MAJORเล็งครึ่งหลังฟื้นแกร่ง รุกฐานโรงหนัง-ป๊อบคอร์นขายดี
#MAJOR #ทันหุ้น - MAJOR เดินหน้าเปิดโรงภาพยนตร์ IMAX, Kids Cinema ตามแผน ทั้งยังนำเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ (Self-Ordering Kiosk ) หรือ SOK ช่วยจำหน่ายป๊อบคอร์นหน้าโรงภาพยนตร์ ควบคู่ออกรสชาติใหม่กระตุ้นยอดขายร้านสะดวกซื้อ มั่นใจผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เติบโตแข็งแกร่งทุกกลุ่มธุรกิจ ด้านนักวิเคราะห์แนะ “ซื้อ” เป้า 19 บาท
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เปิดเผยว่า บริษัทยังคงแผนการลงทุนช่วงครึ่งหลังของปี 2567 (2H/67) คือ การเดินหน้ารุกเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก Kids Cinema เพิ่มอีก 6 โรง 6 สาขาในต่างจังหวัด ได้แก่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ (เซ็นเฟส), เซ็นทรัล ระยอง, เซ็นทรัล นครปฐม, โรบินสัน เพชรบุรี, โรบินสัน ราชพฤกษ์ และ เวสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์
รวมถึงเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ IMAX with Laser เพิ่มอีก 2 สาขา คือ เปิดบริการสาขาใหม่ ที่ บางกะปิ ซีนีเพล็กซ์ และอัพเกรดเครื่องฉายเป็นระบบใหม่ IMAX with Laser ที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ ซึ่งเป็นไปตามแผนความร่วมมือระหว่าง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และ IMAX Corporation โดยตั้งเป้า ณ สิ้นปี 2567 จะมีจะมีโรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก “Kids Cinema” เปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 20 โรง และโรงภาพยนตร์ IMAX with Laser ครบ 13 สาขา
เล็งครึ่งหลังฟื้นแกร่ง
พร้อมกันนี้ยังคงคาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดครึ่งหลังของปี 2567 (2H/67) มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2567 (1H/67) ที่ผ่านมา โดยธุรกิจโรงภาพยนตร์ จะมีภาพยนตร์ไทยออกฉายกว่า 34 เรื่อง และจะมีภาพยนตร์ที่บริษัทร่วมผลิตกับพันธมิตรทั้งเวิร์คพอยท์ และ TV3 ออกฉายด้วย อาทิ ธี่หยด 2 ด้านภาพยนตร์ชั้นนำจากต่างประเทศที่จะเข้าฉาย อาทิ Deadpool & Wolverine, Joker 2, Transformers One, และAlien เป็นต้น
ประกอบกับงวดไตรมาส 4/2567 จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้โฆษณา และงานอีเวนต์เข้ามาได้มากกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อธุรกิจโบว์ลิ่ง เป็นอย่างมากโดยเฉพาะการเช่าพื้นที่จัดงานอีเวนต์ – กิจกรรมสันทนาการ สะท้อนจากตั้งแต่ต้นปี 2567 ที่ผ่านมา รายได้กลุ่มธุรกิจโบว์ลิ่งเติบโตได้ต่อเนื่องทุกไตรมาส
“ที่ผ่านมาธุรกิจโบว์ลิ่งบริษัทตั้งทีมการตลาดเจาะตรงเข้าสู่องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ส่งผลให้มีการจัดงานอีเวนต์ กิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้นทุกไตรมาส ขณะที่ธุรกิจภาพยนตร์ การมีภาพยนตร์ไทยเข้าฉาย จะลดความผันผวนจากภาพยนตร์ฮอลลีวูด และจะสร้างรายได้จากการจำหน่ายตั๋วต่อไตรมาสได้ดีขึ้น โดยปี 2567 นี้เห็นได้ชัดเจน ปกติไตรมาสที่ดีที่สุดของบริษัทจะอยู่ที่ไตรมาส 2 เนื่องจากมีภาพยนตร์ชั้นนำจากต่างประเทศเข้าฉายเยอะ ประกอบกับมีวันหยุดยาว และปิดภาคการศึกษา แต่ปีนี้ภาพยนตร์ต่างประเทศเลื่อนกำหนดฉาย รายได้จากการจำหน่ายตั๋วยังคงเร่งตัวขึ้นได้สอดคล้องกับปริมาณภาพยนตร์ที่เข้าฉาย”
ป๊อบคอร์นต่อเนื่อง
ด้านการจำหน่าย “ป๊อบคอร์น เมเจอร์” นั้นยังคงพัฒนาต่อเนื่องทั้งการจำหน่ายหน้าโรงภาพยนตร์ โดยไตรมาส 4/2567 นี้จะนำเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ (Self Ordering Kiosk : SOK) เข้ามาสนับสนุนการขายให้กับพนักงาน รวมถึงสามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเลือกรสชาติ และโปรโมชันได้ด้วยตนเอง ควบคู่การขยายคีออส นอกโรงภาพยนตร์ออกไปอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ ยังคงพัฒนารสชาติใหม่ อาทิ ป๊อปคอร์นรสหวาน และรสสาหร่าย เตรียมออกวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 และห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆ ภายในงวดไตรมาส 3/2567 นี้ เพื่อรองรับความต้องการ – และขยายฐานผู้บริโภคเป้าหมายออกไปให้ครอบคลุมมากขึ้น
แนะ “ซื้อ” เป้า 19 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า MAJOR เปิดเผยรายได้จากตั๋วภาพยนตร์ – และอาหาร/เครื่องดื่มเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2567 ทรงตัวเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) โดย 1 กรกฎาคม - 11 กันยายน 2567 มีหนังที่มีรายได้ให้MAJOR สูง 5 อันดับแรก 1. Deadpool & Wolverine ที่ 178 ล้านบาท 2.วิมานหนาม 82 ล้านบาท 3.Despicable me 4 ทำรายได้ 34 ล้านบาท 4. Alien Romulus ทำรายได้ 26 ล้านบาท และ 5.องครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ 19 ล้านบาท ขณะที่เดือนกันยายนยังมีภาพยนตร์ไทยที่MAJOR ร่วมผลิตกับ WORK เข้าฉายเรื่อง ศึกค้างคาวกินกล้วย
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าไตรมาส 4/2567 แนวโน้มจะดีขึ้นทั้งเมื่อเทียบQoQ และ YoY โดยภาพยนตร์ไทยยังเป็นความหวัง โดยจะมีหนังไทยราว 20 เรื่องเข้าฉาย โดยมีหนักร่วมของ MAJOR 4 เรื่อง ธี่หยด2 (ร่วมทุน BEC) วัยเป้ง 2 - หมู่บ้านโคกะโหลก (ร่วมทุน MONO),คุณชาย (ร่วมทุน WORK) รวมถึงหนัง 404 สุขนิรันดร์ ของ GDH ส่วนหนังฮอลลีวูดที่น่าสนใจ เช่น Joker 2, Gladiator 2, Venom 3, Kraven the Hunter และหนังแอนิเมชัน/การ์ตูu Lion King Mufasa, Moana 2, Sonic 3 เป็นต้น จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 19 บาท