Editor’s Pick: เราจะไม่ทิ้งแรงงานในต่างแดนไว้ข้างหลัง
Editor’s Pick: ‘เราจะไม่ทิ้งแรงงานในต่างแดนไว้ข้างหลัง’ เกิดอะไรขึ้นกับคำสัญญา เมื่อแรงงานชาวฟิลิปปินส์ในต่างประเทศถูกทอดทิ้งโดยรัฐบาลของพวกเขาเอง
ฮีโร่ที่ถูกทอดทิ้ง
แรงงานชาวฟิลิปปินส์ในต่างประเทศ หรือ OFWs ถูกยกย่องมานานว่าเปรียบเสมือนฮีโร่ของประเทศฟิลิปปินส์ เพราะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้นด้วยการส่งเงินกลับมายังประเทศของตนเอง
พวกเขากำลังถูกทอดทิ้งจากรัฐบาล และถูกปล่อยให้ติดค้างอยู่ต่างแดน จากผลกระทบของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ว่าโรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งแรงงานในต่างประเทศ แต่ดูเหมือนว่า OFWs กำลังตกที่นั่งลำบากในตอนนี้
“วันที่ 7 เมษายน ฉันซื้อตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัดกับสายการบิน Ethiopian Airlines ซึ่งเป็นเที่ยวเดียวของวันที่ 30 เมษายน เพราะว่าถูกจำกัดการเดินทาง จากจำนวน 2,500 ที่นั่งต่อวัน ที่รัฐบาลฟิลิปปินส์กำหนด” เอลิน่า กล่าว
เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนที่ เอลิน่า ต้องติดอยู่ในเมืองลากอสของไนจีเรีย หลังจากที่สัญญาการจ้างงานของเธอสิ้นสุดลง เธอเป็นชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานในประเทศไนจีเรีย และหวังว่าจะได้ขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน
ก่อนถึงวันเดินทาง 2 วัน เอลิน่าบอกว่า "พวกเราแต่ละคนต้องจ่ายเงินจำนวน 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3,127 บาท สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่เมื่อพวกเราลองตรวจสอบเที่ยวเดินทางในวันถัดไป พวกเราได้รู้ว่าเที่ยวบินของเราถูกยกเลิก”
รัฐบาลฟิลิปปินส์กำหนดข้อจำกัดการเดินทางในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 บริเวณรอบกรุงมะนิลา หากต้องการเปลี่ยนแปลงวันเดินทาง แรงงานเหล่านั้นต้องจ่ายให้สายการบิน Ethiopian Airlines เป็นจำนวน 1,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 34,397 บาท สำหรับค่าธรรมเนียมในการจองตั๋วใหม่
ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อแรงงานในต่างประเทศ
องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือ IOM สัมภาษณ์แรงงานฟิลิปปินส์ที่กลับประเทศ 8,332 คน และเผยผลสำรวจเมื่อวันพฤหัสบดี (27 พฤษภาคม) ในหัวข้อ “การประเมินผลกระทบโควิด-19 ต่อแรงงานชาวฟิลิปปินส์ในต่างประเทศ”
ผลสำรวจ ระบุว่า เกือบ 60% ของแรงงานกลับมาจาก 5 พื้นที่ ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE กาตาร์ คูเวต และฮ่องกง ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 30 กลาง ๆ (51% เป็นผู้ชาย) มีการศึกษาอย่างน้อย 10 ปี และทำงานมาเป็นเวลา 5-8 ปี รายได้สมาชิกครัวเรือนต่อเดือนเฉลี่ย 2-5 หมื่นเปโซ หรือ 12,508-31,270 บาท
ผู้หญิงส่วนใหญ่กลับมาจาก 2 พื้นที่ ได้แก่ ฮ่องกงและคูเวต มีจำนวนมากกว่าผู้ชาย 82% และ 75% ตามลำดับ
59% ของ OFWs กลับมาในช่วงการระบาด พกเขาไม่ได้ต่ออายุสัญญาการจ้างงาน หรือ พวกเขาหางานอื่นไม่ได้ หรือนายจ้างใช้เป็นเหตุผลในการไล่พวกเขาออก
48% ต้องการกลับไปเป็นแรงงานในต่างประเทศอีกครั้ง
38% มาจากกรุงมะนิลา และจังหวัดรอบ ๆ ที่ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากการแพร่ระบาด
15% มาจากทางใต้ของเกาะมินดาเนา
59% ไม่ได้เงินค่าชดเชย
83% ว่างงานมากกว่า 3 เดือนหลังจากกลับมา
"โปรดช่วยเราด้วย"
เอลิน่า กล่าวว่า เธอได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังฝ่ายนิติบัญญัติผ่านทางโซเชียลมีเดียหลายครั้ง รวมถึงเลขาธิการต่างประเทศ ธีโอโดโร ลอกซิน จูเนียร์ และเจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดี แต่ไม่มีใครตอบกลับเธอ
“ฟิลิปปินส์ก็เป็นประเทศของเราเช่นกัน” เธอเขียนข้อความหนึ่งใน Twitter
“โปรดบอกเราด้วยว่าแผนของคุณคืออะไร แรงงานฟิลิปปินส์ในต่างประเทศจะถูกห้ามไม่ให้กลับบ้านเกิดหรือไม่? เราไม่มีงานแล้ว…โปรดช่วยเราด้วย ขอบคุณ”
แม้รัฐบาลจะใช้เงินไปมากกว่า 5 พันล้านเปโซ หรือประมาณ 3.2 พันล้านบาท กับการนำแรงงานกลับประเทศ 519,656 คน นับรวมแรงงานคนอื่น ๆ ที่กลับด้วยตัวเอง หรือที่ถูกส่งกลับโดยนายจ้าง
เลขาธิการกรมแรงงาน กล่าวว่า ประธานาธิบดีโรดีโก ดูแตร์เต ระบุว่า วันที่ 19 เมษายน มีชาวฟิลิปปินส์อย่างน้อย 5 หมื่นคนที่ยังติดอยู่ในต่างประเทศ ขณะที่ผู้บริหารสำนักงานบริหารสวัสดิการแรงงานในต่างประเทศ หรือ OWWA กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องใช้เงิน 9.8 พันล้านเปโซ หรือราว 204 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อแก้ปัญหานี้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจัดสรรงบประมาเพียง 4.5 พันล้านเปโซ หรือประมาณ 2.92 พันล้านบาทเท่านั้น เพื่อช่วยเหลือแรงงานในต่างประเทศ
ความช่วยเหลือที่ไม่เพียงพอ
ฟลออิลาน มาลิท รองศาสตราจารย์จากสถาบันวิจัยสังคมและเศรษฐกิจของมหาวิทยาลัย Zayed กล่าวว่า รัฐบาลให้การสนับสนุนแรงงานฟิลิปปินส์ในต่างประเทศมากกว่าประเทศอื่น ๆ แต่การตอบสนองยังไม่เพียงพอ และแสดงให้เห็นถึงขีดจำกัดของสถาบัน
ปัจจัยหนึ่ง คือ การกระจายความช่วยเหลือในลักษณะเงินสดของรัฐบาลไปยังแรงงานฟิลิปปินส์ในต่างประเทศผ่านโปรแกรม Akap หรือ Embrace นั้นไม่สม่ำเสมอ
แรงงานที่ทุกข์ใจแต่ละคนควรจะได้รับเงิน 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 6,258 บาท แต่สิ่งนี้ทำให้เกิดการร้องเรียนจำนวนมากบนโซเชียลมีเดีย เนื่องจากจำกัดโควตา 'ผู้รับเงิน' ต่อประเทศ ดังนั้น ไม่ใช่ทุกคนได้รับเงินช่วยเหลือ
นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แรงงานชาวฟิลิปปินส์ในต่างประเทศ 791,623 คน เดินทางกลับหรือถูกส่งตัวกลับเมื่อปีที่แล้ว ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา