สรุปหนังสือพัฒนาตัวเอง (SELF HELP) ของ DR. WAYNE W. DYER | บทความโดย Pchalisa หนังสือ Self-help หมายถึง หนังสือที่เขียนขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถแก้ไขปัญหาส่วนตัวต่างๆ ในชีวิตได้เอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ การทำงาน การเงิน หรือแม้แต่การพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ซึ่งหนังสือประเภทนี้มักจะให้คำแนะนำ ข้อคิด หรือเทคนิคต่างๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันได้ค่ะ และคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? หนังสือที่ชื่อว่า “10 SECRETS FOR SUCCESS AND INNER PEACE ที่เขียนโดย DR. WAYNE W. DYER นั้น หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมหลักการและแนวคิดที่เป็นประโยชน์ในการสร้างความสำเร็จและความสุขภายในใจ ที่สามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันค่ะ โดยผู้เขียนจะขอสรุปเป็นความรู้สั้นๆ ที่อ่านได้ภายในหนึ่งบทความ ส่วนจะมีเนื้อหาอะไรน่าสนใจบ้างนั้น อ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ ดังนี้ 1. เชื่อมต่อกับจิตวิญญาณภายใน การค้นหาและเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณภายในเป็นรากฐานสำคัญของความสุขและความสำเร็จค่ะ โดยการเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณภายใน เป็นแนวคิดที่มักปรากฏในศาสตร์ด้านการพัฒนาตนเองและจิตวิญญาณ หมายถึงการที่เราหันเข้ามาสำรวจและทำความเข้าใจส่วนลึกที่สุดของตัวเราเอง นั่นคือ จิตวิญญาณ หรือบางครั้งเรียกว่า "ตัวตนที่แท้จริง" หรือ "แก่นแท้" ของเรา 2. คิดบวก การฝึกคิดในแง่ดีจะดึงดูดพลังงานบวกเข้ามาในชีวิตและช่วยให้เราเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้ หมายความว่า เมื่อเราฝึกฝนตัวเองให้คิดในแง่ดี มองโลกในแง่บวก สิ่งดีๆ และโอกาสต่างๆ ก็จะเข้ามาในชีวิตเรามากขึ้น นอกจากนี้ การคิดบวกยังช่วยให้เรามีพลังใจในการเผชิญหน้าและเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย 3. ปล่อยวางอดีต การยึดติดกับอดีตจะทำให้เราไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ การปล่อยวางอดีตจะเปิดโอกาสให้เราเริ่มต้นใหม่ เมื่อเรายังคงยึดติดกับเหตุการณ์ในอดีต เช่น ความผิดพลาด ความเจ็บปวด หรือความเสียใจ เราจะรู้สึกเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ ไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ความคิดถึงอดีตจะรบกวนจิตใจ ทำให้เราขาดความสุขและโอกาสดีๆ ในปัจจุบันค่ะ 4. ให้อภัย การให้อภัยทั้งตนเองและผู้อื่นจะช่วยปลดปล่อยความทุกข์และสร้างความสงบภายใน เมื่อเราสามารถให้อภัยทั้งตัวเองในสิ่งที่เราเคยทำผิดพลาด และให้อภัยผู้อื่นที่เคยทำร้ายเรา เราจะสามารถปล่อยวางความโกรธ ความแค้น ความเสียใจ และความผิดหวังที่ฝังอยู่ในใจได้ ทำให้จิตใจของเราเบาลง และเกิดความสงบสุขภายในขึ้นมาค่ะ 5. รักตัวเอง การรักตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การดูแลเอาใจใส่ร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของตนเองจะทำให้เรามีความสุขและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น การรักตัวเองเป็นเหมือนรากฐานที่แข็งแรงของต้นไม้ เมื่อรากแข็งแรง ต้นไม้ก็จะเติบโตงอกงามได้ดีเช่นกัน การรักตัวเองก็เช่นกัน เมื่อเรารักตัวเอง เราก็จะมีความสุขและพลังงานในการดำเนินชีวิต การดูแลตัวเองทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ เมื่อเรารักตัวเอง เราก็จะรู้จักคุณค่าของตัวเอง และไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเรา เราจึงสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้ 6. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจและมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายระยะสั้นหรือระยะยาว เป้าหมายนั้นจะทำหน้าที่เหมือนเป็น "แผนที่" ที่บอกทิศทางให้เราได้รู้ว่าเราต้องการไปไหน และจะทำให้เรามีแรงผลักดันในการก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งค่ะ 7. สร้างความสัมพันธ์ที่ดี การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างจะช่วยให้เรามีความสุขและได้รับการสนับสนุน การที่เราสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่อยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน พี่น้อง หรือเพื่อนร่วมงาน จะส่งผลดีต่อชีวิตของเราอย่างมาก ทำให้เรารู้สึกมีความสุข มีความอบอุ่นใจ และได้รับกำลังใจจากคนรอบข้าง 8. ให้และรับ การให้และการรับเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิต การให้จะทำให้เรารู้สึกดีและการรับจะทำให้เรารู้สึกขอบคุณ การให้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ เวลา หรือความช่วยเหลือ จะทำให้เรารู้สึกดี มีความสุขที่ได้แบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่น การให้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ทำให้เรามีเพื่อนที่ดี มีคนรัก และมีสังคมที่อบอุ่น การให้จะช่วยให้เราเติบโตในด้านจิตใจ ทำให้เรามีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น การรับสิ่งที่ผู้อื่นให้มา จะทำให้เรารู้สึกขอบคุณ และตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งที่ได้รับ การรับด้วยความเต็มใจและแสดงความขอบคุณ จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น การรับสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ประสบการณ์ หรือโอกาส จะช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาตนเอง การให้และการรับเป็นเหมือนเหรียญสองด้าน ที่ต้องมีความสมดุลกัน หากเรามัวแต่ให้โดยไม่รับบ้าง เราอาจจะรู้สึกเหนื่อยล้า หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ ในทางกลับกัน หากเรามัวแต่รับโดยไม่ให้บ้าง เราอาจจะรู้สึกผิด หรือรู้สึกว่าเป็นการเอาเปรียบผู้อื่น การสร้างความสมดุลระหว่างการให้และการรับ จะทำให้เรามีความสุขและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น 9. เรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดชีวิตจะช่วยให้เราพัฒนาตนเองและมีความสุขกับชีวิต การที่เราไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นทักษะใหม่ ความรู้ใหม่ หรือแม้แต่ประสบการณ์ใหม่ๆ จะช่วยให้เราเติบโตในทุกๆ ด้าน และนำมาซึ่งความสุขในการใช้ชีวิต การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เพราะมันจะช่วยให้เราเติบโตทั้งในด้านส่วนตัวและด้านอาชีพ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสุขให้กับชีวิตของเราอีกด้วย 10. ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ การใช้ชีวิตอย่างเต็มที่หมายถึงการทำในสิ่งที่เรารักและมีความสุข การใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ คือการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุดในทุกๆ วัน โดยคำนึงถึงหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การทำตามความฝัน: การกล้าที่จะทำในสิ่งที่เราใฝ่ฝันและมีความสุข การออกนอกกรอบและลองทำสิ่งใหม่ๆ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี: การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างมีคุณภาพ การสร้างความผูกพันและความรัก การดูแลสุขภาพ: ทั้งร่างกายและจิตใจ การออกกำลังกาย การกินอาหารที่มีประโยชน์ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ การเรียนรู้ตลอดชีวิต: การเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ การพัฒนาทักษะและความรู้ของตนเอง การให้: การแบ่งปันสิ่งดีๆ กับผู้อื่น การทำความดีเพื่อสังคม การใช้ชีวิตในปัจจุบัน: การไม่ยึดติดกับอดีต และไม่กังวลกับอนาคตมากเกินไป 11. ฝึกสมาธิ การฝึกสมาธิจะช่วยให้จิตใจสงบและมีความสุข การฝึกสมาธิเป็นเหมือนการฝึกจิตใจให้สงบและมั่นคง นำไปสู่ความเข้าใจตัวเองและโลกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เรารู้สึกมีความสุขและเป็นสุขได้อย่างแท้จริง การฝึกสมาธิช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ลดความเครียด ความวิตกกังวล และอารมณ์ด้านลบต่างๆ การฝึกสมาธิช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของจิตใจและอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น การฝึกสมาธิช่วยให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีสติและไม่ยึดติด 12. ขอบคุณในสิ่งที่ตนมี การรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่ตนมีจะช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้น เมื่อเราหันมาให้ความสำคัญและรู้สึกขอบคุณในสิ่งดีๆ ที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพที่ดี ครอบครัว เพื่อนฝูง งานที่ทำ หรือแม้กระทั่งสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น อาหารการกิน ที่อยู่อาศัย เราจะรู้สึกพึงพอใจและมีความสุขมากขึ้น 13. สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น การสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นจะทำให้เรารู้สึกมีคุณค่า โดยประโยคนี้เป็นประโยคที่สื่อถึงความเชื่อมโยงระหว่างการให้และการได้รับ เมื่อเราสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นได้ หมายความว่าเราได้แบ่งปันสิ่งดีๆ ความรู้ ประสบการณ์ หรือแม้แต่แรงผลักดันให้กับคนอื่นๆ ซึ่งการกระทำนี้เองที่ทำให้เรารู้สึกมีคุณค่าในตัวเองมากขึ้นค่ะ 14. ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ การยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของตนเองและผู้อื่นจะช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้น คำพูดนี้สื่อถึงความจริงที่ว่า มนุษย์ทุกคนล้วนไม่สมบูรณ์แบบทั้งสิ้น การพยายามที่จะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบตลอดเวลา อาจนำไปสู่ความเครียดและความทุกข์ใจได้มากกว่า เมื่อเราหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น หรือพยายามเป็นไปตามมาตรฐานที่สูงเกินจริง ความเครียดที่เกิดจากความไม่สมบูรณ์แบบก็จะลดลง การยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของเราและของผู้อื่น ทำให้เรารู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นค่ะ และการยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบของผู้อื่น ทำให้เรามีความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดี 15. เชื่อมต่อกับธรรมชาติ การใช้เวลาอยู่ในธรรมชาติจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีพลังงาน การได้สัมผัสกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า การนั่งสมาธิในสวน หรือแม้แต่การมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นต้นไม้ใบหญ้า ก็สามารถส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งกายและใจของเราได้อย่างน่าทึ่งค่ะ ธรรมชาติเป็นเหมือนยาบรรเทาความเครียดที่ทรงพลัง เสียงของธรรมชาติ สีเขียวของต้นไม้ และอากาศบริสุทธิ์ ช่วยให้ระบบประสาทส่วนกลางผ่อนคลาย ลดการหลั่งของฮอร์โมนความเครียด การอยู่ในธรรมชาติช่วยให้เราสามารถโฟกัสกับปัจจุบันขณะได้ดีขึ้น ลดความฟุ้งซ่าน และเพิ่มสมาธิในการทำงาน การใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติเป็นโอกาสที่ดีในการสำรวจจิตใจและความรู้สึกของตัวเอง ธรรมชาติเปรียบเสมือนแรงบันดาลใจที่ไม่มีวันหมดสิ้น ความสวยงามของธรรมชาติสามารถกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ การเชื่อมต่อกับธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพทั้งกายและใจ การใช้เวลาในธรรมชาติสม่ำเสมอ จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น และมีชีวิตที่สมดุลมากขึ้นค่ะ ที่โดยสรุปแล้วหนังสือเล่มนี้มุ่งเน้นให้คุณผู้อ่านตระหนักถึงพลังภายในของตนเอง และให้เครื่องมือในการสร้างชีวิตที่สมบูรณ์แบบทั้งทางร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการคิดบวก การรักตัวเอง การให้อภัย และการเชื่อมต่อกับสิ่งรอบข้างค่ะ โดยผู้เขียนเองก็ได้นำข้อมูลที่เป็นความรู้ดีๆ ในนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบความสงบใจ ไม่ชอบสร้างปัญหาหรือความเดือดร้อนใจให้คนอื่นค่ะ และชอบจัดการตัวเองมากกว่าคนอื่น เพราะผู้เขียนมองว่าเรามีหน้าที่สร้างความสำเร็จและความสุขสงบใจ ที่ควรเริ่มจากตัวเราเองค่ะ และแนวทางก็เป็นไปตามเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านลองนำไปปรับใช้กันค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://news.trueid.net/detail/DL5Vg6P3wDzy https://news.trueid.net/detail/pR57xNWwQpd8 https://news.trueid.net/detail/d8mb4bBx6zNj เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !