ปรับเปลี่ยนมุมมองในช่วงวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) แล้วมาทำ Work From Home ให้มีสุข สุขทั้งคนทำงาน สุขทั้งงานสำเร็จ และหน่วยงานสามารถอยู่ได้ การทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home เป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลขอความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ และเอกชน ให้งด ลด หรือหลีกเลี่ยงการออกมาพบปะสังสรรค์กัน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์หรือปัญหาโรคระบาดระดับโลกก็ว่าได้ หากเราได้ติดตามข่าวสาร จะพบว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่พบกับปัญหาการอยู่บ้าน หรืออยู่ในสถานที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานานโดยไม่ได้ออกไปไหน มีปัญหาทางสภาพจิตใจ แต่เนื่องจากมาตรการดังกล่าวเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ แล้วมาทำ Work From Home อย่างไร? ให้มีสุข “งานสำเร็จ คนสำราญ หน่วยงาน Happy” กัน 1. ปรับเปลี่ยนมุมมอง หรือทัศนคติไปในเชิงบวก ภายใต้วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา รัฐบาลออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ส่งผลให้หลายกิจการอาทิ สนามมวย สนามกีฬา สถานบริการ กิจการที่มีการการรวมตัวของคนจำนวนมาก ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นพื้นที่ติดต่อโรคต้องปิดกิจการลง หรือหลาย ๆ กิจการที่ไม่มีลูกค้าเนื่องจากคนไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอย ต้องปิดกิจการหรือลดเวลาการทำงานลงทำให้หลาย ๆ คนต้องตกงาน หรือรายได้ลดน้อยลงในขณะที่รายจ่ายยังคงมีตามมา การปรับมุมมองในเชิงบวกอย่างน้อยการที่กิจการหรือหน่วยงานที่เราทำงานอยู่ ไม่มีการปิดตัวลงแต่มีการปรับเปลี่ยนการทำงานมาเป็นการทำงานที่บ้าน (Work From Home) เราโชคดีกว่าหลาย ๆ คนแล้วที่ยังมีงานทำ และไม่ต้องออกไปในพื้นที่เสี่ยงซึ่งไม่ทราบว่าเมื่อไหร่เราจะติดโรคกลับมา การปรับเปลี่ยนมุมมองดังกล่าว นอกจากทำให้ใจสบายแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับจิตใจ 2. วางแผนและเตรียมการ เป้าหมายของการดำเนินกิจการ หรือธุรกิจคือองค์กรมีรายได้ สามารถเลี้ยงตัวเองและพนักงานของกิจการได้ ส่วนจะมีรายได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหารหรือเป้าหมายของกิจการนั้น ๆ การปรับเปลี่ยนการทำงานจากเดิมทำงานที่สำนักงาน หรือหากคุณทำงานด้านการตลาดต้องมีการออกไปหาลูกค้าภายนอก มาเป็นการทำงานที่บ้าน (Work From Home) พร้อมทั้งให้การดำเนินกิจการ หรือธุรกิจเป็นไปตามเป้าหมายก็ต้องมีการวางแผนและเตรียมการ หลาย ๆ หน่วยงานที่รู้จักมีการวางแผน และเตรียมการ อาทิเช่น นำข้อมูลของลูกค้าหรือรายละเอียดสินค้าของหน่วยงานเก็บไว้ในฐานข้อมูลซึ่งพนักงานสามารถเชื่อมต่อหรือเข้าถึงฐานข้อมูลดังกล่าวได้จากช่องทางที่หน่วยงานกำหนดผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการประชุมเพื่อหาข้อยุติหรือข้อตกลงในการดำเนินงานมาเป็นการประชุมผ่าน Application ต่าง ๆ เป็นต้น 3. กำหนดเป้าหมายในการทำงาน เมื่อมีการวางแผนและเตรียมการซึ่งเป็นหน้าที่ของทุก ๆ คนในองค์กรหรือหน่วยงานที่ต้องช่วยกันคิดช่วยกันทำแล้ว การทำงานที่บ้าน (Work From Home) จะไม่มีหัวหน้างานมาคอยจู้จี้จุกจิก หรือคอยบอกให้คุณทำงานแบบนั้นแบบนี้ คุณต้องเป็นหัวหน้างานตัวเอง คอยควบคุมการทำงานของตัวเองให้บรรลุผลตามเป้าหมาย ดังนั้นการกำหนดเป้าหมายในการทำงานจึงมีความสำคัญ ในกรณีงานไม่เร่งรีบ มีกำหนดส่งชัดเจนอาจกำหนดเป้าหมายในการทำงานในแต่ละวันให้สามารถทำส่งทันเวลา และในแต่ละเป้าหมายที่กำหนดก็อาจมีการให้รางวัลเล็ก ๆ กับตัวเองเพื่อไม่ให้ทำงานอย่างเคร่งเครียดเกินไป 4. พักกายพักใจ ปัญหาออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ไม่ได้เกิดจากการนั่งทำงานที่สำนักงานเป็นเวลานาน หากแต่เกิดจากการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยอิริยาบถเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เป็นระยะเวลานาน เมื่อนั่งทำงานเป็นเวลานาน ควรพักกายและพักใจบ้าง โดยการหากิจกรรมอื่น ๆ มาทำ เช่น การเข้าครัวทำอาหาร การปลูกต้นไม้ ฯลฯ นอกจากจะทำให้กายและใจผ่อนคลายแล้วอาจทำให้เราค้นพบพรสวรรค์ด้านอื่น ๆ ของตัวเองก็ได้ 5. พัฒนาตนเอง การทำงานที่บ้าน (Work From Home) หากมีวินัยพอ คือไม่ตื่นสาย หรือไม่ทำงานค่อยมาทำเอาวันใกล้ ๆ กำหนดส่ง จะทำให้เรามีเวลามากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทาง ตื่นมาก็ทำงานได้เลย เวลาที่มีมากขึ้นดังกล่าวสามารถนำมาจัดสรรเพื่อพัฒนาตนเอง เพื่อจัดการข้อบกพร่องของตนเอง เสริมสร้างศักยภาพให้กับตนเอง จบวิกฤตการณ์โรคระบาดดังกล่าวแล้ว กิจการหรือหน่วยงานนอกจากจะได้บุคลากรที่มีความสามารถเพิ่มขึ้นมาช่วยกันพัฒนาองค์กร อาจเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้พบกับงานที่ดีกว่า หรือค่าตอบแทนที่ดีขึ้นจากศักยภาพที่เพิ่มขึ้นก็ได้ เป็นอย่างไรบ้าง? กับแนวความคิด Work From Home อย่างไร? ให้มีสุข “งานสำเร็จ คนสำราญ หน่วยงาน Happy” ทั้งนี้แนวความคิดดังกล่าวจะประสบความสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะนำไปปรับใช้ได้มากน้อยแตกต่างกันไป และขอเน้นไปที่การพัฒนาตนเองเนื่องจากมีความเห็นว่า แม้จะจบวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ครั้งนี้ หลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่างจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน!! เครดิตภาพ (เรียงตามลำดับจากภาพที่ 1-4) https://www.pexels.com https://www.pexels.com https://www.pexels.com https://www.pexels.com ติดตามบทความจาก MKImagine ได้ที่ https://www.facebook.com/MKimagine-112372353614803