Blue Origin เลื่อนปล่อยจรวด New Glenn เหตุอากาศแปรปรวน เลื่อนกำหนดใหม่ 12 พฤศจิกายน

วันที่ 10 พฤศจิกายน บริษัท บลู ออริจิน (Blue Origin) ของมหาเศรษฐี เจฟฟ์ เบซอส (Jeff Bezos) ประกาศเลื่อนการปล่อยจรวดขนาดยักษ์ New Glenn ที่มีกำหนดจะนำยานสำรวจดาวอังคารคู่แฝดขององค์การ NASA ออกเดินทางในภารกิจ ESCAPADE หลังจากสภาพอากาศเลวร้ายทำให้ไม่สามารถปล่อยได้ตามแผนเดิมในวันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ภารกิจนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นการส่งยานสำรวจดาวอังคารของ NASA ครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปี นับตั้งแต่โครงการ Perseverance เมื่อปี 2020

สาเหตุการเลื่อนและกำหนดใหม่

ก่อนหน้านี้ภารกิจ New Glenn Flight NG-2 มีกำหนดปล่อยจากฐาน Launch Complex 36 ที่สถานี Cape Canaveral Space Force Station รัฐฟลอริดา แต่ต้องถูกยกเลิกในนาทีสุดท้าย เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ

ทาบิธา ลิปกิน (Tabitha Lipkin) โฆษกของบริษัท Blue Origin เปิดเผยระหว่างการถ่ายทอดสดว่า การปล่อยถูกยกเลิกเพราะเข้าข่ายกฎเมฆคิวมูลัส (Cumulus Cloud Rule) ซึ่งห้ามปล่อยจรวดในสภาพอากาศที่มีเมฆหนาและพายุฟ้าคะนอง เนื่องจากอาจเกิดความเสี่ยงต่อระบบไฟฟ้าของจรวด

Blue Origin จึงประกาศวันปล่อยใหม่เป็นวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยมีช่วงเวลาปล่อยระหว่าง 14:50-16:17 น. ตามเวลาในสหรัฐฯ หรือเวลา 02:50-04:17 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน ตามเวลาในประเทศไทย

ปัญหาทางกฎหมายและการปิดหน่วยงานรัฐ

การเลื่อนปล่อยในครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาตรงกับก่อนวันที่ข้อจำกัดใหม่ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ว่าด้วย การควบคุมเที่ยวบินอวกาศเชิงพาณิชย์ จะมีผลบังคับใช้

ภายหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประสบภาวะชัตดาวน์ (government shutdown) สำนักงานการบินพลเรือน (FAA) ได้ประกาศระงับการปล่อยจรวดเชิงพาณิชย์ในช่วงเวลากลางวันอย่างไม่มีกำหนด เพื่อบรรเทาภาระงานของเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง

บริษัท Blue Origin เดิมมีแผนสำรองการปล่อยในวันที่ 10 และ 11 พฤศจิกายน แต่เมื่อข้อจำกัดของ FAA มีผลในวันที่ 10 บริษัทจึงต้องหารือเพื่อขอ “ข้อยกเว้นพิเศษ” (waiver) ในการปล่อยเที่ยวบินดังกล่าวอีกครั้ง

ทางด้านของลอรา แม็กกินนิส (Laura Maginnis) รองประธานฝ่ายบริหารภารกิจ New Glenn กล่าวว่า บริษัทกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ FAA และ NASA เพื่อให้การปล่อยในวันที่ 12 พฤศจิกายนเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยทุกประการ

ภารกิจ ESCAPADE สู่ดาวอังคาร

ภารกิจ ESCAPADE (Escape and Plasma Acceleration and Dynamics Explorers) เป็นโครงการสำรวจดาวอังคารของ NASA ที่เน้นศึกษาการหายไปของชั้นบรรยากาศดาวอังคารและผลกระทบจาก ลมสุริยะ (Solar wind) ต่อสนามแม่เหล็กของดาวเคราะห์

ยาน ESCAPADE ประกอบด้วยยานคู่แฝดสองลำที่สร้างโดยบริษัท Rocket Lab และดำเนินการโดยทีมนักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (UC Berkeley)

โครงการนี้มีงบประมาณเพียง 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,960 ล้านบาท ถือเป็นภารกิจต้นทุนต่ำแต่มีความสำคัญเชิงวิทยาศาสตร์สูง เพราะจะช่วยตอบคำถามว่าเหตุใดดาวอังคารในอดีตที่เคยมีน้ำจึงกลายเป็นดาวเคราะห์แห้งแล้งในปัจจุบัน

นอกจากยาน ESCAPADE แล้ว ภารกิจนี้ยังบรรทุก การทดลองด้านการสื่อสารของ ViaSat ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Communications Services Project ของ NASA เพื่อทดสอบเทคโนโลยีสื่อสารระยะไกลในอวกาศอีกด้วย

เป้าหมายของจรวด New Glenn (NG-2)

การปล่อย ESCAPADE ครั้งนี้ถือเป็น เที่ยวบินที่สองของจรวด New Glenn ซึ่งจรวดมีความสูงถึง 98 เมตร หรือเกือบเท่าตึก 30 ชั้น

บริษัท Blue Origin ตั้งเป้าให้เที่ยวบิน NG-2 เป็นการทดสอบการนำ บูสเตอร์ชั้นแรก (first stage) กลับมาลงจอดบนเรือบรรทุกกลางมหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อใช้ซ้ำในอนาคต หลังจากเที่ยวบินแรกยังไม่สามารถลงจอดได้สำเร็จ

หากภารกิจในวันที่ 12 พฤศจิกายน ประสบความสำเร็จจะเป็นก้าวสำคัญของ Blue Origin ในการยืนยันศักยภาพของจรวด New Glenn ว่าสามารถแข่งขันกับ Falcon Heavy ของบริษัท SpaceX ในตลาดจรวดขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มตัว และยังเป็นการปูทางสู่ภารกิจดวงจันทร์ Blue Moon ที่บริษัทเตรียมจะใช้จรวดรุ่นนี้เป็นพาหนะหลักในอนาคต