รีเซต

SCB โบรกฯ อัพกำไร- ราคาเป้าหมายเพิ่ม มองบวกปรับโครงสร้างองค์กร

SCB โบรกฯ อัพกำไร- ราคาเป้าหมายเพิ่ม มองบวกปรับโครงสร้างองค์กร
ทันหุ้น
26 กันยายน 2564 ( 12:48 )
115
SCB โบรกฯ อัพกำไร- ราคาเป้าหมายเพิ่ม มองบวกปรับโครงสร้างองค์กร

ทันหุ้น-โบรกเกอร์ 2 รายคือ บล.โนมูระ พัฒนสิน และบล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) มีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความคล่องตัวขึ้น โดย"โนมูระ พัฒนสิน"ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 65-66 เพิ่มขึ้น รวมถึงราคาปรับเป้าเพิ่มเป็น 150 บาทต่อหุ้น เลือกเป็นหุ้นเด่น หรือ Top pick ของกลุ่ม 

 

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อการปรับโครงสร้างองค์กรของ SCB จากการเป็นผู้นำในการเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจธนาคาร โดยมีการปรับโครงสร้างอค์กรให้มึความคล่องตัว มีแผนรุก  digital platform มากขึ้น รวมถึงแผนรุกสินเชื่อจำนำทะเบียน ซึ่งหนุนการเติบโตของสินเชื่อ และอัตราผลตอบแทนสินเชื่อในระยะยาว ขณะเดียวกันก็มีการจับมือกับผู้ประกอบการรายใหญ่ ADVANC และ CP group เพื่อแสวงหาการเติบโตใหม่ๆ 

 

ทั้งนี้ SCB ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจเป็น  Holding company ชื่อ SCBX เพื่อเสริมให้ธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น โดย SCBX ตั้งเป้าในอีก 5 ปีข้างหน้า จากเดิมที่เป็นธนาคาร จะกลายเป็น Fin Tech Group และขยายการเติบโตสู่ภูมิภาค 

 

ฝ่ายวิจัยโนมูระ พัฒนสิน ได้ปรับประมาณการกำไรของ SCB ในปี 2565-2566 เพิ่มขึ้น 0.3% และ 2% ส่งผลให้มีกำไรปี 2565 และ 2566 มาอยู่ที่ 3.8 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 5% และอยู่ที่ 4.1 หมื่นล้าบาท เพิ่มขึ้น 8% จากการปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของสินเชื่อ และอัตราผลตอบแทนสินเชื่อ เพื่อสะท้อนต่อทิศทางของประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น รวมถึงโอกาสเติบโตในธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียน ขณะเดียวกันได้ปรับราคาเป้าหมายของปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 150 บาทต่อหุ้นจากเดิมอยู่ที่ 117 บาทต่อหุ้น โดยยังคงแนะนำซื้อ และเลือกเป็นหุ้น Top pick ของกลุ่มธนาคาร

 

ด้านบล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) มองว่าการที่ SCB ปรับโครงสร้างองค์กร โดยให้ SCBX ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้ง เป็นบริษัทแม่ของกลุ่ม มีเป้าหมายเป็นกลุ่มเทคโนโลยีทางการเงิน มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจธนาคาร บริการสินเชื่อผู้บริโภคและการเงินดิจิทัล และบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลและเทคโนโลยี อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานของ SCBX ส่วนใหญ่จะได้รับแรงหนุนจากธุรกิจธนาคารสำหรับในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ขณะที่คาดว่ากำไรของ SCB จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ 19% ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 14% ยังคงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 133 บาทต่อหุ้น 

 

ผลดำเนินงานในไตรมาส 3/64 ของ SCB คาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 8.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น และการตั้งสำรองที่ลดลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าในครึ่งปีหลัง การตั้งสำรองหนี้จะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก เพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยืดเยื้อ 

 

ราคาหุ้น SCB ปิดล่าสุดอยู่ที่ 130 บาท เพิ่มขึ้น 20.50 บาท หรือ 18.72% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 21,249.61 ล้านบาท 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง