สัญญาณดี! ไทย-ฟิลิปปินส์ จ่อยุติข้อพิพาทตอบโต้ภาษีนำเข้าบุหรี่ กับ 37 สินค้าไทย
ข่าววันนี้ 22 พฤศจิกายน ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังหอการค้าไทย หอการค้าญี่ปุ่น และสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เข้าพบและหารือเรื่องการใช้มาตราการตอบโต้ทางการค้าของฟิลิปปินส์ สืบเนื่องจากกรณีพิพาทสินค้าบุหรี่นําเข้าภายใต้ WTO ว่า ได้แจ้งกับภาคเอกชนว่าขณะนี้มีสัญญาณที่ดี หลังจากมีการหารือมาต่อเนื่องจของทูตไทยกับทูตฟิลิปปินส์ ประจำ WTO ที่เจนีวา กรณี 2 ฝ่ายกำหนดพิจารณาเรื่องมาตรการตอบโต้ทางการค้า โดยเบื้องต้นได้หารือถึงทางออกที่จะไม่มีการตอบโต้ทางการค้าระหว่างกัน และได้ข้อยุติที่ส่งผลดีต่อ 2 ฝ่าย ขณะนี้ 2 ฝ่ายอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนภายใน ก่อนจะมีการตกลงและประกาศอย่างเป็นทางการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อพิพาทกรณีภาษีนำเข้าบุหรี่ เริ่มเดือนกันยายน 2551 โดยฟิลิปปินส์ยื่นฟ้องไทยต่อ WTO ให้ตัดสินเรื่องการประเมินภาษีบุหรี่ที่นำเข้าจากฟิลิปปินส์ โดย WTO ได้ตัดสินให้ฟิลิปปินส์ชนะ แต่ไทยไม่ยอมรับคำตัดสิน
ต่อมา WTO ได้มีคำตัดสินอีกครั้งปี 2554 ให้ไทยแก้ไขการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องที่ส่งผลกระทบต่อฟิลิปปินส์ ต่อมาไทยได้ยื่นอุทธรณ์และคำอุทธรณ์ของไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการอุทธรณ์ ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของการค้าโลก และฟิลิปปินส์ต้องรอให้คณะกรรมการมีคำตัดสินออกมา
จนเดือนมกราคม 2564 ทางคณะกรรมการพิกัดอัตราภาษีศุลกากรของฟิลิปปินส์ทำประชาพิจารณ์สินค้า 37 กลุ่มภาษี ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด รถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เคมีภัณฑ์ และปูนซีเมนต์ ที่นำเข้าจากประเทศไทย อาจถูกระงับสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร เพื่อตอบโต้ที่ไทยปฏิเสธการสำแดงราคาบุหรี่นำเข้าจากฟิลิปปินส์ เพราะเห็นว่าหากไทยยังคงไม่ยอมปฏิบัติตามคำตัดสินของ WTO ในคดี DS 37 ฟิลิปปินส์จะระงับสิทธิประโยชน์ทางศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าจากไทยเป็นมูลค่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งผลิตภัณฑ์จัดอยู่ในการประชาพิจารณ์ครอบคลุมรถแทรกเตอร์การเกษตร รถยนต์และยานยนต์ สินค้าเกษตร เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวขัดสี น้ำมันถั่วเหลือง เครื่องปรุงและเครื่องปรุงรส ครีมเทียมที่ไม่ใช่นม แผงกระเบื้อง ผงชูรส เป็นต้น