ครั้งแรก! ยธ.มะกันตามเงินค่าไถ่แรมซัมแวร์ ‘โคโลเนียล ไปป์ไลน์’ ได้เกือบครบ
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยว่า สามารถนำเงินส่วนใหญ่ของค่าไถ่ 4.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่บริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ จ่ายให้กับดาร์กไซด์ ผู้ก่อเหตุส่งแรนซัมแวร์เจาะระบบของบริษัทเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมากลับมาได้แล้ว
แรนซัมแวร์ดังกล่าวทำให้การทำงานของโคโลเนียล ไปป์ไลน์ บริษัทที่ทำระบบท่อส่งน้ำมันซึ่งใหญ่ที่สุดในสหรัฐคิดเป็นสัดส่วนราว 45% ของท่อส่งน้ำมันทางฝั่งตะวันออกของประเทศเกิดปัญหาไปหลายวัน จนทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำมันขึ้นตามมา
ลิซ่า โมนาโค รัฐมนตรีช่วยยุติธรรมสหรัฐ กล่าวว่า จากการสอบสวนทำให้ตรวจพบและสามารถยึดคืนบิทคอยน์มูลค่า 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นเงินค่าไถ่ส่วนใหญ่กลับคืนมาได้ ด้วยการติดตามเส้นทางการจ่ายค่าไถ่ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนพื้นฐานแต่ยังคงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง
นับเป็นครั้งแรกที่ทางการสหรัฐสามารถติดตามและยึดคืนเงินจากแรนซัมแวร์จากการทำงานของคณะทำงานที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ที่รัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน จัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อรับมือกับภัยทางไซเบอร์ในลักษณะนี้ ที่ถือเป็นอาชญากรรมที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในระยะหลัง
ปฏิบัติการดังกล่าวนำโดยสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) ที่ได้ประสานงานกับบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ ก่อนหน้าที่ทางบริษัทประกาศยอมจ่ายค่าไถ่ด้วยบิทคอยน์ให้กับดาร์กไซต์
ผู้บริหารของโคโลเนียล ไปป์ไลน์ ให้สัมภาษณ์สื่อก่อนหน้านี้ว่าบริษัทยินยอมจ่ายค่าไถ่ 4.4 ล้านดอลลาร์ตามที่ถูกเรียกร้อง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ทราบจำนวนความเสียหายจากเหตุแฮกระบบที่เกิดขึ้น และไม่ทราบว่าการฟื้นคืนระบบปฎิบัติการของบริษัทจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่
ขณะที่เบื้องหลังบริษัทได้แจ้งให้เอฟบีไอทราบอย่างลับๆ และรวดเร็ว ก่อนจะทำตามขั้นตอนคำแนะนำของเอฟบีไอ ซึ่งช่วยให้ทีมสอบสวนสามารถติดตามการจ่ายค่าไถ่เข้าสู่ระบบของคริปโตเคอเรนซีที่แฮกเกอร์ใช้ ซึ่งเชื่อว่ามีฐานที่ตั้งอยู่ในรัสเซีย กระทั่งได้ค่าไถ่ส่วนใหญ่คืนมาในที่สุด