สิ่งที่เป็นซิกเนเจอร์ (signature) ของกรมราชทัณฑ์สร้างสรรค์คนดีอย่างหนึ่งก็คือ งานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ และที่เราคุ้นตากันมากคือ งานสินค้านิรรศการผลิตภัณฑ์หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม บนถนนงามวงศ์วาน เขตลาดยาว กรุงเทพฯ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์จากไม้นานาชนิด นำมาแปรรูปสรรสร้างเป็นสินค้าหลายรูปแบบให้เรา ๆ ท่านๆ ได้น้ำลายสอด้วยความอยากได้กันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเตียงที่นอน ตู้กับข้าว โต๊ะอาหารทำจากเนื้อไม้แท้ ๆ ทั้งไม้หวงห้ามที่ต้องขออนุญาตและไม้เบญจพรรณ ดาษดื่นละลานตา ไปดูแล้วอยากมีบ้านหลังใหญ่ ๆ ไว้สำหรับเฟอร์นิเจอร์แบบนี้ ช่วงปลายปี2562 ก่อนจะไปนับถอยหลังสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2563 เริ่มต้นปีนักษัตรแรกคือ ปีชวด กรมราชทัณฑ์ กำหนดให้เรือนจำและทัณฑสถานเขต 5 ซึ่งมีเรือนจำกลางเชียงใหม่เป็นประธานเขต ได้จัดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ภาคเหนือ ขึ้นโดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 32 ถ้าเป็นคนหนุ่มก็อยู่ในวัยฉกรรจ์ ซึ่งมีความเข้มขลังตระการมากขึ้น ด้วยรูปแบบการจัดงาน และแนวคิดในการพัฒนางานราชทัณฑ์ให้มีความก้าวหน้า เป็นสากลสู่สังคมมากยิ่งขึ้น ในพิธีเปิดในการจัดงานนิทรรศการ ได้มีการแสดงในรูปแบบของ การแสดงพื้นเมืองชาวเหนือ โดยผู้แสดงเป็นผู้ต้องขังชั้นดีซึ่งใกล้กลับออกไปสู่สังคม และได้รับการพัฒนาฝึกฝนการแสดงที่ มีความสวยงามไม่แพ้กับบุคคลภายนอก ไม่ต้องจ้างออแกนไนซ์ ใช้ความสามารถของผู้บริหารเรือนจำ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และผู้ต้องขังร่วมมือกัน ในการทำงานเป็นทีมทำให้การแสดงในช่วงเปิดงาน มีความสง่าสวยงาม สวยหรู ดูแพง โดยไม่ต้องใช้เงินเป็นแสนเป็นล้านเพื่อจัดงาน ก่อนจะมีพิธีเปิด หลังจากที่ผมไปถึงหน้างาน ที่บริเวณตลาดคำเที่ยง อ.เมือง เชียงใหม่ได้เดินไปดูเต้นท์ของเรือนจำและทัณฑสถานที่มาร่วมงาน เขต 5 และเขต 6 เกือบ 20 เรือนจำ ก็มีเฟอร์นิเจอร์ไม้หลากหลายรูปแบบ เตียงไม้ที่ซื้อไปแล้วใช้ไปชั่วลูกชั่วหลาน ตู้เสื้อผ้าไม้สักลายสวย โชว์เนื้อไม้ให้ลูกค้าได้ยลโฉมมีรูปแบบต่าง ๆ แล้วแต่ว่าเรือนจำไหนจะดีไซน์แบบออกมาดึงดูดลูกค้าให้มาอุดหนุน ตู้กับข้าวลายคลาสสิครุ่นสมัยคุณปู่ คุณตา ถ่ายทอดแบบมาจนลูกหลาน โต๊ะอาหารชุด ก็มีแบบเก้าอี้ตั้งแต่เก้าอี้ 4 ที่นั่ง ไปจนกระทั่ง ขนาด 10-12 ที่นั่ง ไม่เช่นนั้นก็เป็นโต็ะประชุมตัวยาวใหญ่ สามารถนำเก้าอี้มาใส่ได้เกือบ 20 คนก็มี ในพิธีเปิดนั้น การแสดงของผู้ต้องขังที่นำมาโชว์ บนเวทีจะมีประมาณ 5 ชุด ไม่รวมการมอบรถเข็นของเนสเล่ย์ ที่มอบทุนประกอบอาชีพให้กับผู้ต้องขัง มีความสวยงามตระการตาเอามาก ๆ ชุดการแสดงชุดแรก เป็นการแสดงตีกลองนารีสะบัดชัย ของทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ แม้ผู้ต้องขังหญิงที่มาแสดงจะมีหน้าตาสวยงามอ่อนหวานน่ารักก็ตาม แต่ลีลาตีกลองสะบัดชัยก็ดูเข้มแข็งน่าติดตาม และสวยงามไม่แพ้งานใหญ่ ๆ ที่มีการจัดตามงานต่าง ๆ ส่วนการแสดงชุดที่ 2 จะเป็นชุดการแสดงที่เราไม่เคยเห็นมานาน คือ รำเทพธิดาดอย เพลงฮิตสมัยเมื่อหลายสิบปีก่อนที่ขับร้องโดย พญ.พันทิวา สินรัชตานันท์ นอกจากการแสดงจะอ่อนช้อยสวยงามแล้ว การแต่งกายของผู้ต้องขัง ในสไตล์ชนเผ่าต่าง ๆ ก็แสดงเอกลักษณ์ของชนเผ่าได้เป็นอย่างดียิ่ง วงดนตรีสะล้อซอซึง ซึ่งมีผู้ต้องขังของเรือนจำกลางเชียงใหม่บรรเลง ก็สนุกสนาน เร้าอารมณ์ให้ผู้ชม ผู้ฟังได้ม่วนซื่น โฮแซวได้เป็นอย่างดี แกะเพลงต่าง ๆ ได้อย่างนุ่มนวล และเหมือนกับต้นฉบับนักร้องทุกเม็ด สร้างความบันเทิง ได้ตลอดระยะเวลาการจัดงานในช่วงที่มีพิธีเปิดอย่างสมศักดิ์ศรีเรือนจำประธานเขต ท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พ.ต.อ. ณรัชต์ เศวตนันท์ มาเป็นประธานในพิธี ถือเป็นเกียรติแก่ชาวเรา เรือนจำและทัณฑสถานเขต 5 และเขต 6 กล่าวในพิธีเปิด ได้กล่าวขอบคุณผู้มีเกียรติทั้งหลายที่มาในงาน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของตลาดคำเที่ยงซึ่งอนุเคราะห์ให้ใช้สถานที่ในการจัดงานผลิภัณฑ์ราชทัณฑ์ภาคเหนือมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวขอบคุณทางเนสเล่ย์ ที่ได้ให้การสนับสนุนการฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขังก่อนพ้นโทษ พร้อมกับมอบทุนประกอบอาชีพให้กับผู้ต้องขัง ให้โอกาสกลับสู่สังคมโดยไม่กลับมาต้องโทษซ้ำอีก ความเป็นนักบริหารที่ให้ความใส่ใจกับผู้ใต้บังคับบัญชา ท่านอธิบดีก็เดินให้กำลังใจกับผู้บัญชาการ และเจ้าหน้าที่ที่นำสินค้าผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์มาจำหน่าย ทุกเต้นท์ ทุกเรือนจำ สร้างความประทับใจและสร้างกำลังใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นอย่างดี และยังไม่ลืมที่จะแวะไปทักทายกับแม่บ้านราชทัณฑ์ เขต 5 ทั้งหมด สร้างรอยยิ้มให้กับผู้มาร่วมงานได้อย่างถ้วนหน้า ไม่พลาดในจุดใด ๆเลย ทำให้การจัดงานในพิธีเปิดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ภาคเหนือในครั้งนี้ เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ แม้งานราชทัณฑ์ ซึ่งตั้งแต่ท่านอธิบดี ไปจนถึงข้าราชการผู้ปฏิบัติงานในเรือนจำและทัณฑสถาน จะได้ทำงานได้อย่างเหน็ดเหนื่อย ไม่มีวันหยุดต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นกระบวนการยุติธรรมสุดท้าย ในการปกป้องสังคมให้ปลอดอาชญากรรม แล้วก็ตาม แต่ต้องไม่ลืมว่า ในจำนวนบุคคล 4 ประเภทซึ่งเปรียบบัวสี่เหล่า ที่มีทั้งบัวพ้นน้ำ บัวปริ่มน้ำ บัวใต้น้ำ 3 เหล่านี้ เป็นประเภทมีสัมมาทิฏฐิ สามารถที่จะแก้ไขปรับปรุงแล้วก็ตาม แต่ก็จะยังอีกมีเหล่าหนึ่งคือ บัวในโคลนตม แก้ไขไม่ได้ แม้กรมราชทัณฑ์จะได้สรรหาทุกวิถีทางในการอบรมแก้ไขเขาเหล่านี้แล้วก็ตาม ด้วยบุคคลประเภทดอกบัวใต้ตมนี้ เป็นมิจฉาทิฏฐิ ไม่สามารถจะแก้ไขได้ จำต้องให้ระยะเวลาในเรือนจำ ทำลายศักยภาพในการประกอบอาชญากรรมเขาเหล่านี้ จึงจะสามารถป้องกันสังคมได้มากขึ้น ในสภาวะที่ผู้ต้องขังล้นคุกทุกวันนี้