอนาคตแน่ และผมก็ยังนึกเสียดายว่าถ้าหากเริ่มเก็บเงินตั้งแต่ตอนนั้น ป่านนี้คงมีเงินเยอะกว่านี้แล้ว ผมจึงได้เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่คิดแล้วคิดอีกก่อนที่จะซื้ออะไร ก่อนจะกินอะไรสักอย่าง ก็จะคิดอย่างรอบคอบ จึงทำให้ผมกลายเป็นคนที่ประหยัดไปเลยทีเดียว และนิสัยฟุ่มเฟือยที่เคยมีมันก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย ในวันนี้ผมจึงได้สรุป 3 วิธีที่ผมใช้ในการเตือนสติตัวเองไม่ให้ใช้เงินฟุ่มเฟือยที่ผมใช้แล้วได้ผล มาแบ่งปันทุกคนกัน เราไปดูกันเลยดีกว่าว่า 3 วิธีนั้นมีอะไรกันบ้าง1.เปลี่ยนจากการซื้อเป็นการดูสินค้านั้นหลายๆครั้งแทน หลายครั้งที่เมื่อผมมีความต้องการอยากได้อะไรสักอย่างแล้วผมก็รีบซื้อมันเลย โดยผมมักให้ข้ออ้างกับตัวเองว่าต้องรีบซื้อไม่งั้นคนอื่นก็จะซื้อจนหมด หรือบางครั้งก็รีบซื้อเพราะกลัวราคามันสูงขึ้น หรือบางครั้งก็ซื้อเพราะคิดว่าจะได้ใช้ประโยชน์ในทันที แต่ในความเป็นจริงกลับซื้อมาตั้งไว้ และไม่ได้ใช้ประโยชน์ ตัวอย่างของผมเลยที่เป็นบทเรียนที่มีค่ามากคือการซื้อ iPad ตอนที่ผมอยากได้มันผมมีเหตุผลให้กับตัวเองมากมายหลายข้อเลย แต่พอผมซื้อมาแล้วจริงๆผมกลับใช้มันไม่คุ้มค่าเม็ดเงินที่จ่ายไปเลยสักนิด ผมประโยชน์จากของราคาหมื่นกว่าบาทได้ไม่คุ้มค่าเลย จนผมมานึกขึ้นว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่ซื้อมันเลย ผมจะไปซื้ออย่างอื่นที่ใช้ประโยชน์ได้จริงๆแทนหลังจากนั้นมาผมจึงใช้วิธีการดูสินค้านั้นหลายๆครั้งก่อนที่จะซื้อแทน อย่างเช่นผมอยากได้นาฬิกาเรือนหนึ่ง ถ้าเป็นอดีตผมจะซื้อมันในทันที แต่ปัจจุบันนี้ผมจะดูมันทุกๆวัน ดูจนหมดความอยากได้ไปเอง ซึ่งผมก็ไม่ได้ทุกข์ใจอะไร อีกอย่างผมก็ไม่ต้องเสียเงินด้วย เพราะไม่รู้ว่าถ้าซื้อมาแล้วจะได้ใช้ประโยชน์คุ้มค่าอีกไหม ถ้าอยากได้อะไรมากๆแล้วมันราคาแพงเกินไปลองเปลี่ยนจากกดซื้อในทันทีมาเป็นการเฝ้าดูมันทุกวันจนความอยากหายไปเองดูนะครับ เพราะถ้าสุดท้ายแล้วความอยากได้นั้นหายไป หมายความว่าเราไม่ต้องมีมันก็ได้ และมันไม่จำเป็นสำหรับเราเท่าไหร่นัก2.ก่อนจะซื้ออะไรลองหาสินค้าอื่นที่ราคาถูกกว่าแต่ใช้แทนกันได้ดูก่อน ในฐานะที่เราเป็นผู้บริโภค เรามีสิทธิที่จะเลือกซื้อสินค้าต่างๆได้ ดังนั้นเราควรใช้สิทธินี้ให้เกิดประโยชน์ หลายครั้งเราเสียเงินที่แพงกว่าโดยไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด เพียงเพราะเราไม่ได้หาสินค้าที่ราคาถูกกว่าแต่มีคุณภาพเท่ากันมาทดแทนสินค้าที่เราอยากได้ บางครั้งการประหยัดส่วนต่างจากการซื้อนั้นก็ทำให้เราสามารถนำเงินนั้นไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์อื่นๆได้อีกมากมาย อย่างตัวผมเองเวลาจะเลือกซื้อเสื้อผ้า จะมองหาเสื้อผ้าที่คุณภาพดี ราคาถูกและสามารถทดแทนเสื้อผ้าที่มีราคาแพงได้ เนื่องจากบางครั้งราคาที่แพงอาจทำให้ฐานะทางการเงินของเราไม่มั่นคงได้ หากเรามีเงินพร้อมเมื่อไหร่เราอาจจะค่อยซื้อในภายหลัง แต่ในเมื่อเรายังไม่มีความพร้อมมากนักเราจึงควรใช้สิทธิของผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าที่ราคาไม่สูงและเกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวเราปัจจุบันตัวผมมักจะเปรียบเทียบราคาสินค้าจากหลายร้านเพื่อหาสินค้าที่ราคาถูกที่สุด อย่างน้อยการประหยัดเงินให้ได้ 100-200 บาทก็สามารถนำไปต่อยอดได้ เช่นหากผมจะซื้อมือถือผมก็จะเปรียบเทียบมือถือแต่ละยี่ห้อ ถ้าหากว่ามีเครื่องที่ราคาถูกกว่าแต่มีคุณภาพเท่าเทียบกับที่ผมต้องการ ผมก็จะเลือกซื้อมือถือยี่ห้อนั้นแทน ดังนั้นหากจะซื้ออะไรขอให้ลองหาตัวเลือกให้กับตัวเองกันก่อนนะครับ3.ให้ลองตั้งเป้าหมายในชีวิตบางครั้งการที่เราไม่รู้จักประหยัดเงินอาจเป็นเพราะเราไม่มีเป้าหมายในชีวิต เราใช้ชีวิตโดยไม่มีเป้าหมายทำให้เราไม่รู้จะเก็บออมหรือประหยัดไปเพื่ออะไร หลายครั้งในอดีตผมมักจะคิดว่าเราต้องใช้เงินให้เยอะที่สุดเพื่อแลกมาด้วยประสบการณ์ใหม่ๆ แต่ลืมนึกถึงเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตไป ทำให้ไม่ตระหนักถึงการประหยัดอดออม ระยะหลังมานี้ผมตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองอย่างแน่ชัดว่าจะเป็นนักลงทุนที่มีเงินโดยไม่ต้องทำงานและจะเที่ยวรอบโลก มันทำให้ผมรู้ว่าการที่ผมจะเป็นนักลงทุนได้นั้นหมายความว่าผมจะต้องมีเงินทุนพอสมควร ผมจึงตั้งหน้าตั้งตาในการเก็บอดออมเงินและเลิกนิสัยฟุ่มเฟือยเพื่อนำเงินนั้นมาลงทุนต่อยอด ผมคิดว่าการตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองเป็นวิธีที่ค่อนข้างเห็นผล เพราะมันทำให้มีแรงจูงใจที่จะประหยัดเงินมากขึ้น และทำให้เราเลิกนิสัยฟุ่มเฟือยได้ง่ายขึ้น หากใครสนใจวิธีนี้ลองหาเป้าหมายที่แท้จริงในชีวิตของตัวเองดูนะครับและนี่ก็เป็น 3 วิธีที่ผมเลือกใช้ในการเตือนสติตัวเองไม่ให้ใช้เงินฟุ่มเฟือย ผมใช้ทุกวิธีที่บอกมาในการเปลี่ยนตัวเองจากการเป็นคนฟุ่มเฟือยมาเป็นคนที่ประหยัดอดออมในทุกวันนี้ ซึ่งการเปลี่ยนตัวเองส่วนมากอยู่ที่จิตใจล้วนๆ ขอให้ทุกท่านเปลี่ยนตัวเองได้ประสบความสำเร็จนะครับ หากใครมีข้อเสนอแนะสามารถแสดงความคิดเห็นไว้ได้เลยนะครับเครดิตภาพปกทำเองจากเว็บไซต์ canva.comภาพที่ 1 โดย Pexels จาก Pixabayภาพที่ 2 โดย stevepb จาก Pixabayภาพที่ 3 โดย stevepb จาก Pixabayภาพที่ 4 โดย stevepb จาก Pixabayชวนแต่งแฟนซี หลอน สวย เซ็กซี่หรือสร้างสรรค์ ถ่ายภาพหรือวิดีโอ แล้วโพสต์ที่ TrueID Community ห้อง "13 สยองขวัญ"สำหรับผู้ที่ยอดกดไลค์สูงสุด 5 อันดับแรกอันดับที่1 : (ต้องมียอดไลค์เกิน 150 ไลค์) เงินรางวัล 3,000 บาทอันดับที่ 2-5: (ต้องมียอดไลค์เกิน 50 ไลค์) เงินรางวัล รางวัลละ 1,000 บาท (รวม 4 ท่าน 4,000 บาท)STAR COVER ส่งภาพเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 65 ถึง 3 พฤศจิกายน 65***เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !