ประท้วงเดือดที่ฟิลิปปินส์ต่อต้านคอร์รัปชันจนเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นฟิลิปปินส์ที่ถูกเผยแพร่ออกมาวันนี้ (22 กันยายน) ระบุว่าแม้ว่าการประท้วงที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ยังคงเป็นไปด้วยความสงบ แต่ในวันนี้การประท้วงดังกล่าวกลับลุกลามจนเกิดเป็นความรุนแรงขึ้นโดยเฉพาะบรรยากาศการชุมนุมที่ตึงเครียดบริเวณสะพาน Ayala Bridge และ ถนน Mendiola ในกรุงมะนิลา 

มีรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่พยายามวาดภาพกราฟิตีบนกำแพงตามท้องถนน นอกจากนี้ยังพบกลุ่มผู้ประท้วงที่พยายามโค่นเสาเหล็ก ทุบกระจกแตก และบุกปล้นล็อบบี้ของโรงแรมริมถนนสายยอดนิยมแห่งหนึ่งด้วย 

เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยด้วยว่าขณะนี้มีผู้ประท้วงถูกควบคุมตัวแล้วอย่างน้อย 224 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ขณะที่มีรายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อย 131 นายได้รับบาดเจ็บหลังการปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงโดยเจ้าหน้าที่บางคนได้รับบาดเจ็บสาหัส 

อัลจาซีรา รายงานว่าประท้วงเมื่อวานนี้ (21 กันยายน) มีผู้มาเข้าร่วมมากกว่า 33,000 คน ที่ออกมารวมตัวกลางกรุงมะนิลาเพื่อต่อต้านคดีอื้อฉาวการทุจริตที่เชื่อมโยงกับโครงการระบายน้ำปลอมซึ่งทำให้ประชาชนผู้เสียภาษีต้องสูญเสียงบประมาณไปนับพันล้านดอลลาร์ ซึ่งกระแสความโกรธเกรี้ยวนี้ได้ปะทุขึ้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง TikTok, Facebook และ X โดยชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากแห่ใช้พื้นที่ออนไลน์ในการแสดงความไม่พอใจต่อสมาชิกสภาและกลุ่มนายทุนก่อสร้าง ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากวาดสัญญาโครงการ “ลวงโลก” ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

ทั้งนี้ การประท้วงที่ฟิลิปปินส์เกิดขึ้นหลังจากการประท้วงรุนแรงถึง 2 ครั้งในทวีปเอเชีย คือที่ อินโดนีเซีย และ เนปาล ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการประท้วงเพื่อต่อต้านคอร์รัปชันที่คล้ายกัน แต่กลับลุกลามจนกลายเป็นการประท้วงรุนแรงในที่สุด