คาดว่าเพราะความสงสัยบวกกับกระแสที่ร้อนแรงกับสัญญาใจที่คอยปลุกระดมให้ประชาชนที่คาดหวังทำให้วันนี้เท่าที่นั่งคิดดูจริงๆ ดูเหมือนจะกลายเป็นวาระแห่งชาติไปซะแล้ว และออกมายืนยันทันทีที่ผู้คนถามถึง ว่าจะได้วันไหน เมื่อไหร่ และ จะได้ทุกสิ้นเดือนไหม หรือว่าให้ครั้งเดียวแล้วใช้จ่ายกันให้จุใจไปเลย "ใช่ครับ เปิดผ้าหน้าม่านยืนยันกันมาแล้วว่าครั้งเดียวแน่นอนหมดแล้วหมดเลย" มันเหมือนโปรเจคสายล่อฟ้า ยังไงไม่รู้ว่าทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งจะถูกนำมาใช้อีกหรือไม่ แค่เพียงคิดเฉยๆนะครับ เหมือนการกดปุ่มสวิทซ์นิวเครียร์แล้วระเบิดเศรษฐกิจขึ้นมาเลยในตูมเดียว หรือ เพียงแค่สะกิดเบาๆให้พอถูไถไปได้ มารอลุ้นกันในปีหน้าครับอีกหนึ่งคำถามที่ร้อนแรงไม่แพ้กันว่าตกลงจริงๆแล้วจะได้เมื่อไหร่กันแน่ เนื่องจากที่ผมลงไปเมื่อไม่นานปรากฎว่าอาจจะทำให้ผู้อ่านสับสน ดังนั้นผมจึงขออนุญาตเรียกเป็น ไตรมาสแรก ซึ่งก็จะอยู่ในช่วงตั้งแต่ มกราคม ถึง มีนาคม หรือ สามเดือนแรก ก่อนเมษายนนั่นเองนะครับ จะว่าไปแล้วสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลยกับเงินดิจิตอลถ้ามีการสร้างขึ้นมาจริงๆและใช้ชื่อเหรียญว่า CBDC เราคงจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดในอนาคตกับบทบาทของประเทศไทยในปัจจุบันน่าจะเป็นศูนย์กลางการค้าดิจิตอลของเอเชียได้ไม่ยากถ้าได้รับการสนับสนุนจริงๆ แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น นี่ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่เราจะได้ทดลองใช้ภายในประเทศเป็นครั้งแรกว่ามีศักยภาพเพียงพอไหมที่จะได้เป็นประเทศพัฒนาแล้วกับเขาได้บ้าง ถ้ามองกันผิวเผินดูจะไม่ใช่เรื่องยาก หรือ แปลกอะไร ก็แค่เปลี่ยนจากเงินสดหรือ เงินจริงๆที่เราถือๆกันอยู่นี่เป็นสินทรัพย์ดิจิตอลโดยที่มีเงินจริงๆเป็นเงินสำรองอยู่ในแบงค์เหมือนกับทองคำที่คุ้มครองค่าเงินบาท แต่เวลานำมาใช้จ่ายเปลี่ยนเป็นเปิด QR code ขึ้นมาแทน ใช้สแกน QR code รับ และ สแกน QR codeจ่าย เพราะเรามีกระเป๋าดิจิตอลอยู่แล้วผ่านทางแอปกระเป๋าตังค์ แค่เพียงโหลดมาจาก เพลย์สโตร์ และ ติดตั้ง จากนั้นก็ใส่รายลเอียด และ แสกนใบหน้ายืนยันตัวตนกับธนาคาร ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ข้อดีคือ สะดวกต่อการนำไปใช้จ่าย ซื้อของ หรือ ติดต่อธุรกรรมระหว่างกัน ได้สะดวกรวดเร็วข้อเสีย การโจรกรรมทางไซเบอร์ที่จะต้องรัดกุมเรื่องความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ---ร้านค้าเล็กอาจไม่อยากได้เพราะไปแลกเงินสดคืนไม่ได้เนื่องจากไม่ได้เสียภาษีเกณฑ์การให้ จากจำนวนประชากรประเทศไทยเรามีอยู่ประมาณ 66 ล้านคน ซึ่งจะคัดเอาที่เข้าเกณฑ์จริงๆ ตามที่ระบุเอาไว้ในเงื่อนไข แค่เพียง 50ล้านคน จะสามารถ กระตุ้นเศษฐกิจให้ได้ภายใน 6 เดือนแรก หรือ ไตรมาสหนึ่ง และ ไตรมาสสอง ของปี 67 ตามความเข้าใจด้านล่างนี้เลยครับอายุ 16 -24 ปี วัยเรียน อายุ 25 - 54 ปี วัยทำงานวัยเกษียณ 55 - 64 ปีขึ้นไปไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ใช้ได้อย่างเดียว ใช้จ่ายได้ทุกอย่าง ยกเว้น ยาเสพติด สิ่งผิดกฏหมายทุกชนิด ลงทุนไม่ได้ ไม่มีผลกำไรตอบแทนทั้งสิ้น ค่าเงินไม่มีขึ้นไม่มีลง ใช้จ่ายได้เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น เพื่อชุมชนจริงๆ ภายในระยะไม่เกิน 4 โล คำถาม แล้วคนที่มาทำงานต่างจังหวัดจะใช้ได้รึเปล่ามีวิธีแก้ไขรึยัง? ต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ไม่มีมือถือ ไม่ต้องกังวล แค่นำบัตรประชาชนไปยื่นที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาใกล้บ้าน รอเฉยๆไม่ต้องทำอะไร อันนี้สำคัญ รัฐทำให้ อย่าเผลอใจไปกับมิจฉาชีพ ร้านค้าสามารถนำมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ครับ เสริมนิดนึงนะครับ เรื่องของร้านค้าจะแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดคืนได้ถ้าเป็นร้านมีการเสียภาษีถูกต้องอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นร้านทั่วไปไม่มีการเสียภาษีจะไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้นะครับ ซึ่งก็อาจจะต้องใช้วิธีไปเปลี่ยนเป็นซื้อของเข้าร้านกับเจ้าที่มีการเสียภาษีถูกต้องแทน (คำถามคือ ถ้ามีการตกลงกันระหว่างร้านเสียภาษีกับร้านเล็กๆที่ไม่ได้เสียภาษีแต่อยากแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด แต่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นค่าแลก แล้วแต่จะตกลง มันจะทำได้รึไม่? ตั้งเป็นคำถามตัวโตๆนะครับ) ภาพประกอบบทความ : รูปเพื่อนเก่าออกกำลังกาย By Canva, รูป working by chompoonuch-thaonang ภาพประกอบบทความ : รูป Detailed Hand Drawn Group of Diverse White Women by sketchify ภาพประกอบบทความ : Iphon by icons8,Qr Code Label Sticke by sedulur Grafis ภาพประกอบบทความ : Document Ld Vote Flat Style Icon by iconsyภาพประกอบบทความ : ภาพแรก โดยผู้เขียนปกภาพประกอบบทความ : Beige and Orange Retro Fresh Market Festival Welcome Banner by tmintco เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !