ค่าไฟขึ้น การผลิต-ท่องเที่ยวกระทบหนัก! เอกชนจี้รัฐเร่งช่วยเหลือ

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ ค่า Ft เดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 มาอยู่ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลทำให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.72 บาทต่อหน่วยนั้น ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อทั้งภาคเอกชน และภาคประชาชน

ด้วยเหตุนี้ จึงอยากให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) หาแนวทางปรับลดค่าไฟลงมามากกว่านี้ เนื่องจากแรงกระเทือนต่อภาคครัวเรือนมีสูงมาก เพราะส่งผลกระทบทุกภาคส่วน ทั้งอุตสาหกรรมการผลิต การท่องเที่ยวและบริการ แม้รัฐบาลจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการหรือครัวเรือน ผู้ใช้ไฟฟ้า แต่มองว่าไม่เพียงพอ 

นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า กฟผ.ควรต้องเสียสละเพื่อช่วยเหลือประชาชน ในช่วงภาวะวิกฤตตอนนี้ เพราะกฟผ.ถือเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา รวมถึงราคาพลังงานในตอนนี้ก็ปรับลดลงมาบ้างแล้ว จึงต้องไม่ลืมว่าประชาชนคือ ผู้จ่ายค่าไฟฟ้าที่ช่วยสร้างผลกำไรให้กับการไฟฟ้าตลอดมา

โดยการปรับค่าไฟครั้งนี้ ส่งผลกระทบทุกภาคส่วน เพราะภาคการผลิตใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ส่วนการที่เอกชนต้องปรับขึ้นราคาสินค้านั้น เป็นเพราะแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว และตอนนี้มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งเรื่องนี้เอกชนยอมรับ เพราะการปรับขึ้นค่าแรงถือว่ามีความเหมาะสม แต่ในส่วนของการขึ้นค่าไฟฟ้ามองว่ายังไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก

ดังนั้นในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ครั้งถัดไปในเดือนกันยายนนี้ จะมีการหารือกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า และอาจมีข้อเสนอเพื่อยื่นต่อรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนต่อไป 

ข้อมูลจาก : TNN ONLINE

ภาพจาก : TNN