เกษียณ ถ้าเราพูดถึงเรื่องนี้สมัยเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย คงไม่มีใครคิดหรือตระหนักเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ถ้าพูดเรื่องเกษียณกับคนที่เพิ่งเรียนจบ พวกเขาอาจจะรำคาญเอาได้ เพราะกว่าจะหางานที่มั่นคงทำก็แทบทำให้เจ้าตัวเครียดมากพออยู่แล้ว ถ้าพูดเรื่องเกษียณกับคนวัยทำงานก็จะพบกับความกลัดกลุ้ม เพราะพวกเขาออมเงิน หมุนเงินไปใช้หนี้ก็ลำบากเลือดตาแทบกระเด็น พอเอาคำว่าเกษียณมาพูดกับคนใกล้วัยเกษียณ มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เลยต้องมากังวลกับชีวิตหลังการทำงาน ลูกหลานจะอยู่ดูแลหรือไม่ จะมีเงินพอใช้หรือเปล่าจะว่าไปแล้ว การเกษียณมีความคล้ายคลึงกับความตายหลายอย่างเลยทีเดียว คือหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึง แต่ก็ไม่อาจหลีกหนีได้พ้น จนกระทั่งถึงเวลาที่บีบให้เราต้องเกษียณโดยที่ยังไม่พร้อม และนั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก โรเบิรืต คิโยซากิ จึงหยิบประเด็นการเกษียณมาเขียนเป็นหนังสือและอยากย้ำเตือนถึงความรู้ทางการเงินอีกครั้ง เพราะมันเป็นทางออกเดียวที่จะช่วยให้เราหลุดพ้นจากปัญหาดังกล่าวได้ และตระหนักถึงการเกษียณให้มากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา เนื้อหาภายในเล่มบทที่ 1 จะเกษียณอย่างเกษมได้อย่างไรบทที่ 2 เกษียณให้เร็วที่สุดบทที่ 3 ผมเกษียณเร็วได้อย่างไรบทที่ 4 แล้วคุณจะเกษียณรวยได้อย่างไรบทที่ 5 พลังทวีแห่งจิตใจของคุณบทที่ 6 คุณคิดว่ามีอะไรบ้างที่เป็นความเสี่ยงบทที่ 7 จะทำอย่างไร ถ้าต้องการได้เงินมากขึ้น แต่ทำงานน้อยลงบทที่ 8 รวยให้เร็วที่สุดด้วยพลังทวีแห่งจิตใจบทที่ 9 พลังทวีแห่งแผนการบทที่ 10 พลังทวีจากการมองเห็นอนาคตบทที่ 11 พลังทวีของสัจจะบทที่ 12 พลังทวีของนิทานบทที่ 13 พลังทวีแห่งความเมตตาบทที่ 14 พลังทวีของนิสัยบทที่ 15 พลังทวีจากเงินของคุณบทที่ 16 พลังทวีจากอสังหาริมทรัพย์บทที่ 17 พลังทวีจากหลักทรัพย์บทที่ 18 พลังทวีจากธุรกิจในด้าน Bบทที่ 19 เคล็ดลับบทที่ 20 โลกทัศน์ที่ต่างกันบทที่ 21 ก้าวไป อย่าถอย แนวคิดสำคัญที่ได้ภายในเล่มในมุมมองของผู้เขียนได้เรียนรู้ว่าพลังทวี เป็นสิ่งที่ช่วยให้คนอิสรภาพทางการเงิน การที่คนทำงานประจำมักจะวางแผนพึ่งกองทุนรวมเพื่อการเกษียณถือเป็นเครื่องมือของพลังทวีที่มีกำลังต่ำ ไม่ได้หมายความว่าให้เลิกทำงานประจำ แต่อยากให้ตระหนักว่าเราต้องหาพลังทวีเพิ่ม ได้เรียนรู้การตั้งคำถามว่า ผมจะช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้น ด้วยการทำงานให้น้อยลง และมีมูลค่าสูงขึ้นได้อย่างไร คนที่พยายามหาคำตอบและลงมือทำจะกลายเป็นเศรษฐีได้ ได้เรียนรู้ว่ากลยุทธ์ของผู้ชนะ มักเตรียมใจจะขาดทุนอยู่แล้ว แต่จะทำกำไรให้มากพอที่จะชดเชยวงเงินที่ขาดทุนนั้นให้กลับมาบวกกับกำไรที่เพิ่มขึ้นอีก ได้เรียนรู้ว่าเงิน ไม่ใช่สิ่งที่คนรวยต้องการ เพราะเขามีเงินอยู่แล้ว คนรวยมักต้องการ Connection จากคนรู้จัก เพื่อให้เอื้ออะไรบางอย่างซึ่งกันและกัน ได้เรียนรู้ว่าการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ มีข้อได้เปรียบ 3 ประการ1.ธนาคารให้กู้2.ไม่มีภาษีจากกำไรส่วนต่าง3.ยิ่งลงทุนในอสังหาฯที่ใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ ธนาคารยิ่งอยากให้กู้ ได้เรียนรู้ว่าคนเราต้องเป็นได้ทั้งนักลงทุนและนักเก็งกำไร คือ นักลงทุนรู้จักวิเคราะห์บริหารจัดการลงทุนเป็น ต้องการกระแสเงินสดจากทรัพย์สิน ส่วนนักเก็งกำไรจะรู้จังหวะเข้าซื้อ-ขาย ต้องการรับรู้กำไรส่วนต่างจากการซื้อถูกขายแพง ได้เรียนรู้ว่าเราทุกคนต่างมีทักษะเป็นผู้นำอยู่ในตัวอยู่แล้ว ปัญหาคือคนส่วนใหญ่กลับพัฒนาแต่ด้านทักษะทางสายงานและอาชีพเพียงอย่างเดียว ทักษะความเป็นผู้นำสำคัญมากสำหรับผู้ประกอบการ เพราะผู้ประกอบการมักมี Mindset ที่ต่างจากคนทำงานประจำมาก ได้เรียนรู้ว่าอย่าหักโหมศึกษารูปแบบของรายได้มากเกินไป เพียงแค่ปล่อยให้เรื่องราวของรายได้และทรัพย์สินไหลผ่านเข้ามาในโลกทัศน์ของเราอย่างเป็นธรรมชาติด้วยตัวเอง ยิ่งไม่มีแรงกดดันในใจมากแค่ไหน แนวคิดก็ยิ่งหยั่งรากลึกในใจเราได้มากแค่นั้น โดยคนส่วนใหญ่มักคิดในลักษณะของการต้องลงมือทำอะไรสักอย่างทันทีทันใด ซึ่งมักไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงเท่าที่ควร พ่อรวยเคยเจอคนที่ถามวิธีการของพ่อว่าพ่อรวยทำได้อย่างไร แต่ไม่ว่าพ่อจะอธิบายกับพวกเขาอย่างละเอียดเพียงใดก็ตามพวกเขาก็ไม่เคยทำได้เลย พ่อรวยจึงเข้าใจแล้วว่าเหตุผลสำคัญกว่าวิธีการ หากมีเหตุผลที่หนักแน่นเพียงพอ วิธีการจะมาหาเราเอง คนส่วนใหญ่ไม่ยอมมองเข้ามาข้างในเพื่อถามตัวเองอย่างจริงจังว่าทำไมพวกเขาจึงต้องการเป็นคนร่ำรวย สิ่งที่พวกเขาทำก็มีแต่จะหาสูตรสำเร็จของคนรวย แต่ความจริงแล้วสูตรสำเร็จคือ สูตรที่หมดอายุการใช้งานแล้ว นั่นทำให้ครีเอเตอร์เข้าใจมากขึ้นว่าทำไมคนรวยจึงไม่บอกถึงสูตรสำเร็จกัน... นอกจากนี้ แนวคิดดังกล่าวที่ได้ทำให้ครีเอเตอร์ตระหนักและปรับตัวกับแนวทางการลงทุนของตัวเอง วิธีไหนที่ครีเอเตอร์ใช้อยู่แล้วก็ดีไป บางข้อถ้ายังทำไม่ได้ก็ต้องหาทางกันต่อไป โดยเฉพาะทักษะการเป็นผู้นำที่โน้มน้าวให้คนอื่นทำตามแนวทางของเราได้ และแนวทางนั้นเป็นที่ยอมรับของคนอื่นๆด้วย ในการทำธุรกิจนั้น ถ้าขาดภาวะผู้นำ สุดท้ายมันจะมีปัญหา ทั้งความเสียหายจากการตัดสินใจไม่เด็ดขาดและการปกครองคนที่ล้มเหลว ก่อนจากกันไป ผู้เขียนอยากบอกว่าแม้เนื้อหาภายในเล่มจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่แนวคิดยิ่งตอกย้ำความสำคัญของเงินจากวิกฤติในปัจจุบันมากขึ้น ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ความรู้ทางการเงินจะเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากขึ้นกว่าเดิม ถ้าเริ่มเบื่อกับคำแนะนำเดิมๆ เช่น อดทนไว้ก่อน ลงทุนระยะยาว จงกระจายความเสี่ยง ก็ถือว่าคุณผู้อ่านเลือกหนังสือถูกแล้วครับ เครดิตภาพภาพปก โดย freepik จาก freepik.com ภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย pressfoto จาก freeoik.comภาพที่ 4 โดย jcomp จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูกรีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูก เงินสี่ด้านรีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนวัยรุ่น (Rich dad poor dad for teens)รีวิวหนังสือพ่อรวยสอนลูก เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนจะเป็นเจ้าของธุรกิจ (Rich dad's Before you quiz your job)รีวิวหนังสือ WHY THE RICH ARE GETTING RICHER (ทำไมคนรวยยิ่งรวยขึ้น)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !