ครองอำนาจครบ10ปี จากคิมน้อย สู่ท่านคิม เกาหลีเหนือดีขึ้นไหม
ครองอำนาจครบ10ปี - เอพี รายงานสรุปการครองตำแหน่งผู้นำสูงสุดอันยาวนานของ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือ ครบ 10 ปี วันวันศุกร์ที่ 17 ธ.ค.นี้
คิม จอง อึน ขึ้นมาเป็นผู้นำเกาหลีเหลือซึ่งนับเป็นรุ่นที่ 3 ของตระกูลคิม สืบทอดอำนาจต่อจาก คิม จองอิล บิดาที่อสัญกรรมด้วยโรคหัวใจ
แม้คิมไร้ประสบกาณ์ในตอนแรก แต่แสดงให้เห็นภายในเวลาอันรวดเร็วว่าเขามุ่งมั่นที่จะรวมการปกครองไว้ในกำมือโดยกำจัดลุงที่มีอำนาจและคู่แข่งคนอื่นๆ
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ คิมทดลองนิวเคลียร์และขีปนาวุธทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าอาจะเกิดสงครามเกาหลีครั้งที่ 2
คิมเปลี่ยนท่าทีและร่วมการประชุมสุดยอดการปลดอาวุธนิวเคลียร์กับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่การเจรจาล้มเหลวเพราะสหรัฐฯ เป็นแกนนำมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
ปัจจุบัน การระบาดของโควิด-19 และการคว่ำบาตรเป็นปัญหาใหญ่ คิมปิดชายแดนทั่วประเทศ ขณะที่พยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
คิมกำลังก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ของการครองอำนาจและนี่คือช่วงเวลาสำคัญ
สืบทอดอำนาจ
คิม จอง อึน เกิดวันที่ 8 ม.ค. 2527 เป็นบุตรคนที่ 3 และคนสุดท้องของคิม จอง อิล
ก.ย. 2553 สื่อทางการรายงานว่าคิม จอง อึน ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายพล 4 ดาวโดยประกาศต่อสาธารณะชนเป็นครั้งแรก
ต.ค. 2553 คิม จอง อึน ปรากฏตัวให้สาธารชนยลโฉมเป็นครั้งแรกในพิธีสวนสนามโดยยืนถัดจากพ่อรูปร่างผ่ายผอมอยู่บนระเบียงด้วยกัน เขายิ้ม ปรบมือและโบกมือให้ทหาร รถถังและขีปนาวุธที่เคลื่อนผ่าน
———
ผู้สืบทอดที่ยิ่งใหญ่
17 ธ.ค. 2554 คิม จอง อิล อสัญกรรมขณะมีอายุ 69 ปี แต่ปิดข่าวการเสียชีวิตอยู่นาน 2 วัน กว่าจะประกาศให้สาธารณชนทราบ
19 ธ.ค. 2554 สถานีโทรทัศน์ทางการเกาหลีเหนือประกาศข่าวพิเศษในช่วงเที่ยงว่าคิม จอง อิล ถึงแก่อสัญกรรม โดยมีชื่อคิม จอง อึน เป็นชื่อแรกในคณะกรรมาธิการงานศพแห่งชาติ ขณะที่สื่อรัฐเรียกเขาว่า “ผู้สืบทอดที่ยิ่งใหญ่”
30 ธ.ค. 2554 คิม จอง อึน ขึ้นเป็นผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพประชาชนเกาหลีซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดตำแหน่งแรกที่ได้รับ หลังจากสูญเสียบิดา หลายเดือนต่อมา เขาดำรงตำแหน่งผู้นำในองค์กรต่างๆ รวมทั้ง พรรคแรงงานและคณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติ
———
ล้างไพ่
ก.ค. 2555 นายพลรี ยอง โฮ หนึ่งในผู้กุมอำนาจทางการเมืองและการทหารสูงสุดของเกาหลีเหนือถูกปลดเป็นคนแรก ถือเป็นบุคคลระดับสูงคนแรกที่คิม จอง อึน กำจัดให้พ้นทาง
ธ.ค. 2556 นายพลจาง ซอง แต๊ก อาเขยผู้ทรงอิทธิพลถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมข้อหากบฏ คอร์รับปันและข้อหาอื่นๆ
พ.ค. 2558 หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ระบุว่าคิม จอง อึน สั่งสังประหารฮยอน ยอง โชล รัฐมนตรีกระทรวงอาวุธฐานวิจารณ์คิม จอง อึนและหลับในการประชุมที่คิม จอง อึน เป็นประธานการประชุม
ก.ย. 2560 คิม จอง นัม พี่ชายต่างมารดาของคิม จอง อึน ถูกสังหารที่สนามบินมาเลเซียเพราะถูกวางยาพิษวีเอ็กซ์ซึ่งเป็นสารพิษทำลายประสาทโปะหน้า เหตุการณ์นี้ มีหญิงชาวเอเชียถูกจับกุม 2 คน แต่หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้กล่าวหาว่าเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการสังหาร แต่เกาหลีเหนือปฏิเสธข้อกล่าวหา
———
ความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์
ธ.ค. 2555 เกาหลีเหนือประกาศว่าส่งจรวดปล่อยดาวเทียมเข้าสู่วิถีโคจร แต่คนภายนอกกล่าวว่าเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการปล่อยจรวดพิสัยไกล ส่วนสหประชาชาติเห็นว่าเกาหลีเหนือละเมิดข้อห้ามที่ไม่ให้ทดลองขีปนาวุธ
ก.พ. 2556 เกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 และเป็นการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดินครั้งแรกในยุคคิม จอง อึน ปกครองประเทศ
2559 เกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์อีก 2 ครั้งและปล่อยดาวเทียมครั้งที่ 2
4 ก.ค. 2560 เกาหลีเหนือทดสอบการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งแรกซึ่งคิมเรียกว่าเป็น “ของขวัญ” สำหรับวันชาติสหรัฐฯ และยังทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปอีก 2 ลูกในปีเดียวกัน
ส.ค. 2560 ทรัมป์เตือนเกาหลีเหนือว่าอาจจะเผชิญนห้ากับไฟบรรลัยกัลป์ที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน เกาหลีเนหือจึงตอบโต้ด้วยการปล่อยขีปนาวุธปังเกาะกวมซึ่งเป็นเขตปกครองของสหรัฐฯ
ก.ย. 2560 เกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 และเป็นนิวเคลียร์ที่ทรงพลังมากที่สุดเท่าที่เคยทดสอบซึ่งกล่าวกันว่าเป็นระเบิดไฮโรเจนที่ติดตั้งไว้ที่หัวขีปนาวุธข้ามทวีป
———
วิถีการทูต
เม.ย. 2561 คิม จอง อึน จัดประชุมกับมูน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ซึ่งเป็นการประชุมระดับผู้นำครั้งที่ 3 ของเกาหลีทั้ง 2 ประเทศ นับตั้งแต่แยกเป็น 2 ประเทศในปี 2497 และผู้นำ 2 เกาหลียังจัดประชุมระดับผู้นำอีก 2 ครั้ง
มิ.ย. 2561 คิม จอง อึน หารือกับทรัมป์ที่สิงคโปร์ซึ่งเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ นับตั้งแต่สงครามเกาหลียุติลง คิมให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าปลดอาวุธนิวเคลียร์ทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมทั้งเสนอตารางเวลาหรือโร้ดแมปในการปลดอาวุธ
ก.ย. 2562 คิม จอง อึน พบกับทรัมป์ที่กรุงฮานอยของเวียดนามในการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 แต่การประชุมล้มเหลวเพราะเกาหลีเหนือไม่พอใจมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
มิ.ย. 2562 คิม จอง อึน พบทรัมป์อีกครั้งที่เขตปลอดทหารระหว่างชายแดนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ แต่การประชุมครั้งที่ 3 จบลงโดยไม่มีความคืบหน้าในการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
———
ต่อสู้ดิ้นรน
มิ.ย. 2563 เกาหลีเหนือระเบิดอาคารสำนักงานประสานงานกับเกาหลีใต้ซึ่งอยู่ในดินแดนเกาหลีเหนือเพื่อตอบโต้ที่นักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ปล่อยบอลลูนติดใบปลิวเข้าไปในเกาหลีใต้ ถือเป็นการกระทำที่คุกคามรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เจรจากับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในปี 2561
ม.ค. 2564 คิม จอง อึน ยอมรับต่อการประชุมพรรคแรงงานครั้งแรกในรอบ 5 ปีว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจไม่บรรุเป้าหมาย แต่ยังขู่ว่าจะขยายคลังอาวุธนิวเคลียร์และพัฒนาอาวุธให้ซับซ้อนขึ้นเพื่อประท้วงสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็นปรปักษ์ของสหรัฐ
เม.ย. 2564 คิม จอง อึน กล่าวว่าเกาหลีเหนือเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพราะปัญหารุมเร้าทั้งโรคระบาด มาตรการคว่ำบาตรและภัยพิบัติธรรมชาติ
ต.ค. 2564 คิม จอง อึน ตั้งปณิธานว่าจะสร้างกองทัพที่เกรียงไกรพ่ายแพ้ไม่เป็น โดยกล่าวในงานนิทรรศการอาวุธหายาก รวมทั้ง ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ยิงไปไกลถึงประเทศสหรัฐ
.