"ภัยธรรมชาติ" คือ สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อมนุษย์และสัตว์ และไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะมนุษย์ยังไม่มีเครื่องมือที่ดีที่สุดที่จะหยุดยั้งภัยธรรมชาตินี้ได้ มีแต่เพียงคำเตือนหรือการคาดการณ์ล่วงหน้าว่ามันจะเกิดขึ้น โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์และเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ความน่าจะเป็นเข้ามาช่วยค้นหาคำตอบเท่านั้น เช่น การเกิดสึนามิ หรือที่เรียกว่าคลื่นใต้น้ำ(Tsnamis) การเกิดพายุหมุน การเกิดอุทกภัย การระเบิดของภูเขาไฟ การเกิดแผ่นดินไหวดินถล่ม และโรคระบาดต่างๆ นาๆ เป็นต้น ภัยธรรมชาติเหล่านี้มีความรุนแรงแต่ละระดับแตกต่างกันไปตามขนาดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมานี้เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์ทั้งสิ้น เรามาดูภัยธรรมชาติที่น่ากลัวและเป็นสิ่งอันตรายต่อทรัพย์สิน ต่อมนุษย์และสัตว์ ที่เรียกว่า CR :ภาพที่มา >>https://unsplash.com/ พายุ (Storm) เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปทางสภาพอากาศ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากลม ตามมาด้วยลมกระโชกรุนแรง มีลูกเห็บตก มีฟ้าร้องฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า เกิดฝนตกหนัก ร่วมถึงการพัดเอาสิ่งต่างๆ ที่อยู่บนพื้นโลกเช่น ฝุ่น ทราย หิน ขื้นมาก่อตัวทำให้เกิดความรุนแรงสามารถสร้างความเสียหายให้กับมนุษย์และสัตว์ในพื้นที่ที่เกิดพายุ พายุมักจะเกิดในพื้นที่ที่มีความกดอากาศต่ำ ทำให้กระแสลมพัดเข้าหาจุดกึ่งกลางของบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เพราะเกิดจากมวลอากาศที่ร้อนจัดจะลอยตัวสูงขึ้น ส่งผลให้มวลอากาศแนวราบมีอุณภูมิต่ำ ทำให้เกิดแรงเหวี่ยงของอากาศ เกิดกระแสการเคลื่อนที่ของลมก่อตัวเป็นก้อนเมฆ ก่อตัวเป็นลูก ๆ เป็นพายุในลักษณะต่าง ๆ ที่แตกต่างกันบ้างก็มีขนาดเล็กจนไปถึงขนาดใหญ่กินพื้นที่เป็นระยะทางเป็นวงกว้างอาจเป็นไมล์ ๆ กันเลยทีเดี่ยว คนที่มีบ้านอยู่ใกล้พายุจะได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนคนที่อยู่ในรัศมีก็อาจจะมีผลกระทบ เช่น มีฝนตกหนักไปจนถึงตกน้อยและมีมวลอากาศที่เย็นลง CR :ภาพที่มา >>https://unsplash.com/ พายุสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1. พายุฝนฟ้าคะนอง ส่วนใหญ่มักจะเกิดในพื้นที่เขตร้อน ซึ่งเกิดจากความร้อนลอยตัวสูงขึ้นไปบนอากาศ ก่อตัวจนเย็นจัดเกิดการควบแน่นชนชั้นบรรยากาศกลั่นตัวเป็นไอน้ำ เกิดเป็นเมฆขนาดใหญ่ พอใหญ่มากขั้นพอถึงจุดอิ่มตัว ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง มีทั้งกระแสลมรุนแรงมีลมกระโชก ฟ้าแลบฟ้าร้อง ทำให้เกิดฝนตกหนัก บางพื้นที่อาจมีลูกเห็บตกใส่บ้านเลื่อนจนทำให้เกิดความเสียหายหากลูกเห็บนั้นมีขนาดใหญ่ ระดับของพายุลักษณะนี้มีอยู่คือ "พายุฤดูร้อน" CR :ภาพที่มา >>https://unsplash.com/ 2. พายุหมุนเขตร้อน พายุประเภทนี้มีขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่ก่อตัวในมหาสมุทรแถบเส้นศูนย์สูตร รัศมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตร ความเร็วลม ณ จุดศูนย์กลางมีตั้งแต่ 50 ไปจนถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เท่ากับความเร็วของรถยี่ห้อหรูแรงๆ แต่ที่น่าแปลกก็คือพายุประเภทนี้จะหมุนทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือและจะตามเข็มนาฬิกาในซีกโลกใต้ เป็นการหมุ่นแบบสองขั่วโลกที่แตกต่างกันไปตามการเคลื่อนที่ของโลก อย่างประเทศไทยจะมีพายุหมุนเขตร้อน แบ่งระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน ดังนี้ 2.1 ดีเปรสชั่น เป็นพายุความเร็วลมต่ำ กระแสของลมไม่แรงมากนัก ความเร็วลมไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนใหญ่ทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน 2.2 พายุโซนร้อน เป็นพายุที่ก่อตัวขึ้นในทะเลแล้วค่อยเคลื่อนตัวเข้าหาฝั่ง ความเร็วลมไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่มีลมกระโชกรุนแรงพร้อมทั้งฝนตกหนักมาก 2.3 ไต้ฝุ่น เป็นพายุที่มีความรุ่นแรงในเขตร้อนนี้ ลักษณะจะมีสภาพอากาศโปร่งใส มีฝนตกเล็กน้อยสลับกับกระแสลมสงบ แต่เมื่อก่อตัวขึ้นจนได้ที่ควมรุนแรงจะมากขึ้นสามารถสร้างความเสียหายต่อสภาพบ้านเมืองได้ และเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ พายุหมุนเขตร้อนก่อตัวในมหาสมุทรแอตแลนติกนี้จะเรียกชื่อว่า "เฮอร์ริเคน" หากเป็นเกิดในมหาสมุทรแปซิฟิกจะเรียกว่า "ไต้ฝุ่น CR :ภาพที่มา >>https://unsplash.com/ 3.พายุทอร์นาโด ปกติพายุประเภทนี้มักเกิดในทวีปอเมริกาแถบเหนือ และมหาสมุทรแอตแลนติก มีความแตกต่างจากสภาพอากาศในเขตร้อน จะมีสภาพอากาศที่สูง พายุทอร์นาโดส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นบนบก มีความเร็วลมสูงเกิดลมหมุนที่บิดตัวจนเป็นเกลียวเหมือนสวาน จากฐานรากก้อนเมฆจะลงสู่พื้น เรียกปรากฎการนี้ว่า "ลมงวงช้าง" สามารถพัดเอาสิ่งปลูกสร้างโดยรอบที่โดนรัศมีลอยขึ้นสู่ชั้นบนอากาศ เป็นพายุที่ก่อตัวขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวเกิดขึ้นเร็วมาก คือพูดง่ายๆ ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นในตอนไหน ถึงแม่เป็นพายุที่่ก่อตัวไม่ได้นานแต่ก็สามารถสร้างความรุนแรงและเป็นอันตรายที่ร้ายแรงที่สุด CR :ภาพที่มา >>https://unsplash.com/ เรื่องของพายุ นั้นใครๆ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อได้ฟังข่าวสารจากทางวิทยุ โทรทัศน์ ทุกๆ คนต่างจะจดจ่อว่ามันจะเกิดขึ้น ณ ที่ใด ใกล้ตัวเราหรือเปล่า เพราะทุกคนจะได้เตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาตินี้ บางพื้นที่ในโลกถึงกับมีการสร้างที่หลบภัยไว้ใต้ดินอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาก็ได้สร้างบ้านใต้ดินเพื่อป้องกันลมพายุหมุนที่น่ากลัว แต่อย่างไรก็ตามทุกคนในโลกก็ควรต้องใส่ใจชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองมากขึ้น เพราะไม่รู้อีกเมื่อไหร่ในอนาคตข้างหน้า จะเกิดความรุ่นแรงของลมพายุนี้กับเรา เพราะฉะนั้นจงเตรียมพร้อมไว้อยู่เสมอ เพราะภัยธรรมชาติเกิดขึ้นได้ โดยที่คุณไม่สามารถต้้งตัวได้ทัน CR: ที่มารูปภาพหน้าปกจากเว็บไซต์โหลดภาพฟรี >>https://unsplash.com/s/ ภาพประกอบในเนื้อหานำมาจากเว็บไซต์โหลดภาพฟรี