เคยไหมที่อยากจะออกไปไหนสักแห่งที่เงียบ สงบ ไร้ผู้คน หนึ่งในสถานที่ที่อยากแนะนำ คือ ไร่ข้าวหมุนเวียนของชาวกะเหรี่ยงที่ทำอยู่บนภูเขา ทำไมถึงถือว่าเป็นอีกสถานที่ที่อยากแนะนำ เพราะเป็นสถานที่ที่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้นั่นเอง ก่อนอื่นก็มาทำความรู้จักกับไร่หมุนเวียนกันก่อน ขอพูดถึงบริบทของชาวกะเหรี่ยงในจังหวัดกาญจนบุรีที่มีภูมิศาสตร์คล้ายๆ กับทางภาคเหนือ โดยเฉพาะในเขตตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีที่เป็นภูมิลำเนาของผู้เขียนเอง คนที่ทำไร่ข้าวหมุนเวียน คือ การทำไร่ข้าวบนภูเขาที่จะสลับทำในแต่ละปีในที่ๆ เหมาะสม ไม่ขัดกับความเชื่อ ประเพณี วิถีปฏิบัติ และสิ่งแวดล้อม เมื่อไร่ข้าวเก่ากลายเป็นไร่ซาก ธรรมชาติได้ฟื้นฟูทุกอย่างให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ค่อยเวียนกลับไปทำใหม่ ซึ่งใช้เวลา 3-7 ปีเป็นอย่างต่ำ ต่างจากการทำไร่เลื่อนลอย ที่เป็นการทำแบบไปเรื่อยๆ ที่ไหนก็ได้ที่อยากทำ คนที่รู้จักหลายๆ คน แม้แต่ญาติพี่น้องชอบที่จะไปอยู่ไร่ข้าวบนเขามากกว่าที่จะอยู่ในหมู่บ้าน เพราะเป็นเหมือนการไปอยู่อีกที่หนึ่งที่ไม่วุ่นวายด้วยผู้คน เสียงรบกวน สิ่งอำนาจความสะดวก เหมือนเป็นการตัดขาดจากโลกภายนอก ได้ใช้ชีวิตแบบ slow life ของจริง ไม่ต้องวิ่งตามคนอื่น ได้อยู่กับผืนไร่ข้าวเขียวๆ ภูเขา ธรรมชาติ ท้องฟ้า ลำห้วยเล็กๆ เมฆลอย ลม ฝน สัตว์ป่าเล็กใหญ่ และพอตกค่ำก็อยู่กับความมืด แสงไฟสว่างเพียงเล็กน้อย ทำให้จิตใจสงบ รีบเข้านอน เพื่อให้มีแรงตื่นมาทำงานที่เป็นนายของตนเองในทุกๆ วัน ที่สำคัญกับข้าวในกระท่อมบนภูเขามักจะอร่อยกว่าปกติ แม้เป็นเพียงแค่น้ำพริกธรรมดา ผักต้ม แตงกวา เท่าที่หาได้ในบริเวณไร่ข้าวแต่ก็อร่อยกว่ามื้อไหน ๆ ได้เสมอ ความสุขของคนที่ไปนอนไร่ข้าวบนภูเขา ก็การไปพักอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นการได้ย้อนกลับมาดูตนเอง พิจารณาสิ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิต ลดความวุ่นวาย เหมือนเป็นการปลีกวิเวกตามภาษาพระ ตัดขาดจากโลกภายนอกได้ในระยะหนึ่ง ได้อยู่กับตนเอง อยู่กับครอบครัวเล็กๆ คนรู้จักไม่กี่คน มีความสุขจากการได้มานั่งพูดคุยหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานในไร่ข้าวมาทั้งวัน อยากรู้ว่าโลกอีกใบที่แท้จริงเป็นอย่างไร ถ้าไม่เข้าวัดปฏิบัติธรรม ก็ลองไปนอนที่ไร่ข้าวดูสักครั้งในชีวิต แล้วจะได้รู้ว่าความสุขง่ายๆ และแท้จริงเป็นอย่างไร ทุกภาพประกอบ โดยผู้เขียน ขอบคุณ Canva ช่วยตกแต่งภาพปก เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !