คนที่มีประสิทธิภาพของหน่วยงานต้องเป็นอย่างไร ? ผู้เขียนขอนำเสนอ หลักคิดไว้ 2 ประเด็นด้วยกัน คือ เรื่องงาน กับ เรื่องความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้าของตนเอง ประเด็นแรก คือ เรื่องงาน รู้ว่างานคืออะไร รู้วิธีการทำงาน การทำงานให้สำเร็จ แต่นั่นก็สิ่งที่ธรรมดาอยู่แล้วที่จะต้องปฏิบัติ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นที่อาจจะต้องคำนึงถึงด้วย คือ ท่านอาจทำงานมากมายหลายอย่างได้ดี แต่ไม่ได้ทำดีในงานที่หัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาต้องการ ก็อาจไม่ประสบผลสำเร็จ ดังนั้น ท่านต้องรู้ว่าผู้บังคับบัญชาคาดหวังอะไร ต้องการอะไร ตัวอย่างเช่น ผู้บังคับบัญชาของท่าน เน้นเรื่องการมาทำงานตรงเวลาแต่ท่านเห็นว่า แม้ท่านจะมาทำงานสาย แต่ก็ทำงานได้มากกว่าและผลงานดีกว่าคนที่มาเช้าแต่ไม่ได้ทำอะไร เป็นชิ้นเป็นอัน จึงคิดว่าการมาสายไม่ใช่เรื่องสำคัญ การคิดเช่นนี้คงไม่ตรงกับความคาดหวังของผู้บังคับบัญชาแน่ ๆ ดังนั้นแม้จะทำงานได้ดี แต่สิ่งที่สะดุดใจผู้บังคับบัญชาอยู่เสมอ คือเรื่องการมาสาย ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาใส่ใจมากเป็นพิเศษ ความดีของท่านก็อาจจะถูกบดบังด้วยเรื่องการไม่ทำตามนโยบายของเขา ท่านก็อาจจะไม่ประสบผลสำเร็จในการทำงาน ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งที่มักเกิดขึ้น คือ ความไม่ชัดเจนในงานที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งหากคลุมเครือมากเท่าไร ก็ยิ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน หรือผู้ใต้บังคับบัญชา ดังนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่จะต้องขจัดความไม่ชัดเจน โดยเป็นฝ่ายถามเพื่อให้เข้าใจ จะได้ทราบถึงความคาดหวังของผู้บังคับบัญชา ความรับผิดชอบต่องาน จุดมุ่งหมายของงาน สาระสำคัญ ลำดับความสำคัญและมาตรฐานของงาน เป็นต้น ประเด็นต่อมา คือ ในเรื่องความสัมพันธ์กับหัวหน้า หรือผู้บังคับบัญชาของท่านเอง ความสัมพันธ์นี้มีความสำคัญต่อความสำเร็จในการงาน และความก้าวหน้าในอนาคตของผู้ใต้บังคับบัญชา จึงต้องใช้ความพยายามให้มากกว่าปกติ เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี ท่านในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาสามารถเป็นที่ปรึกษาหรือให้ข้อเสนอแนะได้ เพราะหัวหน้างานหรือผู้บังคับบัญชานั้น มิใช่จะรู้เรื่องต่าง ๆ ไปเสียทุกเรื่อง ผู้บังคับบัญชาก็เหมือนกับคนทั่ว ๆ ไป ที่อาจพลาดพลั้งได้ ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ฉลาดควรที่จะช่วยผู้บังคับบัญชาไม่ให้เกิดความผิดพลาด เมื่อเกิดความไม่เข้าใจในผู้บังคับบัญชาต้องแสวงหาความกระจ่าง หากระหว่างการทำงานร่วมกันผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่เข้าใจการแสดงออกของผู้บังคับบัญชา แล้วตีความเอาแบบผิด ๆ และการตีความผิดนั้นก็ทำให้เกิดความไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน หรือเลยไปถึงการไม่อยากทำงานด้วย เช่น ผู้บังคับบัญชาไม่ให้ข้อมูล ซึ่งผู้ใต้บังคับบัญชาคิดว่าจำเป็นต่อการทำงานให้ถูกต้อง ผู้บังคับบัญชาไม่เชิญเข้าประชุมนัดสำคัญ เป็นต้น นานเข้าก็จะทำให้ความสัมพันธ์ไม่ดี ดังนั้นเมื่อเกิดความไม่เข้าใจ ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องเป็นฝ่ายแสวงหาความกระจ่าง เพราะผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นผู้รับรู้อารมณ์ และตีความกระทำของผู้บังคับบัญชา โดยควรเลือกเวลาและสถานที่ และวิธีการในการพูดคุยทำความเข้าใจอย่างระมัดระวัง ดังนั้น จากคำถามที่ว่า “คนที่มีประสิทธิภาพของหน่วยงานต้องเป็นอย่างไร ?” สามารถนำแนวคิดนี้ไปปรับหรือประยุกต์กับการปฏิบัติงานในหน่วยงานของท่านได้ภาพประกอบที่ 1 ภาพปกโดย pressfoto/ ภาพประกอบที่ 2 โดย lifeforstock /ภาพประกอบที่ 3 โดย pch.vector /ภาพประกอบที่ 4 โดย geralt /ภาพประกอบที่ 5 mohamed_hassan